https://aio.panphol.com/assets/images/community/4040_5DB070.png

MOSHI หุ้นเด่น! SSSG โตแรงต่อเนื่อง โบรกฯ ชี้เป้าราคา 54 บาท

P/E 17.58 YIELD 2.37 ราคา 33.75 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: MOSHI ยังคงเป็นการเติบโตที่โดดเด่น

บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี (KSS) ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ Moshi Moshi Retail Corporation (MOSHI) โดยมองว่าเป็นบริษัทที่ยังคงเห็นการเติบโตที่ชัดเจน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ด้วย SSSG (Same Store Sales Growth) ในช่วงต้นไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ที่ยังคงเติบโต +7-8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือว่าสูงสุดในกลุ่ม และแผนการขยายสาขาที่ยังคงเป็นไปอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีนี้ ในขณะที่การแข่งขันจากคู่แข่งรายใหม่ยังอยู่ในระดับจำกัด KSS แนะนำ "ซื้อ" (Buy) โดยมีราคาเป้าหมาย (TP25F) ที่ 54.0 บาท อิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF)

รายละเอียดการวิเคราะห์: ปัจจัยหนุนการเติบโตของ MOSHI

KSS ระบุว่า SSSG ในช่วงต้นไตรมาส 1 ปี 2568 (ถึง 14 มีนาคม) ยังคงเป็นบวกที่ 7-8% โดยสินค้า Lifestyle ยังคงเป็นกลุ่มที่เติบโตได้ดีและสามารถแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากร้านค้าปลีกอื่นๆ ได้ เนื่องจากราคาย่อมเยาและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ความสำเร็จนี้มาจากการเพิ่มจำนวน SKUs (Stock Keeping Units) จาก 10,000 เป็น 12,000 รายการ, การขยายทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์, การเพิ่มสินค้า Cartoon ทั้งออกแบบเองและแบบลิขสิทธิ์, การเพิ่มสินค้า High value (ลดสินค้ากำไรต่ำ), และการปรับ Display ดึงจุดเด่นการมองเห็นสินค้าไปราว 70 สาขา และมีแผนปรับเพิ่มอีก 50 สาขาในครึ่งแรกของปี 2568

นอกจากนี้ KSS ยังคงเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต +15-20% เมื่อเทียบกับปีก่อน (KSS คาดการณ์ +21%) จาก SSSG 3-5% และการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็น 40 แห่ง (มีทำเลแล้ว 30 แห่ง) จากปี 2567 ที่เปิดไป 34 แห่ง และในช่วงต้นไตรมาส 1 ปี 2568 ได้เปิดไปแล้ว 6 แห่ง

ข้อสังเกต: การแข่งขันและผลกระทบจาก Trade War

KSS มองว่า Trade war มีผลกระทบในเชิงกลางถึงบวกเล็กน้อย เนื่องจาก MOSHI มีโอกาสซื้อสินค้าจากจีน (60% ของยอดสินค้าทั้งหมด) ได้ในราคาที่ถูกลงหรือได้เงื่อนไขการค้าที่ดีขึ้น บริษัทมีซัพพลายเออร์หลักหลายร้อยรายในจีน ซึ่งมีลูกค้าทั้งในเอเชียและทวีปอเมริกา KSS เห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในด้านการเจรจาต่อรองและการซื้อขั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม KSS มองว่ามีปัจจัยหักล้างบางส่วนจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Trade war

ในด้านการแข่งขัน KSS มองว่ายังอยู่ในระดับจำกัดจากทั้ง KKV และ MINISO โดย i) KKV เปิดแล้ว 7 สาขา (สาขาแรกเปิด 31 ต.ค. 2567) ซึ่งมี 6 สาขาที่อยู่ในห้างเดียวกันกับ MOSHI (2-3% ของยอดขาย) พบว่า SSSG ของ MOSHI ยังคงเป็นบวกและไม่ได้รับผลกระทบ KSS เชื่อว่าคู่แข่งยังต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์และปรับรูปแบบสินค้าและราคาให้ตอบโจทย์ ii) ด้าน Miniso หลังจากที่ชะลอการเปิดสาขาในช่วงปีก่อน ซึ่งมีอยู่ราว 60-70 แห่ง เริ่มเห็นการปรับตัวโดยอิงนโยบายของบริษัทแม่ในจีน โดยมีเป้าหมายที่จะเน้นสินค้ากลุ่มลิขสิทธิ์เป็น 50% ของรายได้ในปี 2571 (IP : Intellectual property) อาทิ Harry Potter, Disney, Sanrio ฯลฯ โดยไทยได้ทดลองแล้ว 3 สาขา (สาขาแรกเริ่ม ม.ค. 2568) ทั้งนี้ สินค้า IP มีทั้ง Exclusive และ Non-exclusive และเมื่อเทียบกับ MOSHI ที่มีรายได้จากกลุ่มดังกล่าวคิดเป็น 15% ของทั้งหมด และมี 2 สาขาที่อยู่ในห้างเดียวกันกับ Miniso พบว่า SSSG ของ MOSHI ยังคงเป็นบวกใกล้ค่าเฉลี่ยที่ 7-8% เมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไป แต่โดยรวมแล้ว KSS มองว่า MOSHI ยังมีจุดเด่นด้านราคาสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่า

สรุป: แนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 54 บาท

KSS ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ MOSHI และคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 617 ล้านบาท (+18% เมื่อเทียบกับปีก่อน) และมองเห็นภาพการเติบโตที่ชัดเจนในระยะ 3 ปี ทั้งจาก SSSG และสาขาใหม่ โดยคาดการณ์ CAGR (Compound Annual Growth Rate) ที่ +18% KSS มองว่าสาขารูปแบบ Standalone ในแหล่งชุมชน และสามารถขยายไปยังอำเภอรองได้นั้น เป็นสิ่งที่น่าสนใจและเป็น Potential upside ในระยะยาว KSS แนะนำ "ซื้อ" (Buy) โดยมีราคาเป้าหมาย (TP25F) ที่ 54.0 บาท อิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) โดยปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ PER20x (-2.3 SD) ซึ่ง KSS มองว่าเป็นโอกาสในการสะสม

โพสต์ล่าสุด