บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday SECURE: เจาะลึกโอกาสและความท้าทายในโลกไซเบอร์ซิเคียวริตี้ปี 2567
P/E 9.14 YIELD 7.50 ราคา 12.00 (0.00%)
สรุป Oppday Nforce Secure: เจาะลึกโอกาสและความท้าทายในโลกไซเบอร์ซิเคียวริตี้ปี 2567
สวัสดีครับ พบกับการสรุปผลการประชุม Oppday ของบริษัท Nforce Secure จํากัด (มหาชน) สําหรับผลประกอบการประจําปี 2567 โดยมีประเด็นสําคัญที่น่าสนใจดังนี้ครับ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ในปีที่ผ่านมา Nforce Secure มีรายได้จากการขายและการบริการรวม 1,238 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ประมาณ 15% โดยรายได้หลักยังคงมาจากผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Network Security ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า (36%) ในขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นภาคเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนรายได้รวมกันกว่า 50% อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้า Telecommunication มีสัดส่วนรายได้ลดลงเหลือ 18% ในขณะที่กลุ่ม Platform เติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 28% อัตรากําไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 19.9% คิดเป็น 245 ล้านบาท ในขณะที่กําไรสุทธิ (Net Profit) อยู่ที่ 115 ล้านบาท คิดเป็น 9% ของรายได้รวมทั้งหมด
ในส่วนของงบแสดงฐานะทางการเงิน กลุ่มสินทรัพย์ที่สําคัญที่สุดยังคงเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน โดยมีองค์ประกอบหลักคือ เงินสดและเงินฝากธนาคาร และลูกหนี้การค้า ในขณะที่กลุ่มหนี้สินส่วนใหญ่ยังคงเป็นเจ้าหนี้การค้า อัตราส่วนทางการเงินที่สําคัญ เช่น ROA และ ROE มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ (0.4 เท่า)
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
Nforce Secure มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สําคัญในการเติบโตของตลาด Cyber Security ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย โดยอ้างอิงจากรายงานวิจัยของ Gartner ซึ่งคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้าน Cyber Security ทั่วโลกจะเติบโต 15% ในปี 2568 และ 13% ในปี 2569 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Attack) ที่มีความซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น รวมถึงการนําเทคโนโลยี AI มาใช้ในการโจมตีและป้องกันภัยคุกคาม
ในส่วนของประเทศไทย Gartner คาดการณ์ว่าตลาด Cyber Security จะเติบโตประมาณ 10-12% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกเล็กน้อย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและงบประมาณภาครัฐที่จํากัด อย่างไรก็ตาม Nforce Secure มองเห็นโอกาสในการเติบโตในกลุ่มลูกค้า Financial Sector และ Healthcare Sector ซึ่งมีการลงทุนด้าน Cyber Security อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่องค์กรต่างๆ หันมาใช้ Cloud Computing มากขึ้น ก็เป็นโอกาสในการให้บริการ Cloud Security และ Cloud Workload Protection
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ความเสี่ยงที่สําคัญที่สุดที่ Nforce Secure กําลังเผชิญอยู่คือ ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้าน Cyber Security ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาครัฐ ซึ่งมีบุคลากรด้าน Cyber Security เพียง 0.5% ของข้าราชการทั้งหมด ทําให้หน่วยงานภาครัฐหลายแห่งต้องพึ่งพา Outsource หรือ MSP ในการให้บริการด้าน Cyber Security
นอกจากนี้ Nforce Secure ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น รวมถึงความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากมีการลงทุนในสกุลเงิน US Dollar
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากร Nforce Secure ได้ดําเนินการดังนี้:
- สรรหาและคัดเลือกบุคลากรที่มีศักยภาพสูง โดยมุ่งเน้นที่ผู้ที่มีทัศนคติที่ดีและความสามารถในการเรียนรู้
- พัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรภายในองค์กร เพื่อเพิ่มพูนทักษะและความเชี่ยวชาญด้าน Cyber Security
- สร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่างๆ เพื่อผลิตบุคลากรด้าน Cyber Security ที่มีคุณภาพ
สําหรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน Nforce Secure ได้ทํา Forward Contract เพื่อป้องกันความเสี่ยง และพยายามปรับอัตราแลกเปลี่ยนให้ใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุด
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
Nforce Secure มีเป้าหมายที่จะเติบโตตามกระแสของตลาด Cyber Security โดยมุ่งเน้นที่การให้บริการ Solution ที่ครบวงจร ตั้งแต่ Threat Prevention, Threat Intelligence, Cloud Security, ไปจนถึง Managed Security Service นอกจากนี้ Nforce Secure ยังให้ความสําคัญกับการพัฒนา Platform ของตนเอง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ผู้บริหารของ Nforce Secure ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นผู้นําด้าน Cyber Security ในประเทศไทย โดยให้ความสําคัญกับบุคลากรที่มีคุณภาพ และการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI และ Cyber Resilience
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 24:38]
งบประมาณภาครัฐด้าน Cyber Security ปีนี้
ตอบ: ยอมรับว่างบประมาณด้านนี้ต่ำลง ไม่เฉพาะ Cyber Security แต่งบประมาณถูกตัดไปทำอย่างอื่น แต่ยังเป็น Sector สำคัญสำหรับภาครัฐ
ลูกค้ากลุ่ม Telecommunication ชะลอตัวหรือไม่
ตอบ: Telecommunication ลงทุนครั้งใหญ่ไปแล้ว อาจมี Maintenance บ้าง แต่จะไม่ลงทุนแบบ Enterprise ทุกปี อาจลงทุนใหญ่ 3-5 ปีครั้ง
Virtual Bank มีการติดต่อเข้ามาหรือไม่
ตอบ: มี Bank ที่เคยมีอยู่แล้วเข้าไป Back อยู่ และเอา Replicate บางอย่างไปใช้ เรายังมีการติดต่ออยู่ แต่มาในนามอื่น ไม่ใช่ Virtual Bank จริงๆ
เป้าหมายปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา
ตอบ: ตั้งเป้าเติบโตตามกระแส 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ มองตัวเลขที่เป็นไปได้ เพราะฐานเราใหญ่ขึ้น การเติบโต 30-40% ต้องรอ S Curve จริงๆ
สัดส่วนรายได้ภาครัฐและเอกชนปีนี้
ตอบ: ไม่ต่างจากปีที่แล้ว เอกชนเป็นเบอร์ 1 เกิน 60-70% ภาครัฐไม่เกิน 30% หรือ 25% ในบางปี
Product จะเน้น Cloud Security หรือ Network Security
ตอบ: ทุก Research ให้ความสำคัญเท่ากัน Network Security ยังเป็นเรื่องใหญ่สุด แต่ Cloud มา เรามี Project Cloud เยอะ ทั้ง Cloud Security Workload และ Cloud Security Broker
สัดส่วนรายได้ Recurring Revenue
ตอบ: ไม่เคยต่ำกว่า 33-34% หนึ่งในสามของรายได้มาจาก Recurring Revenue และยิ่งขายของเยอะ Recurring Revenue ปีหน้าก็เยอะตาม
Data Center มีบทบาทอย่างไร และเราได้รับประโยชน์หรือไม่
ตอบ: Data Center เข้ามา Cloud บุกมากขึ้น ซื้อ Cloud ก็ต้องมี Cyber Security บน Cloud รัฐบาล Encourage ให้ใช้ Cloud ได้ เป็นเรื่องดี เราก็เติบโตจากตรงนี้
ธนาคารถูกลงโทษเรื่องหลอกลวงผู้บริโภค บริษัทจะได้ประโยชน์หรือไม่
ตอบ: เป็นปัญหาที่สะสมมานาน ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล ต่างประเทศมี Second False Registry ทุก Bank ต้องช่วยกันดูแล ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะ Force ให้ทำได้หรือไม่ แต่เรามี Solution อยู่แล้ว ถ้ารัฐบาลเปิดให้เราดูแลก็ยินดี
M&A และเงินสดในบริษัท
ตอบ: มองหา M&A ไปเรื่อยๆ แต่หายาก เพราะ Culture ต่างกัน แต่ไม่ได้หยุดหา ตอนนี้คุยกับ 10 กว่าบริษัท แต่ยังไม่ได้ตกลง ก็เก็บเงินสดไว้ต่อยอด Project ใหญ่ๆ และใช้เงินสดที่มี ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย
เป้าหมาย Iconic ด้าน Cyber Security
ตอบ: เป็นความฝันของผม Vendor ระดับโลกที่อยากเข้า Cyber Security ในไทย Landing ที่ Nforce เราเคยมี Vendor World Class มา Appoint เราเลย ให้เป็นตัวแทนในไทย สมัยก่อนต้องบินไปต่างประเทศ แต่ตอนนี้ถ้าจะมาไทย แกะกระเป๋ามาเจอผมได้เลย
ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ตอบ: เกิดจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เพราะมีเงินลงทุนบางส่วนที่เป็นสกุล US Dollar มี Forward Contact เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ปัญหาเรื่องแรงงาน
ตอบ: เป็นปัญหาระดับโลก เราเริ่มจากการ Young Talent ที่เป็นคนเก่งๆ ได้เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1 ต้นๆ มาหลายคน ผมไปถามเขามาเอง และจะปั้นคนของเราเองด้วย สร้างคนของเราขึ้นมาเอง ต้องการคนที่มี Attitude ดี ภาษาอังกฤษใช้ได้ จบด้านบริหาร
Cyber Resilience เป็นเทรนด์อนาคตหรือไม่
ตอบ: เป็นเทรนด์อนาคตแน่นอน เกี่ยวกับการทำงานให้ระบบตอบสนองได้ตลอดเวลา แต่จะแรงไหมต้องดูปีหน้าก่อน เพราะไทยช้ากว่าต่างประเทศ 1-2 ปี
AI จะทำให้ตลาด Secure หดตัวหรือไม่
ตอบ: ไม่ เพราะเป็น Technology เราไม่ได้ใช้คนอย่างเดียว AI เอามาช่วยงาน Routine แต่ Cyber Security เป็น Art + Science
ผู้บริหารเริ่มมีแผนเกษียณหรือไม่
ตอบ: ยังไม่เกษียณ ยังอยู่จนกว่าบริษัทจะมั่นคง และเกษียณ 60 ไม่ต้องกลัว ผมก็ยังต้องทำงานอยู่ เพราะไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์ บริษัทมีแผนสืบทอดตำแหน่งงานอยู่แล้ว มีการคิดถึงความเสี่ยงเรื่องนี้เช่นกัน
โดยสรุปแล้ว Nforce Secure ยังคงเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในตลาด Cyber Security ที่กําลังขยายตัว แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่สําคัญ เช่น ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น การปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ จะเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยให้ Nforce Secure สามารถบรรลุเป้าหมายและเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ