บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SPALI กำไร Q4/24 สูงกว่าคาดการณ์! FSSIA ยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 18 บาท
P/E 7.04 YIELD 8.63 ราคา 17.40 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ
SPALI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/24 ที่ 2 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ FSSIA และ Bloomberg คาดการณ์ไว้ 21-24% เนื่องจากมีรายได้อื่น ๆ สูงกว่าที่คาด โดยเฉพาะจากดอกเบี้ยรับ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานหลักเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ FSSIA ยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 18 บาท แม้ผลประกอบการ Q4/24 จะเป็นบวกและอาจหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น
รายละเอียดผลประกอบการ
รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 11% QoQ และ 13% YoY อยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 55% และคอนโด 45% ซึ่งถูกกดดันจากการลดลงของการโอนกรรมสิทธิ์คอนโด (-47% QoQ, -22% YoY) เนื่องจากไม่มีคอนโดสร้างใหม่และมีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดใหม่ 4 แห่งไปแล้วในช่วง Q2-Q3/24 ในขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์แนวราบอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท (+20% QoQ, -9% YoY) อัตรากำไรขั้นต้นยังคงแข็งแกร่งที่ 38% ใน Q4/24 เพิ่มขึ้นจาก 34.8% ใน Q4/23 แต่ลดลงจาก 39.7% ใน Q3/24 เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดลดลง ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนเพิ่มขึ้นเป็น 117 ล้านบาท (+197% QoQ, +137% YoY) เนื่องจากการลงทุนใหม่ใน 12 โครงการในออสเตรเลียเริ่มรับรู้ผลกำไรตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567
ณ สิ้นปี 2567 SPALI มีกำไรสุทธิ 6.2 พันล้านบาท (+3% YoY) และยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำที่ 0.77 เท่า (เทียบกับ 0.67 เท่าในปี 2566) และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ที่ 0.63 เท่า (เทียบกับ 0.53 เท่าในปี 2566) SPALI ประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังของปี 2567 ที่ 0.85 บาทต่อหุ้น (สูงกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ที่ 0.70 บาท) คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5.3% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 พฤษภาคม และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568
มุมมองและคำแนะนำ
FSSIA คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/25 จะเพิ่มขึ้น YoY จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/24 แต่จะลดลง QoQ เนื่องจากปัจจัยด้านฤดูกาลและการเปิดตัวโครงการใหม่ที่น้อยลง FSSIA ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ไว้ที่ 5.5 พันล้านบาท ลดลง 11% YoY เนื่องจากการเปิดตัวคอนโดสร้างใหม่เพียง 1 แห่ง (เทียบกับ 5 แห่งในปี 2567) และ Backlog ที่ลดลง ณ สิ้นปี 2567 SPALI มี Backlog 11.5 พันล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 7.5 พันล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับ 26% ของประมาณการรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ปี 2568 ของ FSSIA ที่ 29 พันล้านบาท (-5% YoY)
FSSIA ยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 18 บาท อิงตามวิธี Sum of the part โดยพิจารณาจากมูลค่าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน (ถือหุ้น 49% ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย) รวมถึงการประเมินมูลค่าที่ดินเปล่าที่บริษัทถือครองอยู่
สรุป
FSSIA มองว่าผลประกอบการ Q4/24 ที่สูงกว่าคาดการณ์อาจสนับสนุนราคาหุ้น SPALI ในระยะสั้น แต่ยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 18 บาท เนื่องจาก FSSIA คาดการณ์การเติบโตของกำไรที่ลดลงในปี 2568 จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่น้อยลงและการลดลงของ Backlog อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ SPALI เนื่องจากบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี