ONEE กำไร Q4/67 แผ่ว! หยวนต้าหั่นเป้าเหลือ 3.98 บาท แต่ยังแนะนำ "ซื้อ" มองปี 68 ฟื้น

P/E 13.61 YIELD 7.94 ราคา 2.14 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ:ONE Enterprise (ONEE)

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ ONEE โดยคาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 149 ล้านบาท ลดลง 9% QoQ และ 17% YoY แม้ว่า ONEE จะสามารถทำเรตติ้งนำคู่แข่งได้ในละครเรื่อง "แม่หยัว" แต่ด้วยเม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่ปรับลดลง ส่งผลให้รายได้โฆษณา ลดลง 3% YoY อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น 2% YoY จากการขายลิขสิทธิ์ให้ Netflix มากขึ้น

รายละเอียดผลประกอบการและการวิเคราะห์:

หยวนต้าคาดการณ์รายได้รวมในไตรมาส 4/2567 ของ ONEE จะอยู่ที่ 1,720 ล้านบาท ลดลง 5% QoQ แต่ทรงตัว YoY โดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Content Marketing (โฆษณา, ขายลิขสิทธิ์, วิทยุ) อยู่ที่ 1,077 ล้านบาท ลดลง 9% QoQ และ 3% YoY ในขณะที่กลุ่ม Idol Marketing มีรายได้ 608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% QoQ และ 22% YoY จากการขายสินค้า, คอนเสิร์ต, และบริหารศิลปินที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจรับจ้างผลิตและให้เช่าสตูดิโอมีรายได้ 35 ล้านบาท ลดลง 2% QoQ และ 66% YoY เนื่องจาก CHANGE2561 ลดการรับจ้างผลิตละครและหันมาเน้นผลิตเอง

ประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลงเนื่องจากรายได้จากธุรกิจบริหารศิลปินที่มีอัตรากำไรต่ำมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจาก 42.5% ในไตรมาส 4/2566 เป็น 40.5% ในไตรมาสนี้ ภาพรวมปี 2567 คาดการณ์กำไรที่ 464 ล้านบาท ลดลง 8% YoY ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเดิมของหยวนต้า 6%

แนวโน้มและคำแนะนำ:

ถึงแม้ปี 2568 ONEE จะเผชิญความท้าทายจากอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่คาดว่าจะยังชะลอตัว แต่หยวนต้าคาดว่าผลประกอบการของ ONEE จะเติบโตดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นจากกลยุทธ์ในการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นนอกเหนือจากทีวีดิจิทัล เช่น การจัดอีเว้นท์คอนเสิร์ต และรายได้จากการบริหารศิลปินที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รายได้จากการขายลิขสิทธิ์คาดว่าจะเติบโตดีจากการขายคอนเทนต์ให้กับแพลตฟอร์มรายใหญ่ และแอป OneD ที่เริ่มสร้างรายได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากประสิทธิภาพในการทำกำไรในปี 2567 ที่ต่ำกว่าคาด และแนวโน้มอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด หยวนต้าจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลงจากเดิม 11% เป็น 485 ล้านบาท (+5% YoY) โดยปรับลดสมมติฐานรายได้ลง 6% และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลง 0.5%

หยวนต้าคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมองว่าผลประกอบการได้ผ่านช่วงต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าปี 2568 จะฟื้นตัวจากฐานต่ำและเติบโตดีกว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลรายอื่น อย่างไรก็ตาม ได้มีการปรับลดมูลค่าพื้นฐานจากเดิม 4.90 บาท เป็น 3.98 บาท สะท้อนการปรับลดกำไรอิงวิธี DCF โดยมีสมมติฐาน WACC ที่ 9.8% Terminal Growth ที่ 1% และปรับเพิ่มสมมติฐาน Risk Market จากเดิม 9% เป็น 10% เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของปัจจัยมหภาคที่เพิ่มขึ้น

โพสต์ล่าสุด