https://aio.panphol.com/assets/images/community/2207_239B62.png

CHASE กำไรลดฮวบ! แม้รายได้พุ่ง 20% เจอพิษเศรษฐกิจฉุด

P/E 11.24 YIELD 0.00 ราคา 0.61 (-4.69%)

ไฮไลท์สำคัญ: รายได้ CHASE โต แต่กำไรหด

ปี 2567 CHASE หรือ บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) รายได้รวมโตพรวดพราด แต่กำไรสุทธิกลับลดลงอย่างน่าใจหาย สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ภาพรวมเศรษฐกิจ: ไทยยังเหนื่อย หนี้ครัวเรือนยังสูง

เศรษฐกิจไทยปี 2567 โตแค่ 2.5% หนี้ครัวเรือนยังเป็นปัญหาใหญ่ ธปท. พยายามช่วยลูกหนี้ แต่ CHASE ยังคงเดินหน้าแก้ไขหนี้เสียในระบบ โดยไม่มีการขยายสาขาใหม่

กำไรที่ลดลง: รายได้ดี แต่ต้นทุนพุ่ง

รายได้รวม CHASE ปี 2567 อยู่ที่ 816.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.8% แต่กำไรสุทธิกลับลดลงถึง 35.2% เหลือ 86.2 ล้านบาท เพราะต้องตั้งสำรอง ECL เพิ่มขึ้น 99.3% แถมต้นทุนทางการเงินก็เพิ่มขึ้นเกือบ 100% จากการกู้เงินมาลงทุน

สินเชื่อและสัดส่วน: NPL พุ่ง รายได้ติดตามหนี้เพิ่ม

ธุรกิจบริหารจัดการ NPL ทำรายได้ 586.5 ล้านบาท โต 26.2% แต่ NPL คงเหลือรวมสูงถึง 40,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.7% บริษัทลงทุนซื้อพอร์ต NPL ไป 630.6 ล้านบาท เก็บเงินสดได้ 554.6 ล้านบาท ส่วนธุรกิจติดตามหนี้ก็ทำได้ดีขึ้น เก็บหนี้สำเร็จ 621.7 ล้านบาท

กระแสเงินสด: เงินสดในมือลดฮวบ

ณ สิ้นปี 2567 CHASE มีเงินสดในมือแค่ 60.5 ล้านบาท ลดลงถึง 74.7 ล้านบาท เพราะใช้เงินสดไปกับการซื้อพอร์ต NPL จำนวนมาก

ความเสี่ยงและโอกาส: เศรษฐกิจไม่แน่นอน การแข่งขันสูง

ความเสี่ยงหลักของ CHASE คือเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการแข่งขันที่สูง บริษัทตั้งเป้าซื้อหนี้เสียปี 2568 ไม่เกิน 500 ล้านบาท โอกาสอยู่ที่การเติบโตของธุรกิจบริหารจัดการ NPL และการควบคุมต้นทุน

ความยั่งยืนและธรรมาภิบาล: มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสังคม

CHASE ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในระดับ "A" และมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยคุณธรรม ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว

สรุป: ต้องปรับตัวรับมือเศรษฐกิจผันผวน

ผลประกอบการ CHASE ปี 2567 ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แม้รายได้จะโต แต่กำไรกลับลดลง การจัดการความเสี่ยงด้านเครดิต การควบคุมต้นทุน และการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โพสต์ล่าสุด