https://aio.panphol.com/assets/images/community/12578_DAF1A1.png

FPI กำไรพุ่ง 1,254% ในไตรมาส 3/68 ยอดขายโตต่อเนื่อง!

P/E 7.06 YIELD 4.91 ราคา 1.63 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ

FPI โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2568 สุดปัง! กำไรสุทธิพุ่งถึง 1,254.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ รวมถึงการลดลงของผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

ผลการดำเนินงานที่โดดเด่น

ในไตรมาส 3 ปี 2568, FPI มีรายได้รวม 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิสูงถึง 99 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 7.3 ล้านบาทในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทย่อยทั้งในและต่างประเทศก็มีผลกำไรสุทธิที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 จะชะลอตัว แต่ FPI ยังคงเติบโตได้จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นและรายได้จากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ในตลาดตะวันออกกลางยังคงแข็งแกร่ง

การวิเคราะห์เชิงลึก

รายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 5.5% ในขณะที่ต้นทุนขายและบริการก็เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นถึง 928.6% ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และค่าเผื่อมูลค่าสินค้าที่ลดลง

ในส่วนของงบดุล สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อย 1% แต่หนี้สินรวมลดลงถึง 9% ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 5% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลง แสดงถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น

สำหรับภาพรวม 9 เดือนของปี 2568, FPI มีรายได้รวม 2,008.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% และกำไรสุทธิ 240.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.8%

อนาคตและการเติบโต

บริษัทย่อยอย่าง FPI AUTO PARTS INDIA PRIVATE LIMITED มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 72% และกลับมามีกำไรสุทธิ นอกจากนี้ RBS PLASTIC INNOVATION COMPANY LIMITED ซึ่งเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ก็มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ THARWAT ALQATA INDUSTRIES COMPANY LIMITED LIABILITY ซึ่งเป็นโรงงานในซาอุดีอาระเบียคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในไตรมาสสามของปี 2569 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของ FPI ในอนาคต

โพสต์ล่าสุด