บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
GFPT กำไร Q3/68 พุ่ง! INVX ชี้มาร์จิ้นดีเกินคาด แนะ "Outperform" ราคาเป้าหมาย 12.5 บาท
P/E 5.22 YIELD 2.02 ราคา 9.90 (0.00%)
text-primary ไฮไลท์สำคัญ
GFPT โชว์ผลงาน Q3/68 กำไรปกติ 710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 7% QoQ สูงกว่าที่ InnovestX (INVX) และตลาดคาดการณ์เล็กน้อย เหตุอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าคาด จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ต่ำลง โบรกเกอร์คงคำแนะนำ "Outperform" ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 12.5 บาท
text-primary ผลประกอบการที่น่าจับตา
กำไรสุทธิ Q3/68 อยู่ที่ 715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 11% QoQ สูงกว่า INVX คาด 4% และตลาดคาด 8% ปัจจัยหนุนหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น, อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่ลดลง และอัตราภาษีที่แท้จริงที่ลดลง (11% ใน Q3/68 เทียบกับ 15% ใน Q3/67)
อย่างไรก็ตาม ยอดขายลดลง 6% YoY จากยอดขายธุรกิจอาหารที่อ่อนแอ (-13% YoY) จากการขาดแคลนแรงงานชั่วคราว แต่ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์และธุรกิจอาหารสัตว์ค่อนข้างทรงตัว
INVX คาดการณ์ว่ากำไรปกติ Q4/68 จะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด YoY จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงต่อเนื่องและสถานการณ์แรงงานที่กลับสู่ภาวะปกติ แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
text-primary ข้อสังเกตและประเด็นสำคัญ
ผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานชาวกัมพูชา: บริษัทในกลุ่ม GFPT ประสบปัญหาการผลิตหยุดชะงักใน Q3/68 เนื่องจากคนงานชาวกัมพูชากว่า 50% เดินทางกลับประเทศ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติใน Q4/68TD โดย GFPT และ McKey สามารถหาคนงานชาวไทยและเมียนมาเข้ามาทดแทนได้แล้ว 95% ขณะที่ GFN หาคนงานทดแทนได้แล้ว 80%
มาร์จิ้นใน Q4/68: INVX คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน Q4/68 จะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด YoY จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง ราคา spot ข้าวโพดและกากถั่วเหลืองลดลงมาอยู่ที่ 9.8 บาท/กก. (-2% YoY, -5% QoQ) และ 13.8 บาท/กก. (-25% YoY, -4% QoQ) ตามลำดับ
text-primary สรุปและคำแนะนำ
INVX คงคำแนะนำ "Outperform" สำหรับ GFPT โดยมีราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 12.5 บาท อ้างอิงวิธี SOTP ที่ PE 5-7 เท่าสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์ม และธุรกิจอาหาร
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: การเปลี่ยนแปลงในต้นทุนอาหารสัตว์, นโยบายรัฐบาล, อุปทานสุกร (โปรตีนทดแทน) ที่สูงขึ้น และปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG (การบริหารจัดการพลังงาน ของเสีย และน้ำ)