https://aio.panphol.com/assets/images/community/12322_676A4B.png

SPALI กำไร Q3/68 เกินคาด แต่ BLS ปรับลดคำแนะนำเป็น "ขาย"

P/E 7.04 YIELD 8.63 ราคา 17.40 (0.00%)

text-primary ไฮไลท์สำคัญ

SPALI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 ที่ 1.17 พันล้านบาท ลดลง 41% YoY แต่เพิ่มขึ้น 6% QoQ ซึ่งมากกว่าที่ BLS และตลาดคาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักมาจากรายได้อื่นๆ ที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม BLS ได้ปรับลดคำแนะนำสำหรับ SPALI เป็น "ขาย" โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 13.50 บาท

text-primary ผลประกอบการและปัจจัยขับเคลื่อน

รายได้รวมของ SPALI ในไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 6.37 พันล้านบาท ลดลง 36% YoY และ 7% QoQ สาเหตุหลักมาจากการขาดการโอนโครงการคอนโดขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับปี 2567 ที่มีการส่งมอบไปแล้ว 5 โครงการ โดยสัดส่วนรายได้มาจากโครงการแนวราบ 76% และโครงการคอนโด 24% อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 35.3% (ลดลง 90bps YoY แต่เพิ่มขึ้น 3.8ppts QoQ) จากแรงกดดันของโครงการแนวราบที่มีอัตรากำไรต่ำและการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 14.6% จาก 13.2% ในปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม SPALI ยังมีปัจจัยบวกจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจำนวน 153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 288% YoY ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในออสเตรเลียที่บริษัทลงทุนในปี 2567 รวมถึงรายได้อื่น ๆ ที่ปรับตัวดีขึ้น QoQ

text-primary ข้อสังเกตและแนวโน้ม

BLS คาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 4/68 จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ จากยอดโอนโครงการตามฤดูกาลทั้งในไทยและออสเตรเลีย แต่การเติบโต YoY จะยังคงติดลบ เนื่องจากยอดจองซื้อภายในประเทศมีจำกัด และคอนโดใหม่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ BLS ยังคาดว่าอัตรากำไรจะยังคงถูกกดดันต่อไปในปี 2569 และรายได้ที่มองเห็นได้จะจำกัด เนื่องจากยอดจองซื้อของ SPALI ในปี 2569 มีจำนวนค่อนข้างน้อย (~8.9 พันล้านบาท) และไม่มีโครงการที่มีอัตรากำไรสูงที่จะรับรู้รายได้ในระยะสั้น

text-primary คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

BLS ปรับลดราคาเป้าหมายของ SPALI ลงเหลือ 13.50 บาท (จาก 16.00 บาท) และปรับลดคำแนะนำเป็น "ขาย" โดยให้เหตุผลว่าการฟื้นตัวล่าสุดของราคาหุ้นเป็นโอกาสที่ดีในการขาย เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่น่าจะส่งผลให้กำไรเติบโตอย่างยั่งยืน

แนวโน้มขาลงของ SPALI ได้รับแรงหนุนจาก:

  1. ความต้องการที่อยู่อาศัยภายในประเทศที่ซบเซา
  2. อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากการลดราคา
  3. ยอดจองซื้อที่มองเห็นได้จำกัดจนถึงปี 2569
  4. การพึ่งพารายได้จากการร่วมทุนในต่างประเทศสูง
  5. แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/68-1/69 ที่ค่อนข้างชะลอตัว

โพสต์ล่าสุด