ILM เผยกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ Flying Tiger ปี 2568

P/E 9.29 YIELD 7.30 ราคา 13.70 (0.00%)

ILM เผยกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ Flying Tiger ปี 2568

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 2 ปี 2568 ของบริษัท Index Living Mall จำกัด มหาชน วันนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วน Financial และส่วน Outlook ของบริษัท

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

รายได้รวมของบริษัทประจำไตรมาส 2 อยู่ที่ 2,288.8 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (Year-on-Year) แต่ Gross Profit จากการขายดีขึ้น 2.4% อยู่ที่ 993 ล้านบาท และ Net Profit บวกขึ้นมาเล็กน้อย 2.6% Year-on-Year อยู่ที่ 175.7 ล้านบาท

ภาพรวม 6 เดือนแรกของปี รายได้รวมอยู่ที่ 4,768.6 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว แต่ Gross Profit จากการขายดีขึ้น 1.9% Year-on-Year อยู่ที่ 2,052 ล้านบาท และกำไรภาพรวม 6 เดือนอยู่ที่ 391 ล้านบาท บวก Year-on-Year ขึ้นมา 3%

รายได้รวมประจำไตรมาส 2 ลดลงเล็กน้อย 1.5% Year-on-Year และ 7.7% Quarter-on-Quarter (QoQ) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ยอดขายหน้าร้านค้าปลีกและ Project ลดลง

อย่างไรก็ตาม Channel ที่เป็นออนไลน์และ Inter Project มียอดขายที่ดีขึ้น ช่วยผลักดันยอดขายโดยรวมให้เติบโตขึ้นได้ อีกทั้งยังสามารถ Secure ตัว GP และมี Improvement ได้ โดยมาจากการให้ Discount ที่ Efficiency และตรงเป้าหมายมากขึ้น

รายได้จากการให้เช่าและบริการเติบโตขึ้น Year-on-Year และ QoQ มาจากการมีสาขาใหม่ที่รัตนาธิเบศร์ และการขยายสาขาที่ Index Living Mall เชียงใหม่เป็นพื้นที่เช่า

ภาพรวม 6 เดือนแรกของปี ยอดขายโดยรวมค่อนข้าง Maintain แม้ภาวะเศรษฐกิจจะซบเซา แต่ยอดขายใน Channel Retail และ Project ลดลง ในขณะที่ออนไลน์และ Overseas OEM ยัง Expand และเพิ่มมากขึ้น

GPM โดยรวมเพิ่มมากขึ้นเกือบ 1% ช่วยส่งเสริมชดเชยในส่วนยอดขายที่หายไปได้ รายได้จากการให้เช่าและบริการก็เพิ่มขึ้น 4.4% มาจากการเพิ่มพื้นที่ในสาขาเชียงใหม่และสาขาใหม่ Little Walk รัตนาธิเบศร์

Retail มีการ Drop ลงทั้ง Year-on-Year และ QoQ เนื่องจาก SSG ลดลง และนักท่องเที่ยวในประเทศลดลง แต่เติบโตใน Channel ออนไลน์ ทั้ง Year-on-Year และ QoQ ส่วน Project Drop ลง เพราะมีการเลื่อนการส่งมอบ

Channel อื่นๆ เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาจากการได้โครงการ OEM จากต่างประเทศมาช่วย Drive ให้ Channel Other เติบโตมากขึ้น

เฟอร์นิเจอร์ที่เป็น Segment ใหญ่ ตกลงไปบ้าง เพราะ Traffic ลดลง แต่ภาพรวม 6 เดือนยังเติบโตเล็กน้อย 1.1% หลักๆ มาจากแบรนด์ Fur In Box และ OEM ต่างประเทศ

Home Decorative Item (HDI) ในภาพรวมยังตกลงไปบ้าง ในไตรมาส 2 Drop ลง เพราะกำลังซื้อลดลง แต่ภาพรวม 6 เดือน ลดลงไป 3.3% Main หลักลดลงจากทางหน้าร้าน แต่ยังรักษาการเติบโตไว้ในระดับ Maintain ของช่องทางออนไลน์

Matrix ยอดขายอาจจะตกลงไปบ้าง แต่ GP ดีขึ้นใน Category นี้ ช่วยชดเชยกันไปได้

ค่าใช้จ่าย SG&A ประจำไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.8% หลักๆ มาจากการมีสาขาเปิดมากขึ้น ยอดขายออนไลน์เติบโต Marketing Fee ต้องจ่ายมากขึ้น และบริษัทกำลังมี Project ในการ Develop ตัว System IT

แต่ในภาพ QoQ ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลงไป 4.6% Main หลักมาจากการที่ Marketing Fee ของออนไลน์ลดลง และค่าขนส่งที่มาจาก Project Channel ออนไลน์และ Retail ที่ Top Line ลดลง

ภาพรวม 6 เดือน ค่าใช้จ่าย SG&A บวกขึ้นมาเล็กน้อย 3.5% หลักๆ เป็นเหตุผลเดียวกับไตรมาส 2 คือ สาขาเพิ่มขึ้น ออนไลน์ยอดขายมากขึ้น Marketing Fee Fluctuate ตามกัน และยังมี Expense ที่ Relate กับการที่ Develop ตัว IT System

Net Profit ของไตรมาส 2 บวกขึ้นมา 2.6% แม้ว่า Top Line จะน้อยกว่าปีที่แล้วใน Period เดียวกัน แต่ด้วยตัวที่สามารถ Improve ตัว GPM ได้ ในส่วนที่ Control Cost ได้ ก็มาเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้ Net Profit เติบโตมากขึ้น

ถ้าเทียบไตรมาสเดียวกันแล้ว Net Profit จะลดลง เพราะในไตรมาส 1 เป็นไตรมาสที่ยอดขาย Peak มากกว่า ก็เลยทำให้ตัว Absolute Amount อาจจะลดลง นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ไม่มี Tax Incentive

ภาพรวม 6 เดือน Net Profit เพิ่มขึ้น 3% Year-on-Year และ NPM เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มาจากการ Drive ตัว Gross Profit Margin เพิ่มขึ้น เพื่อมาช่วยที่หายไปในแง่ของ Top Line และภาพรวม 6 เดือนได้ตัว Tax Incentive มาช่วยด้วย

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

Index Living Mall ได้เปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม บนถนนบายพาส พื้นที่ขายประมาณ 7,000 ตารางเมตร ได้ผลการตอบรับค่อนข้างดีมาก

กำหนดการเปิด Little Walk 100% ในวันที่ 10 กันยายน มีพื้นที่เช่าประมาณ 5,000 ตารางเมตร ได้แบรนด์หลักๆ หลายตัว และ Occupancy อยู่ราวๆ 80%

Little Walk พระเทพ ได้มีการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ข้างๆ กับตลาดดอกไม้ ตรงถนนพระนก กับพุทธมณฑลสาย 4 มีพื้นที่เช่าอยู่ราวๆ 4,500 ตารางเมตร มีผู้เช่าจับจองค่อนข้างหนาตา Occupancy ประมาณเกือบ 90% และคาดว่าจะ 100% ในไม่ช้า

Index Living Mall สาขาใหม่ (Replacement) ที่อุบลราชธานี พื้นที่ขายประมาณ 5,000 ตารางเมตร จะก่อสร้างโชว์รูมสาขาใหม่ คาดว่าจะเปิด Q1 ปีหน้า เริ่มทำการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว

บริษัทมองหา Diversify ตัว Business Furniture โดยจะทำธุรกิจใหม่ Flying Tiger เป็นของตกแต่งบ้านจุกจิกเล็กๆ มีประสบการณ์กับการขายของตกแต่งบ้านชิ้นเล็กๆ อยู่แล้ว สินค้าพวกนี้ขายดีมากในตลาดเมืองไทย ปัจจุบันมีการเซ็นพื้นที่ที่จะเปิด 5 สาขาแล้ว โดยสาขาแรกจะเปิดกลางเดือนนี้ที่สาขา M Sphere และหลังจากนั้นจะทยอยเปิดในอีก 4 ที่

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ยอดขายหน้าร้านค้าปลีกและ Project ลดลง

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซา ทำให้คำสั่งซื้อของเฟอร์นิเจอร์สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมอาจได้รับผลกระทบในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากคอนโดมิเนียมมีการชะลอและขยายตัวลดลง

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

ให้ Discount ที่ Efficiency และตรงเป้าหมายมากขึ้น เพื่อ Secure ตัว GP และมี Improvement

ขยายธุรกิจไปยัง Channel ที่เป็นออนไลน์และ Inter Project เพื่อเพิ่มยอดขาย

Diversify ตัว Business Furniture โดยจะทำธุรกิจใหม่ Flying Tiger เป็นของตกแต่งบ้านจุกจิกเล็กๆ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

คาดว่าปลายปีนี้ยอดขายออนไลน์น่าจะมากกว่า 15% แต่คงไม่มากเท่าไหร่ จะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ

SSG ที่ติดลบมีแนวโน้มฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง อยู่ราวๆ Low Single Digit เป็น Key Indicator ที่ชี้ว่าเศรษฐกิจอาจจะเริ่ม Pick Up ขึ้นมาแล้ว Q3 Q4 น่าจะทำให้ SSG กลับมาเป็นบวกอย่างแข็งแกร่ง

สาขา Flying Tiger คาดหวังว่าจะเป็น New S Curve ของบริษัทต่อไป

บริษัทให้ความสำคัญกับกิจกรรม ESG เพื่อคืนต่อสังคมและช่วยรักษ์โลก

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [00:32:30]

  1. Flying Tiger มองไว้อย่างไร?

    อยาก Diversify Portfolio ที่ผ่านมาทำเฟอร์นิเจอร์อย่างเดียว มองหาธุรกิจใหม่ที่ผลักดันบริษัทให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ มองไปที่ Flying Tiger ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ศึกษาตลาดของจุกจิก DIY ในไทย มีอัตราการเติบโตดีและมีกำไรดีมาก ตัดสินใจที่จะไปเอา License ตัวนี้เป็น Exclusive ผู้เดียวในประเทศไทย น่าจะเป็น New S Curve

  2. ตั้งเป้ายอดขายออนไลน์ไว้อย่างไร?

    ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 14-15% โตขึ้นทุกปี คาดว่าปลายปีนี้น่าจะมากกว่า 15% แต่คงไม่เยอะเท่าไหร่ ค่อยๆ ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ

  3. SSG ที่ติดลบมีแนวโน้มฟื้นตัวหรือไม่?

    เห็นเป็นบวกแล้วใน Q3 อยู่ราวๆ Low Single Digit เป็น Key Indicator ที่ชี้ว่าเศรษฐกิจอาจจะเริ่ม Pick Up ขึ้นมาแล้ว น่าจะกลับมาเป็นบวกอย่างแข็งแกร่ง

  4. คำสั่งซื้อโครงการ Project จะกลับมาฟื้นตัวเมื่อไหร่?

    อสังหาริมทรัพย์ซบเซา คำสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์จะได้มาล่วงหน้าก่อนคอนโดส่งมอบให้ลูกบ้าน 2-3 ปี ทุกวันนี้มีคำสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะกระทบหลังจากปีที่ 2 ปีที่ 3 เพราะอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัว คอนโดมิเนียมลดลงไปเยอะ คาดว่าจะไปกระทบกับบริษัทในอีก 2-3 ปีข้างหน้ามากกว่า

  5. Little Walk รามคำแหงและพระเทพมี Pre-Occupancy เท่าไหร่?

    รามคำแหงตอนนี้ 80% แล้ว พระเทพตอนนี้ประมาณ 90-95%

  6. สาขา M Sphere เปิดกันยายนตั้งเป้ายอดขายเท่าไหร่?

    บอกไม่ได้ แต่คิดว่าถ้าลองไปดูร้านที่อยู่ในหมวดนี้อยู่ในตลาดหุ้น GPM และยอดขาย อาจจะมากกว่าเขาหน่อยนึง เพราะเป็นสาขาครีมๆ ทั้งนั้นเลย ที่เราไปเปิดเป็น Store หรือเป็นห้างขายดี หลังจากที่เปิดไปสัก 10-20 สาขาแล้ว อาจจะกลับเข้ามาสมดุล อาจจะใช้ค่าเฉลี่ยของร้านประเภทนี้ในธุรกิจนี้ได้

  7. สาขาที่จะเปิดอีก 4 แห่งภายในปีนี้งบลงทุนรวมเท่าไหร่?

    มีเชียงรายเปิดไปแล้ว มี Little Walk รามคำแหงที่จะเปิด อีก 2 สาขาน่าจะเป็นพระเทพกับตัวอุบล จะไปเปิดที่ Q1 ปีหน้างบลงทุนรวมประมาณ 750 ล้านบาท Payback Period อยู่ในตามมาตรฐานที่วางไว้ 6-7 ปี

  8. Flying Tiger จะมี Cross Promotion กับ Index หรือไม่?

    อาจจะมี แต่มีแน่ๆ คือ สมาชิก Index Living Mall ที่เป็น Point เป็น Loyalty Point ที่ชื่อว่า Joy Point จะสามารถใช้กับใน Flying Tiger ได้ และ Flying Tiger สะสมก็จะไปอยู่ใน Index ได้ อยากให้เอามาใช้ร่วมกัน

  9. ตั้งเป้า DE Ratio และ Leverage ไว้เท่าไหร่?

    DE Ratio น้อย ปัจจุบันอยู่ที่ 1.1 เท่านั้นเอง ถ้าเอา TFRS16 ออก DE Ratio อยู่แค่ 0.6 เอง ค่อนข้างน้อยมาก คิดว่าถึงจะขยายลงทุนไปก็ไม่กระทบ DE Ratio เท่าไหร่ เพราะส่วนมาใช้ Free Cash Flow ของ Operating เอง ไม่ค่อยได้กู้เลย

  10. Dividend Policy ยังอยู่ที่ 7-8% ต่อปีหรือไม่?

    พยายามที่จะไม่จ่ายน้อยลงไปกว่าเดิม แต่ Dividend Policy จะสูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับราคาหุ้น ถ้าเทียบๆ ดูจาก Performance ปีนี้ คิดว่าก็ไม่น้อยไปกว่าเดิม แต่ส่วนจะมากขึ้นหรือไม่ก็เดี๋ยวรอ Q3 Q4

  11. อัตรากำไรขั้นต้นจากค่าเช่าที่ลดลงเกิดจากการใช้พื้นที่ที่ลดลงกี่เปอร์เซ็นต์?

    น่าจะมาจากการที่เอา Occupancy ของ Little Walk รัตนาธิเบศร์เข้ามา เนื่องจากตัวนี้มีพื้นที่ขายประมาณ 10,000 ตารางเมตร และตอนช่วงเริ่มต้นที่เปิด Occupancy ของสาขาค่อนข้างต่ำ ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ ปัจจุบันก็อยู่ราวๆ 70% แต่ตอนแรกๆ เปิดนี่ 20-30% เลย เข้าใจว่าน่าจะทำให้ชุดตรงนี้ลง และตรงนี้เป็นสาขาขนาดใหญ่นิดนึง ก็อาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเข้ามาถัวไป อัตรากำไรเลยลดลง

  12. จะเริ่มทำการตลาด Flying Tiger เมื่อไหร่ ใช้มากน้อยแค่ไหน?

    การเปิดแบรนด์ใหม่มีการใช้งบการตลาดอยู่แล้ว แต่เป็นมาตรฐานของการตลาดเปิดตัวแบรนด์ปกติ ไม่ได้มากมายหวือหวาเกินกว่าแบรนด์อื่นๆ ที่เคยทำมา แต่แน่นอนต้องมีการใช้แน่นอน

  13. สาขาอุบลจะเปิดเมื่อไหร่ สาขาเก่าจะทำยังไง?

    สาขาใหม่ของอุบลเปิด Q1 แน่นอน ส่วนสาขาเดิมจะพิจารณาว่าจะเอาไปทำอะไรดี จะเปิดคู่กันได้ไหม หรือว่าจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น แต่สาขาใหม่ยังไงก็เปิดแน่นอน

  14. ตลาดของเฟอร์นิเจอร์ในไทยมีมูลค่าเท่าไหร่ แบ่ง Segment กันอย่างไร?

    ทุกคนถามคำถามนี้เยอะมาก แต่ต้องตอบคำเดิมว่าไม่มีใครทราบเลยว่าตลาดเฟอร์นิเจอร์เมืองไทยมีเท่าไหร่กันแน่ เพราะปะป๊าหม่าม๊า Shop ในต่างจังหวัดเยอะมากหลายร้านมาก และร้านค้าตรงนี้ไม่ได้อยู่ในระบบฐานภาษี จึงไม่สามารถรู้ได้ และมันก็จะมีของตัวเฟอร์นิเจอร์ที่ไปรวมอยู่ในของพวกเจ้าที่ Home Improvement ต่างๆ อีกเยอะพอสมควร ซึ่งตรงนี้เจ้าที่เป็น Big Name ของวัสดุก็ไม่ได้แชร์ตัวเลขของเฟอร์นิเจอร์เข้ามาด้วย เราก็เลยทำให้คาดเดาไม่ได้ แต่คิดว่าถ้าเอา Top 10 ของคนขายเฟอร์นิเจอร์เข้ามา โดยที่ไม่รวม Export ตลาดรวมของเฟอร์นิเจอร์อาจจะต้องใหญ่ หลาย

โดยสรุป ILM เผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตด้วยการขยายช่องทางออนไลน์ ธุรกิจใหม่ Flying Tiger และการให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อสร้างความยั่งยืน

โพสต์ล่าสุด