บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
KK Superstore: สรุป Oppday ปี 2568 ครึ่งปีแรก ผลประกอบการและการเติบโตอย่างยั่งยืน
P/E 20.05 YIELD 2.75 ราคา 0.91 (0.00%)
KK Superstore: สรุป Oppday ปี 2568 ครึ่งปีแรก ผลประกอบการและการเติบโตอย่างยั่งยืน
สวัสดีครับ ผม กวิศพงศ์ สิริธนงศ์สกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท KK Superstore Southern จำกัด มหาชน และผม อนุชิต อมรลักษณ์วิทายา CFO ของบริษัท วันนี้เป็นวันสำคัญที่บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน ซึ่งตรงกับวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เราจะฉายภาพให้รู้จักกับ KK
บริษัท KK Superstore Southern จำกัด (KK) ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันมีมากกว่า 36 สาขา ครอบคลุมพื้นที่สงขลา พัทลุง สตูล และปัตตานี รวมถึงมีศูนย์กระจายสินค้าในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- สัดส่วนรายได้:
- ค้าปลีก: 89.27%
- ค้าส่ง: 10.23%
- รายได้อื่นๆ: 0.5%
พัฒนาการที่สำคัญของบริษัท:
- ปี 2563: เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai มี 28 สาขา และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก
- ปี 2564: เพิ่มสาขาใหม่ 2 สาขา รวมเป็น 30 สาขา
- ปี 2565: เพิ่มสาขาอีก 2 สาขา รวมเป็น 32 สาขา
- ปี 2566: เพิ่ม 4 สาขา รวมเป็น 36 สาขา เริ่มนำ Coffee Shop ของ KK มาเปิด 3 สาขา และเริ่มรณรงค์การรักษ์โลกโดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
- ปี 2567: ซื้อลงทุนในบริษัท สราญ เอ็นเนอร์ยี่ เทค จำกัด (บริษัทในเครือ) เปิดสาขาใหม่ 2 สาขา และปิดสาขาที่ไม่เติบโต ทำให้มี 37 สาขา
- ปี 2568: ไม่ได้เพิ่มสาขา แต่ปิดไป 1 สาขาที่ไม่เติบโต เพื่อไม่ให้เกิดการขาดทุน
ลักษณะและผลิตภัณฑ์ที่ KK จำหน่ายคือสินค้าอุปโภคบริโภคที่จัดจำหน่ายในจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง มีสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ ภายใต้แนวคิด "ซื้อของครบ พบของถูก ถูกทุกวันที่ KK ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ" มีหมวดผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ของใช้ประจำวัน ผลิตภัณฑ์ผิวและเส้นผม ของใช้เด็กและผู้ใหญ่ เครื่องดื่ม นม เครื่องปรุงอาหาร ขนม และอาหารสด
ร้าน KK Superstore มีการบริหารจัดการพื้นที่ให้มีที่จอดรถสะดวกสบาย มีมุม Coffee Tear ภายในร้าน และมีกองโชว์สินค้าตามโปรโมชั่นและเทศกาลต่างๆ
KK เปิดสาขาแรกปี 2536 ที่สาขาสามชัย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในยุคแรกเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการบริการลูกค้า ขยายไปอำเภอนอกหาดใหญ่ และจังหวัดใกล้เคียง
สถานะการเงินและผลการดำเนินงาน (โดย CFO อนุชิต อมรลักษณ์วิทายา):
ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568:
- รายได้จากการขาย: 282.58 ล้านบาท
- ต้นทุนสินค้า: 243.53 ล้านบาท
- กำไรขั้นต้น: 39.05 ล้านบาท (13.82%)
- รายได้อื่นๆ: 1.54 ล้านบาท
- ต้นทุนจัดจำหน่าย: 25.79 ล้านบาท
- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร: 10.92 ล้านบาท
- ต้นทุนทางการเงิน: 1.62 ล้านบาท
- กำไรก่อนภาษี: 2.24 ล้านบาท
- ภาษีเงินได้: 0.61 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ: 1.63 ล้านบาท (0.57%)
เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2567: รายได้เพิ่มขึ้น 5.56 ล้านบาท (2.01%) กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย 0.43 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568: ยอดขายลดลงเล็กน้อย 1.22 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568:
- รายได้จากการขาย: 566.38 ล้านบาท
- กำไรขั้นต้น: 75.98 ล้านบาท (13.42%)
- รายได้อื่นๆ: 2.88 ล้านบาท
- ต้นทุนจัดจำหน่าย: 50.47 ล้านบาท
- ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: 20.36 ล้านบาท
- ค่าใช้จ่ายทางการเงิน: 3.22 ล้านบาท
- กำไรก่อนภาษี: 4.81 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ: 3.68 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567: ยอดขายเพิ่มขึ้น 12.29 ล้านบาท (2.22%) เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 0.77%
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ:
- อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE): 5.82%
- อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA): 4.08%
- อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio): 1.85 เท่า
ฐานะทางการเงินของบริษัท (ณ 30 มิถุนายน 2568):
- สินทรัพย์รวม: 494 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นสินค้าคงเหลือ 170 ล้านบาท และที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 139 ล้านบาท)
- หนี้สินรวม: 321 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้า 132 ล้านบาท และหนี้เงินกู้ระยะสั้นและยาว 76 ล้านบาท)
- ส่วนของผู้ถือหุ้น: 173 ล้านบาท
ตัวเลขที่น่าสนใจคือเจ้าหนี้การค้าลดลง และกำไรสะสมมีการสะสมต่อเนื่อง
แผนการลงทุน
KK ได้เข้าตลาดและนำเงินมาขยายกิจการ จนถึงปัจจุบันมี 36 สาขา สาขาและจังหวัดที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดสงขลาด้วยกัน ต่างอำเภอแล้วก็ขยายไป รวมทั้งจังหวัดสตูล จังหวัดพัทลุง และก็จังหวัดปัตตานี เราก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้เป็น 36 สาขา เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของฐานธุรกิจค้าปลีกทางใต้
ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- มอบเสื้อให้กับมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง ในช่วงตรุษจีน
- สนับสนุนเครื่องดื่มและอาหารแห้งให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์
- จัดกิจกรรมเดินวิ่งการกุศลเพื่อช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็ง และมอบรายได้ให้แก่โรงพยาบาลหาดใหญ่
- มอบขนมและเครื่องดื่มให้แก่เด็กนักเรียนในจังหวัดสงขลา
- มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนสุวรรณวงศ์, โรงเรียนธิดานุเคราะห์ และโรงเรียน มอ. วิทยานุสรณ์ เป็นเงิน 33,000 บาท
[เริ่ม Q&A Session นาทีที่ 26:44]
คำถามและคำตอบ:
1. แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังและการเติบโต:
ผู้ถาม: อยากให้อัปเดตแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง และมองการเติบโตของ KK ในปีต่อๆ ไปอย่างไร
ผู้บริหาร: ครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของการจับจ่ายใช้สอย ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตคือการขยายสาขา การเพิ่มสินค้าที่หลากหลาย และการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย เพื่อรักษาระดับความสามารถในการทำกำไร
2. กลยุทธ์การแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่:
ผู้ถาม: มีกลยุทธ์อย่างไรในการแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ที่มีสาขาทั่วประเทศ
ผู้บริหาร: KK มีจุดแข็งคือความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ มีสินค้าที่ตอบโจทย์และหลากหลายกว่าร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ นอกจากนี้ KK ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า การบริการที่เป็นกันเอง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เข้าถึงชุมชน
3. แผนการขยายสาขาในอนาคต:
ผู้ถาม: มีแผนการขยายสาขาในอนาคตอย่างไรบ้าง และจะเน้นพื้นที่ใดเป็นพิเศษ
ผู้บริหาร: บริษัทฯ มีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก ทั้งในจังหวัดเดิมและจังหวัดใหม่ที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ในอนาคต โดยจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และการแข่งขัน
4. การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม:
ผู้ถาม: มีการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างไรบ้าง
ผู้บริหาร: บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้า การขนส่ง และการขาย เช่น การใช้ระบบ POS (Point of Sale) การจัดการสินค้าคงคลังด้วยระบบบาร์โค้ด และการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังศึกษาการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI (Artificial Intelligence) และ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนการตลาด
5. นโยบายการจ่ายเงินปันผล:
ผู้ถาม: มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างไร และจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลเมื่อใด
ผู้บริหาร: บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ฐานะทางการเงิน และแผนการลงทุนของบริษัทฯ โดยจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลเมื่อมีกำไรสะสมเพียงพอและไม่มีผลกระทบต่อการขยายธุรกิจ
โดยสรุป KK Superstore ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการขยายสาขา การพัฒนาสินค้าและบริการ การลงทุนในเทคโนโลยี และการตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม แม้ว่าเศรษฐกิจในปี 2568 จะไม่สดใสเท่าที่ควร แต่ KK ก็ยังคงรักษาผลการดำเนินงานที่ดี และมีแผนที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต