CHASE: สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568 - มองหาโอกาสท่ามกลางความท้าทาย

P/E 62.43 YIELD 1.89 ราคา 0.55 (0.00%)

CHASE: สรุป Oppday ไตรมาส 2 ปี 2568 - มองหาโอกาสท่ามกลางความท้าทาย

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ธุรกิจของ CHASE ยังคงเน้นที่ 2 ส่วนหลัก คือ ธุรกิจ AMC (บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ) และธุรกิจให้บริการติดตามทวงถาม ซึ่งในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนรายได้เล็กน้อย โดย AMC มีสัดส่วน 69.3% และธุรกิจให้บริการติดตามทวงถามอยู่ที่ 25.6%

มูลหนี้สะสมของ NPL portfolio อยู่ที่ 40,000 ล้านบาท โดยมีการลงทุนในไตรมาสที่ 2 ที่ 18.6 ล้านบาท คิดเป็น 5.7% ของงบลงทุนปีนี้ ปริมาณพอร์ตที่เสนอขายในปีนี้ลดลง และคุณภาพของพอร์ตอาจยังไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ CHASE พิจารณา ทำให้การเข้าซื้อ NPL ในไตรมาสนี้ยังน้อยอยู่

กระแสเงินสดรวมของไตรมาสนี้อยู่ที่ 115 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 15.8% สอดคล้องกับการลดลงของ revenue contribution จากธุรกิจ AMC ทำให้ total cash collection ของครึ่งปีแรกลดลง year-on-year ที่ 17.2% อยู่ที่ 234 ล้านบาท

ธุรกิจให้บริการติดตามทวงถามมีรายได้รวม 48.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% year-on-year อัตราค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยยังคงสูงที่ 27.2% เนื่องจากงานส่วนใหญ่ยังคงมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

กำไรจากการดำเนินงานของไตรมาสนี้อยู่ที่ 94.3 ล้านบาท ลดลง 7.6 ล้านบาท หรือ 7.5% year-on-year ปัจจัยหลักมาจากกระแสเงินสดรับของ NPL ที่ชะลอตัวลง ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 50% ใกล้เคียงกับไตรมาสที่แล้ว ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1.5 ล้านบาท ลดลง 94.7% จากไตรมาสก่อนหน้า

รายได้รวมในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 190 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจาก 203 ล้านบาทในปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากธุรกิจ AMC ที่มีการปรับตัวลดลง แม้ว่ารายได้รวมจะลดลง แต่ธุรกิจให้บริการติดตามทวงถามยังมีการเติบโตที่ต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมของธุรกิจการทวงถามค่อนข้างที่จะเป็นแนวโน้มเชิงบวก

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

CHASE ยังคงโฟกัสในส่วนของการรับซื้อรับโอนในเรื่องของสินทรัพย์ด้วยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกันอยู่ นอกจากนี้ CHASE ได้มีการร่วมมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งธรรม ซึ่งอาจเป็นช่องทางในการเพิ่มโอกาสในการเจอลูกหนี้หรือให้ลูกหนี้ได้เข้าปรึกษาหารือในเรื่องของกระบวนการแบ่งการชำระหรือการปิดหนี้ ซึ่ง CHASE มองว่าเป็นโอกาสที่จะได้พบลูกหนี้และให้ความรู้คู่วินัยตาม vision และ mission ที่ตั้งไว้

บริษัทคาดหวังว่า NPL จะออกมาวางให้ประมูลซื้อกันมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 หรือไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า และราคาที่น่าจะดูดี

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

CHASE เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและมาตรการต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบกับการตัดสินใจของลูกหนี้ในการชำระหนี้คืน ทำให้การจัดเก็บเงินสดต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ รวมถึงการชะลอตัวของกระบวนการจัดเก็บหนี้และ cash collection ของลูกหนี้ และการลงทุนในพอร์ตที่ลดลง

ผลกระทบจาก ECL ที่บันทึกมาจากการที่กระแสเงินสดที่รับน้อยลง และการฟ้องร้องลูกหนี้ที่ต้องมีความ Selective มากขึ้น เพื่อให้ใช้เม็ดเงินเท่ากันแต่ได้ผลประโยชน์ที่มากกว่า

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

CHASE ยังมีกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพในการเจรจาหนี้และพยายามที่จะเข้าถึงลูกหนี้ได้อย่างใกล้ชิดที่สุด รวมถึงการดำเนินงานในเรื่องของงานคดีเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะรอในเรื่องของ cash collection ในอนาคต

CHASE ยังคงเร่งในเรื่องของการพัฒนาด้านความยั่งยืนอย่างสม่ำเสมอ โดยยังคงทำตามในส่วนของ vision ของ mission คือให้ความรู้คู่วินัยกับทางฝั่งลูกหนี้

CHASE มีการจัดการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในกระบวนการทางกฎหมาย โดยพยายาม manage ว่าในช่วงไหนจะต้องเร่งคดีไหน เพื่อพยายามไม่ให้ลิ้นรอนสิทธิ์ในการหมดอายุความฟ้องต่างๆ จึงเร่งกระบวนการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และในเรื่องของการบริหารค่าใช้จ่ายด้วย

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

ผู้บริหารเชื่อว่า NPL ยังมีอยู่เยอะ แต่มาตรการต่างๆ ของภาครัฐอาจทำให้ NPL ที่จะไหลลงมาขายให้กับ AMC ไม่ได้มากขึ้น แต่อาจจะส่งมาในไตรมาส 4 หรือไตรมาส 1 ของปีหน้า

CHASE ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่แย่ไปตลอดกาล และหากช่วงปีหน้ามีรัฐบาลดี เศรษฐกิจดีขึ้น อะไรดีขึ้น ผู้ประกอบการหลายๆ ส่วนที่มีปัญหาเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้นก็จะดีขึ้น

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [1:03:50]**
  1. **กลยุทธ์เพิ่ม Cash Collection**
    • **คำถาม:** บริษัทมีกลยุทธ์อย่างไรที่จะทำให้ Cash Collection เพิ่มขึ้น?
    • **คำตอบ:** CHASE มีการวางแผนและมีกระบวนการต่างๆ ลงไป เช่น สร้างกระบวนการไกล่เกลี่ย ติดต่อลูกค้า และดำเนินกระบวนการทางกฎหมายที่เน้นตั้งแต่ปีที่แล้ว
    • มองว่าเหมือนการปลูกต้นไม้ที่ต้องใช้เวลา แต่เห็นภาพใบและยอดที่ชูขึ้นมาอย่างชัดเจน และในที่สุดจะส่งผลเป็นผลผลิตในอนาคต ต้องรดน้ำพรวนดินเพื่อให้สิ่งที่คาดหวังกลับมา
  2. **การเร่งการฟ้องร้องและการ Select พอร์ต**
    • **คำถาม:** ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังเร่งทำการฟ้องอยู่ไหม และพอร์ตหนี้ที่ซื้อมาแล้ว ควรจะชะลอการฟ้องต่อหรือไม่?
    • **คำตอบ:** กระบวนการทางฟ้องยังดำเนินไปอยู่ แต่มีการ selective มากขึ้น ว่าควรจะฟ้องกลุ่มไหนก่อน เพื่อให้ใช้เม็ดเงินเท่ากันแต่ได้ผลประโยชน์ที่มากกว่า
    • ตอนนี้ CHASE selective มากขึ้น เพื่อให้เม็ดเงินที่ลงทุนในกระบวนการทางกฎหมายแต่ละข้อนั้น ต้องส่งผลตอบแทนที่คุ้มค่า
  3. **การเตรียมเงินลงทุนหาก NPL ออกมาจำนวนมาก**
    • **คำถาม:** หากในอนาคตมี NPL ออกมาจำนวนมาก บริษัทมีการเตรียมเงินการลงทุนไว้อย่างไรบ้าง?
    • **คำตอบ:** CHASE วางงบประมาณไว้ที่ 500 ล้านบาทสำหรับปีนี้
    • หาก NPL ออกมาแล้วเป็นส่วนที่เป้าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เตรียมกันไว้ ก็จะใช้งบตรงนี้ลงทุนไป ส่วนถ้ามีอะไรที่ดูดีกว่านั้น ก็ค่อยดูอีกทีในเรื่องของเม็ดเงิน หรือทุน budget ที่อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ค่อยดูสถานการณ์
    • ถ้ามีของดีๆ มามากๆ ก็อาจจะต้องคุยกับทางสถาบันการเงิน

โดยรวมแล้ว CHASE ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาและคว้าโอกาสทางธุรกิจ โดยเน้นการพัฒนาด้านความยั่งยืน การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บหนี้ และการลงทุนในสินทรัพย์ด้อยคุณภาพอย่างระมัดระวัง

โพสต์ล่าสุด