GFPT Opportunity Day Q2/2568: เจาะลึกผลประกอบการและทิศทางธุรกิจไก่ครบวงจร

P/E 5.22 YIELD 2.02 ราคา 9.90 (0.00%)

GFPT Opportunity Day Q2/2568: เจาะลึกผลประกอบการและทิศทางธุรกิจไก่ครบวงจร

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**
  • ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 42 ล้านบาท คิดเป็น 0.839 ล้านบาท
  • ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เติบโตจากการเพิ่มปริมาณการเชือดไก่ของ GFN
  • ธุรกิจ Food และ Feed ลดลงเล็กน้อยจากภาพรวมการส่งออกและราคาหมูที่ลดลง
  • ต้นทุนลดลงจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ลดลง โดยเฉพาะถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง
  • กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 816 ล้านบาท หรือ 16.7%

กลุ่มบริษัท GFPT มีการดำเนินธุรกิจไก่แปรรูปแบบครบวงจรมากว่า 44 ปี โดยมีธุรกิจหลักคืออาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และไก่แปรรูป ซึ่งเน้นสินค้าส่งออก

บริษัทมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทาง SDG และมีเป้าหมายเป็น Net Zero ในปี 2593

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**
  • การก่อสร้างโรงเชือดไก่แห่งใหม่ที่อำเภอทุ่งหลวง จังหวัดชลบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังปี 2569 หรือต้นปี 2570
  • การขยายธุรกิจโดยสร้าง GFPT Further Processing Plant (โรงงานแปรรูปปรุงสุก) คาดว่าจะใช้เวลาสร้าง 2 ปีหลังโรงเชือดไก่แล้วเสร็จ
  • การเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอาหารกุ้งที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น
  • การส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ และการเพิ่มยอดขายในประเทศ

บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในการผลิตไก่แปรรูปแบบครบวงจร และเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลในทุกมิติ

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**
  • ความเสี่ยงด้านแรงงาน โดยเฉพาะปัญหาแรงงานกัมพูชา
  • ความผันผวนของราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์
  • มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tariff barriers)
  • ภาวะสงครามในบางประเทศที่อาจกระทบต่อการขนส่งและ Supply chain

ความเสี่ยงหลักที่ GFPT กำลังเผชิญคือปัญหาการขาดแคลนแรงงานกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบและสถานการณ์ความไม่สงบในต่างประเทศ

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**
  • การแก้ไขปัญหาแรงงานโดยการทำ OT เพิ่มเติม และรับแรงงานพม่าเข้ามาทดแทน
  • การป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยการทำ Forward contract
  • การปรับปรุงสูตรอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพ
  • การกระจายความเสี่ยงโดยการส่งออกไปยังตลาดที่หลากหลาย

GFPT แก้ไขปัญหาแรงงานโดยการเพิ่ม OT ให้กับแรงงานที่เหลืออยู่และรับแรงงานพม่าเข้ามาทดแทน

บริษัทยังมีการทำ Forward contract เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**
  • คาดการณ์รายได้เติบโต 2-3% ในปี 2568
  • Gross margin คาดว่าจะอยู่ในช่วง 15-16%
  • ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย
  • เงินลงทุนอยู่ที่ 1,000-1,200 ล้านบาท
  • เน้นการเติบโตแบบ Organic growth ในธุรกิจไก่แปรรูปครบวงจร

GFPT คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโต 2-3% ในปี 2568 และ Gross margin จะอยู่ในช่วง 15-16%

บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตแบบ Organic growth และลงทุนในธุรกิจไก่แปรรูปครบวงจร

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 52:10]**
  • **การนำเข้าวัตถุดิบจากอเมริกา:**
    • **คำถาม:** การเปิดนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากอเมริกา เช่น ข้าวโพดและกากถั่วเหลือง มีผลบวกต่อต้นทุนของธุรกิจอาหารสัตว์ของบริษัทอย่างไร?
    • **คำตอบ:** ราคานำเข้าข้าวโพดจากอเมริกาต่ำกว่าราคาตลาดโลก 20-30% (ยังไม่รวมค่าขนส่ง) หากสามารถนำเข้าได้จริง คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ 10-15%
  • **แผนการนำเข้าข้าวโพดและกากถั่วเหลืองจากอเมริกา:**
    • **คำถาม:** คาดว่าจะเริ่มนำเข้าข้าวโพดและกากถั่วเหลืองจากอเมริกาได้เมื่อไหร่? และมีแผนปรับสูตรอาหารสัตว์ใหม่เพื่อเพิ่มคุณภาพในการผลิต (FCR) หรือลดต้นทุนตามสถานการณ์ใหม่หรือไม่?
    • **คำตอบ:** ยังไม่มี Timeline ที่ชัดเจน ต้องรอการเจรจาระหว่างภาครัฐของไทยและอเมริกา หากนำเข้าได้ จะพิจารณาคุณภาพของข้าวโพดที่นำเข้าว่าตรงกับความต้องการหรือไม่ และจะปรับสัดส่วนการใช้ข้าวโพดในประเทศและนำเข้าตามความเหมาะสม
  • **นโยบายการซื้อข้าวโพด:**
    • **คำถาม:** ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยจะเก็บเกี่ยวผลผลิตมากในช่วงสิงหาคม-ธันวาคม ปกติ GFPT มีนโยบายซื้อข้าวโพดอย่างไร เพื่อใช้ผลิตอาหารสัตว์ได้ทั้งปี และในปีหน้าจะปรับกลยุทธ์ในการซื้อข้าวโพดอย่างไร?
    • **คำตอบ:** ปกติใช้ข้าวโพดในประเทศ 100% และ Stock ข้าวโพดไว้ประมาณ 2-3 เดือน หากราคาข้าวโพดในประเทศแพง จะลด Stock เหลือ 1-2 เดือน และรอสถานการณ์ หากราคาถูก จะ Stock เพิ่มเป็น 3-4 เดือน ในกรณีที่นำเข้าข้าวโพดได้ จะปรับสัดส่วนการซื้อตามความเหมาะสม
  • **ปัญหาแรงงานกัมพูชา:**
    • **คำถาม:** ตอนนี้ปัญหาเรื่องแรงงานกัมพูชาแก้ไขได้ 100% หรือยัง?
    • **คำตอบ:** GFPT ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานกัมพูชาจริง (20% ของแรงงานทั้งหมด) หลังจากเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา แรงงานกัมพูชาส่วนใหญ่ออกไปแล้ว แก้ไขโดยการทำ OT เพิ่มและรับแรงงานพม่าทดแทน ส่วนแรงงานกัมพูชาที่เหลืออยู่ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจที่จะทำงานต่อ
  • **การซื้อถั่วเหลืองจากอเมริกา:**
    • **คำถาม:** หลังจากผลอัตราภาษี Tariff ออกมาแล้ว ไม่ทราบว่ามีแนวโน้มจะซื้อถั่วเหลืองจากอเมริกาแทนบราซิลประมาณกี่เปอร์เซ็นต์?
    • **คำตอบ:** ราคาถั่วเหลืองจากอเมริกาและบราซิลใกล้เคียงกัน แต่สารอาหารในถั่วเหลืองบราซิลดีกว่าเล็กน้อย หากนำเข้าจากอเมริกาได้ ก็อาจจะสลับสัดส่วนการนำเข้าตามราคาและคุณภาพที่เหมาะสม
  • **ผลกระทบจากบราซิล:**
    • **คำถาม:** มีความกังวลว่าบราซิลจะหาทางกระจายสินค้าไปญี่ปุ่นหรือยุโรปมากขึ้นไหม จากการที่ถูกอเมริกากีดกันการอัตราภาษี Tariff ที่ค่อนข้างสูง?
    • **คำตอบ:** บราซิลเป็นคู่แข่งหลักของไทยมาโดยตลอด แต่เป็นคู่แข่งในส่วนของสินค้าไก่สดแช่แข็ง ซึ่งไทยส่งออกไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ไทยเน้นสินค้าที่มีคุณภาพสูงและตัดแต่งตามความต้องการของลูกค้า (High Value) ในขณะที่บราซิลเน้น Sales Volume และการผลิตปริมาณมาก

GFPT เผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงาน, ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ, และการแข่งขันจากบราซิล

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไก่แปรรูปครบวงจร

**สรุป:** GFPT ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน บริษัทมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาและคว้าโอกาสทางธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

โพสต์ล่าสุด