สรุป OPPDAY

Oppday CH: ครบรอบ 100 ปี กับผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมสินค้าใหม่รอเปิดตัว

สวัสดีครับ ผมศักดา ศรีแสงนาม CEO ของ CH ครับ

สวัสดีครับ ผม สรกฤต CFO ครับ

วันนี้เราจะมารายงานผลประกอบการของปีที่แล้วนะครับ

CS มีธุรกิจหลักๆ อยู่ 3 ตัว คือ ผลไม้อบแห้ง, ปลากระป๋อง, และขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ แบรนด์ของเรามีตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เช่น ตราเรือรบ, ตาสามเหลี่ยม, ตาหอไอเฟล, และตาสุมาโก้ นอกจากนี้ยังมีตราบางกอกเทสตี้และตราอีรอส ที่ตั้งโรงงานของเรามีอยู่ 4 ไซต์ คือ กรุงเทพฯ (สำนักงานใหญ่), สมุทรสาคร (โรงงานหลัก), สมุทรสงคราม (ผลิตกระป๋องปลา), และสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา (ผลิตผลไม้อบแห้ง)

กำลังการผลิต:

1. ปลากระป๋อง: 300 ตู้ต่อปี (ใช้กำลังผลิต 50%)
2. ผลไม้อบแห้ง (ไทย): 10,000 ตันต่อปี (ใช้กำลังผลิต 70%)
3. ผลไม้อบแห้ง (กัมพูชา): 2,000 ตันต่อปี (ใช้กำลังผลิต 88%)

ช่องทางการจัดจำหน่ายหลักคือทวีปอเมริกาเหนือ (56% ของรายได้รวม), ประเทศไทยและทวีปเอเชีย (17% เท่ากัน โดยจีนเป็น segment ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย), ทวีปยุโรป (9%), และออสเตรเลีย (1%)

มาตรฐานที่โรงงานของเราได้รับเป็นมาตรฐานสากล เช่น GMP, HACCP, BRC (Grade A), Organic, Sedex, Halal, Kosher เราลงทะเบียนเครื่องหมายการค้าใน 16 ประเทศทั่วโลก

รางวัลที่เราได้รับมีมากมายจากปารีส, เบลเยียม, จีน (เซี่ยงไฮ้, เสิ่นเจิ้น), และตะวันออกกลาง (Gulfood ที่ดูไบ) ในปี 2025 เราได้รับรางวัล Superior Taste Award จากเบลเยียมสำหรับส้มชุบช็อกโกแลต, มะม่วงน้ำปลาหวานกรอบ, และข้าวเหนียวทุเรียนอบกรอบ

กิจกรรมหลักๆ ที่เราทำมีทั้งการพบปะนักลงทุนเป็นหมู่คณะ, การออกงานแสดงสินค้าหลักทั่วโลก (เช่น Anuga, SIAL ที่ปารีส, Gulfood ที่ดูไบ), และงาน Thaifex ที่ไทยซึ่งจัดในเดือนพฤษภาคม

ปีที่แล้วเราลงทุนไปประมาณ 32 ล้านบาท หลักๆ ที่กัมพูชา และในไทยเราลงทุนสร้างโรงงานผลิตช็อกโกแลตที่สมุทรสาคร ส่วนที่กัมพูชาเราลงทุนสร้างห้องเย็น ซึ่งช่วยให้กำลังการผลิตของเราดีขึ้น

ปีนี้เป็นปีที่ดีของ CH เป็นปีที่เราครบรอบ 100 ปี และเป็นปีที่สร้างผลประกอบการและกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เราจะปันผลให้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยเช่นกัน โดยจะปันผลประมาณ 70% ของกำไรที่ทำได้จากปีที่แล้ว

ปีนี้เราจะมีสินค้าใหม่ออกมากเป็นประวัติการณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี เร็วๆ นี้เราจะออกสินค้าใหม่ 2 ตัว แต่จะเปิดตัว 3 อย่าง ได้แก่:

สินค้าใหม่:

1. มะม่วงธรรมชาติ (Bangkok Tasty): มะม่วงอบแห้งที่ไม่ใส่น้ำตาล ตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ
2. มะม่วง Super Soft (Bangkok Tasty): มะม่วง Soft Dry ที่อร่อยและนุ่มนวลกว่าเดิม
3. มะม่วงแช่บ๊วย (Eros): รสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย วางจำหน่ายที่ 7-Eleven

เราตั้งใจทำแบรนด์ Eros ขึ้นมาเพื่อให้สื่อถึงการกินผลไม้อย่างสนุกสนาน

สรกฤต CFO กล่าวว่า ปีนี้เป็นประวัติศาสตร์ของบริษัท รายได้สูงสุดและจ่ายปันผลสูงสุด หุ้นละ 10 สตางค์ ราคา ณ ปัจจุบัน 1.92 บาทต่อหุ้น PE ค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ประมาณ 13 เท่า PBV 1.7 หุ้นดีราคาถูก อยากให้เชิญชวนนักลงทุนลองไปเก็บหุ้นดู

รายได้ปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 1,800 ล้าน เป็น 2,275 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 38% หรือ 107 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือ 125% (127 ล้านบาท) สัดส่วนรายได้จากการขายต่างประเทศ 83% (ปี 2564) และ 76% (ปี 2565) margin จากการขายต่างประเทศค่อนข้างดี อยู่ที่ 17-18% ขายในประเทศ 8-10% ยิ่งส่งออกมาก กำไรสุทธิยิ่งมาก GP ของต่างประเทศคูณ 2 แล้วปัดเศษ คือกำไรจากการขายต่างประเทศ

สัดส่วนกำไรจากการขาย Brand 23-24% ถ้าหักค่าการตลาดจะลดลง หลักๆ มาจากการขาย OEM GP ค่อนข้างสูง (17%) OEM ขายได้ 68% (ปีก่อน) เพิ่มเป็น 72% Moupack เติบโต GP ต่ำกว่า OEM เล็กน้อย แต่ก็ยังสูงอยู่ จาก 454 ล้าน เป็น 580 ล้านบาท รายได้หลักมาจากผลไม้อบแห้ง 90% ของสัดส่วนตามรายได้ มะม่วง ส้ม ขิง

สัดส่วนรายได้จากปลากระป๋อง 10% GP 14-16% Healthy Snack เติบโต ปี 2566 ขายได้ 9 ล้าน ปีนี้ขึ้นเป็น 20 ล้านบาท ลูกค้าหลักอยู่โซนอเมริกา ยิ่งส่งออก GP ยิ่งสูงขึ้น กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น

รายได้เพิ่มขึ้น 400 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สัดส่วนลดลงจาก 8.38% เหลือ 7.22% คอนโทรลค่าใช้จ่ายได้ดี ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินและทุน เงินสดและลูกหนี้รวมกัน 400 หนี้สิน 270 จ่ายหนี้สินได้หมดแล้ว หนี้สินบางส่วนเป็นการตั้งสำรองทางบัญชี สัดส่วนของผู้ถือหุ้น กำไรสะสมเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการ กิจการแข็งแกร่งและพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจ DE Ratio 0.3-0.4 บริษัทหลายแห่งในตลาดหลักทรัพย์ DE Ratio 10:1 แสดงว่า CH ค่อนข้างแข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินดี ปีนี้ฉลองครบรอบ 100 ปี

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 46:00 ]

คำถามที่ 1: แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เป็นอย่างไร

คำตอบ: ไตรมาสที่ 1 ยังไม่จบ ทราบผลการดำเนินงานมาประมาณเดือนมกราคม เดือนกุมภาพันธ์ยังไม่จบ ถ้าพูดถึงเดือนต่อเดือนของมกราคม ปีนี้อาจจะไม่เทียบเท่ากับปีที่แล้ว แต่ก็ใกล้เคียงกัน เดือนอื่นๆ ยังไม่เสร็จสิ้น ไว้รอพูดคุยกันอีกทีในเดือนพฤษภาคม จะเป็นการ Oppday ของไตรมาส 1

คำถามที่ 2: ปัจจัยบวกในปีนี้มีอะไรบ้าง

คำตอบ: ปัจจัยบวกจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรมาก ปัจจัยมันก็ยังเหมือนปีอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ตัวปัจจัยที่ดังๆ เลยก็คือ ประธานาธิบดีของสหรัฐคนใหม่ที่เข้ามาก็เล่นเรื่องภาษีทารีฟขึ้นมา ถ้าท่านประธานาธิบดีทำโต้ตอบทางการค้า เราจะได้อะไรบ้าง เพราะเราเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นเป้าหมายที่ท่านประธานาธิบดีจะโต้ตอบทางการค้า

การโต้ตอบทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐก็ไม่มีอะไรใหม่ เพราะมันทำมาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าทางอเมริกาจะขึ้นภาษีมันก็ไม่ใช่ปัจจัยใหม่ มันก็ทุกอย่างก็ทำมาตั้งนานแล้ว โลกมันก็อยู่กับการที่สหรัฐกีดกันทางการค้าจากจีนมานานแล้ว

สหรัฐขึ้นภาษีกับแคนาดา ดีใจด้วย ถ้าขึ้นภาษีกับแคนาดามีผลอะไรกับเราไหม ไม่มี เพราะเรา เราส่งออกไปทวีปอเมริกาเยอะก็จริง แต่เราส่งไปเป็นแคนาดาไม่ได้ส่งสินค้าที่เราส่งเข้าสหรัฐไปที่สหรัฐ คือ เราส่งปลากระป๋อง ส่งผลไม้อบแห้งเข้าไปที่สหรัฐ แต่แคนาดาไม่ใช่คู่แข่งของเราในปลากระป๋องและผลไม้อบแห้ง ถ้าสหรัฐขึ้นภาษีกับแคนาดา ไม่ใช่เป็นปัจจัยบวกอะไรกับเรา ก็คือเสมอตัวไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าสหรัฐขึ้นภาษีกับเม็กซิโก อันนี้เรายิ้มเลย แต่สหรัฐโพสต์โฟนไปอีก

เม็กซิโกเป็นประเทศที่ส่งออกมะม่วงอบแห้งไปสหรัฐอเมริกา เป็นคู่แข่งกับเราเป็นอันดับต้นๆ เช่นเดียวกัน ถ้าสหรัฐกล้าขึ้นภาษีกับเม็กซิโกทั้งกระดาน เราได้อานิสงส์ คนจะหันมาซื้อมะม่วงแห้งจากเรามากขึ้น

ถ้าสหรัฐขึ้นภาษีกับไทย เราจะเกิดผลกระทบอะไร อันนี้ก็เป็นปัจจัยลบ ถ้าขึ้นมาขึ้นภาษีกับไทยแน่นอน โรงงานผลไม้อบแห้งในประเทศไทยทุกโรงโดนหมด รวมทั้งเราด้วย แต่เรามีโรงงานผลไม้อบแห้งที่กัมพูชา ซึ่งมันอาจจะไม่โดนผลกระทบเพราะสหรัฐไม่ได้เล็งกัมพูชา เรายังใช้โรงงานนั้นส่งออกไปยังสหรัฐได้ ก็ยังพอ บรรเทาผลกระทบลงไปได้บ้าง ถึงแม้ไม่ทั้งหมด เพราะโรงงานที่กัมพูชามันไม่ได้ใหญ่เท่ากับโรงงานที่ประเทศไทย แต่ มันก็คงบรรเทาผลกระทบลงไปได้บ้าง

สถานการณ์ที่เข้ามา คือเรื่อง สหรัฐกับรัสเซียจับมือกันกำลังจะยุติสงครามที่ยูเครนมีผลกระทบอะไรกับเรา ตอนนี้ในประเทศในทวีปยุโรป ประชาชนยากจน เพราะต้องใช้ก๊าซในราคาที่แพงขึ้น เพราะรัสเซียไม่ส่งก๊าซ ก๊าซธรรมชาติที่จะไปใช้ในในบ้านเรือนครัวเรือนของเขาทำให้บ้านเรือนอบอุ่น หุงต้มอะไรเนี่ย มันแพงก็ต้องขนส่งมาจากที่อื่นมันไกล รัฐบาลของประเทศทางทางทางยุโรปต้องใช้เงินในการที่จะไปซัพพอร์ตยูเครนในการรบกับรัสเซีย ถ้ามันยุติ ผมว่าเป็นปัจจัยบวกของเรา เพราะพายุติปุ๊บ ก็อาจจะขาย พลังงานไปยังยุโรปตะวันตกถูกลง ประชาชนเขาก็มีเงินมากขึ้น รัฐบาลเขา ก็ไม่ต้องเอาเงินไปซัพพอร์ต การรบของยูเครนเอามาพัฒนาประเทศมากขึ้น ถ้ามันยุติ อันนี้จะเป็นปัจจัยบวกกับเรา ในการที่จะตลาด ยุโรปต่อไป ซึ่งปีที่แล้วเราก็ขยายนะครับ ตลาดยุโรป เราก็ขยายได้ แต่ถ้ามันยุติ มันเป็นโอกาสที่เราจะใช้มันขยายได้มากขึ้น ก็คือปัจจัย

คำถามที่ 3: กลยุทธ์ในปีนี้เป็นอย่างไร

คำตอบ: กลยุทธ์ในปีนี้ก็คงไม่ได้มีอะไร กลยุทธ์หลักๆ คงไม่ได้มีอะไรแตกต่าง คือเรายังใช้กลยุทธ์ของการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ เหมือนเดิม แต่ที่บอกสินค้าใหม่ที่ Launch ในปีนี้ มันเป็นสิ่งที่คนอื่นยังไม่มี ก็คือตัวมะม่วงซุปเปอร์ซอฟต์ที่เราพูดถึง เรากำลังจะตั้งนิยามใหม่ จากคำว่ามะม่วง Soft Dry ที่ทุกคนไล่ตามผลิตตามเรามาแล้ว เรากำลังจะนำไปด้วยก้าวหนึ่งด้วยการทำมะม่วงซุปเปอร์ซอฟต์ ซึ่งเรากำลังจะ Launch ออกมา และถ้าผู้ใดอยากจะเห็นสินค้าตัวนี้ ตอนนี้ยังไม่ได้ Launch ในประเทศไทย Launch ยังอยู่ ที่ ที่ต่างประเทศ ถ้าใครอยากจะเห็นสินค้าตัวนี้ ติดตามเราไปชม สินค้าเราได้ในเดือนพฤษภาคมที่ไทย การขยายตลาดใหม่ๆ ในปีนี้เป็นอย่างไร ก็คงทำ เหมือนเดิมนะครับ เราคงจะไปงานแสดงสินค้า ทั่วโลก แล้วก็สินค้าเราก็วาง จำหน่ายทั่วโลกแล้ว ก็มีเกือบทุกที่นะครับ ใน ใน ใน ใน ใน ใน เกือบทุกทวีปในโลกนี้

คำถามที่ 4: สัดส่วนรายได้ในปี 2568 จะเป็นอย่างไร

คำตอบ: ภาพรวมในปี 2568 วิ่งเป้ารายได้โตเท่าไหร่ จะแบ่งส่วนมาจากไหน ปี 2568 เราก็วางเป้า ไว้ 2,000 ล้าน ปีที่แล้วเราวางเป้า 1,900 แต่เราปิดขึ้นมา 2,200 ปีนี้เราวางเป้า 2,000 ล้าน แต่ปิดเท่าไหร่ เดี๋ยวว่ากัน สัดส่วนรายได้ 2 ก็คงยังลักษณะคล้ายๆ เดิม ครับ มองตลาดในประเทศและต่างประเทศเติบโตเท่าไหร่ บ้างจากอะไรบ้าง ก็คงลักษณะคล้ายๆ เดิม เพราะว่าเราก็ยัง คือเราเป็น บริษัทมา 100 ปีแล้ว ทำมามันก็ลักษณะคล้ายๆ อย่างนี้ถูกไหมครับ

คำถามที่ 5: แผนลงทุนปี 2568

คำตอบ: ตอนนี้เรากำลังลงทุนต่อเนื่องมาจากปี 2567 นะครับ ไอ้ตัว โรงงานช็อกโกแลตเรามีโรงงานแล้ว เราก็คงต้องมีพวกเครื่องจักรอะไรที่มันต้องใส่เข้ามานะ เอ่อ ห้องเย็นนะ พวกก็สิ่งที่มันอยู่ในห้องเย็นก็ต้องใส่เข้ามา นี่คือแผนลงทุนต่อเนื่องซึ่งมันจะเข้ามาเรื่อยๆ

คำถามที่ 6: กล่อง Packaging สวยมาก คือสินค้าอะไร

คำตอบ: ตัวนี้ นะ ก็เหมือนกับฉากที่อยู่ข้างหลังเราน่ะ ฉากที่อยู่ข้างหลังเนี่ย ตัวเราก็เอาไปใช้ในงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ เวลาเรา Launch สินค้าตัวนี้ ตัวนี้ก็คือ มะม่วง Super Soft เหมือนกัน ภายใต้แบรนด์ เหมือนกัน แต่ Packaging แทนที่จะเป็นหีบห่อและสติ๊ก แล้วก็เพียงทำให้ลูกค้าดูว่า ลูกค้าต้องการเป็นกล่องกระดาษ อ่า มันก็มีเนาะ แล้วก็ทำได้

คำถามที่ 7: ตลาดต่างประเทศ Margin เท่าไหร่, ไทย Margin เท่าไหร่

คำตอบ: เมื่อกี้คุณ สรกฤต ยังขาดหนึ่ พูดไปแล้ว นะครับ ก็ ต่างประเทศก็ประมาณ 17-18% นะครับ ไทยก็ราวๆ สัก 12-13% ครับ

คำถามที่ 8: เวลาพูดว่า Launch หมายถึงว่ามีออเดอร์แล้วจริงๆ ถือว่า Launch ใน Live

คำตอบ: เอ่อ Launch หมายความว่า ผมเอาไปออกงานแสดงสินค้า แนะนำให้ลูกค้ารู้จัก ยังไม่มีออเดอร์นะครับ ก็คือเหมือนกับเป็นการแนะนำให้ลูกค้ารู้จัก นะครับ พูดคุย ชิม แล้วก็ นำลูกค้าให้ลูกค้า รู้จัก แล้วลูกค้าจะส ส่งออเดอร์มาให้เรา ก็คือการ Launch คือการแนะนำสินค้าใหม่

คำถามที่ 9: ถ้า Launch แบบไม่ Order, เราคู่แข่งมาดู Live รับทราบ

คำตอบ: ขอบคุณครับ ขอบคุณในความเตือนนี้ นะครับ ก็คือ แต่ถ้าเราไม่ Launch ลูกค้าเค้าไม่มีทาง รู้เลยว่าเรามีสินค้าใหม่อะไร แต่ เราคิดแล้ว ว่าสินค้าตัวเนี้ย เราไม่กลัว นะครับ เราจึงใช้เวลาในการ ที่ พัฒนามันนานพอสมควร

การขายในต่างประเทศที่ผ่านมา เราขายผ่าน Distributor ใช่ไหมครับ หรือขายกันเอง ก็ ส่วนใหญ่เราขายผ่าน Distributor ครับ การไปขายเองก็มีอยู่ไม่กี่เจ้าครับ ส่วนใหญ่เป็น distributor หรือ importer นะครับ

จากการรายงานผลประกอบการและตอบคำถามใน Oppday ครั้งนี้ CH แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจที่มีมายาวนานถึง 100 ปี พร้อมทั้งยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าและกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต