บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
KCG กำไร Q2/25 โตต่อเนื่อง คาดการณ์ทั้งปีโต 10% FSSIA แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 11 บาท
P/E 9.22 YIELD 5.13 ราคา 8.00 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ
FSSIA ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น KCG โดยให้ราคาเป้าหมาย 11 บาท มองว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ และยังให้ Dividend yield ที่ 5.4%
คาดการณ์ผลประกอบการ Q2/25
FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิ Q2/25 ของ KCG อยู่ที่ 98 ล้านบาท ลดลง 19.7% q-q จากปัจจัยด้านฤดูกาล แต่ยังเพิ่มขึ้น 4% y-y โดยมีปัจจัยหนุนจากความต้องการเนยชีสที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มลูกค้า industrial service แม้ว่าลูกค้า food service จะเติบโตชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
FSSIA คาดการณ์รายได้รวมใน Q2/25 จะลดลง 7.9% q-q แต่เพิ่มขึ้น 11% y-y จากความต้องการเนยชีสที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน
แนวโน้มผลประกอบการใน 2H25 คาดว่าจะดีกว่า 1H25 เนื่องจากเป็นช่วง high season ของธุรกิจ โดยเฉพาะ Q4/25 ที่เป็นช่วง Festive Season
ข้อสังเกตและปัจจัยขับเคลื่อน
FSSIA มองว่า KCG เป็นหุ้น Defensive จากการเป็นผู้นำตลาดเนยและชีส โดยมีส่วนแบ่งตลาดราว 55% และ 31.6% ตามลำดับ
คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568-27 เติบโตเฉลี่ยปีละ 12% จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การออกสินค้าใหม่ที่ให้ Margin สูง รวมถึงการขยายกำลังการผลิตสายการผลิต IWS และเนยอีกหนึ่งเท่าตัว
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ ราคาวัตถุดิบที่ปรับขึ้นมากกว่าคาด ค่าเงินบาทอ่อนค่า และแผนการขยายกำลังผลิตที่ไม่เป็นไปตามแผน
สรุป
FSSIA คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ของ KCG เติบโต 10% y-y ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีราคาเป้าหมาย 11 บาท เนื่องจากมองว่าบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องจากการเป็นผู้นำตลาด การขยายกำลังการผลิต และการออกสินค้าใหม่
ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด P/E ที่ 10.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และยังให้ Dividend yield ที่น่าสนใจ