https://aio.panphol.com/assets/images/community/6758_dc89ba.png

เจาะลึก PMC: โอกาสและความท้าทายในตลาดฉลากกาว ปี 2568

P/E 6.01 YIELD 0.33 ราคา 0.85 (0.00%)

เจาะลึก PMC: โอกาสและความท้าทายในตลาดฉลากกาว ปี 2568

สวัสดีครับ ขอต้อนรับผู้ถือหุ้นบริษัท PMC และนักลงทุนทั่วไป วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่เราทั้งสองคนมีโอกาสมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Opportunity Day ใน Quarter ที่ 1 ของปีนี้ที่ผ่านมา โดยวันนี้จะมีผู้ให้ข้อมูล 2 ท่านนะครับ ท่านแรกคุณเศรษฐพร สุนทรวิภาค ประธานฝ่ายเจ้าหน้าที่บัญชีและการเงินครับ

ส่วนผมเองนายสุรพงศ์ เหล่าสุทธิ นะครับ ประธานฝ่ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค นะครับ จะมานำเสนอในส่วนของ Company Overview นะครับ ส่วนคุณเศรษฐพรจะคุยเรื่อง Business Overview แล้วก็ Finance Overview นะครับ Performance นะครับ เริ่มกันเลยนะครับ

เบื้องต้นนะเนี่ยคือบริษัทของเราเนี่ยเรามาดูที่ Company Structure ก่อนนะครับ Company Overview ก็คือเราเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้บริษัทแม่ก็คือ Sirik นะครับ ซึ่ง Sirik จะถือหุ้นใน PMC เนี่ยเป็นจำนวน 70% ทั้งหมด แล้วเราเองเนี่ยก็มีบริษัทลูกอีก 2 แห่งนะครับ อ่าที่มาเลเซียแล้วก็ที่สิงคโปร์โดยที่เราถือหุ้น 100% นะครับ โดยบริษัทลูกทั้ง 2 บริษัทเนี่ยคือทำหน้าที่ในการที่ช่วย อ่าเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายกับ อ่าลูกค้าของเราในภูมิภาคและประเทศนั้นๆ นะครับ โดยการซัพพอร์ตได้เร็วขึ้น โดยที่ 2 บริษัทเนี้ยครับก็จะมี อ่า สามารถให้ Capacity Daily ในการจัดจำหน่ายเนี่ยอยู่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร นะครับต่อวันนะครับ แล้วก็ Supply Product จาก Headquarters คือ PMC อ่า ประเทศไทยเนี่ยแหละครับส่งในรูปแบบของม้วน Jumbo Roll ไปแล้วก็ทางฝั่งนั้นก็จะสลิปเป็นม้วนเล็กๆ นะครับเพื่อซัพพลายต่อกับลูกค้าเขานะครับ

ทีนี้เราดูเนี่ย PMC คือใคร PMC เนี่ยเป็นบริษัทผู้ผลิตต้นน้ำนะครับสำหรับทำฉลากที่มีกาวในตัวนะครับหรือที่เขาเรียกว่า Self Adhesive Label นะครับนะครับ แล้วก็ใน Supply Chain เนี่ยก็จะมีอะไรบ้างมีเป็น Face Stock ซึ่งมีทั้งกระดาษฟิล์มนะครับ แล้วก็วัสดุ Special ต่างๆ นะครับรวมถึง Adhesive ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างตาม Application ในการใช้งานนะครับต่อ อ่ากลุ่มเป้าหมายนั้นๆ Segment นั้นๆ นะครับ ส่วนต่อไปก็จะเป็น Liner ไม่ว่าจะเป็นทั้งฟิล์ม PET Kraft Liner หรือจะเป็นตัว Glass Seal Liner นะครับ เราก็เป็นผู้ผลิตทำมาเป็นในรูปแบบของม้วนและเป็น Sheet Form นะครับเราก็ส่งวัสดุตัวเนี้ย ส่งต่อ ไปหาลูกค้าเรานะครับ เพื่อในการ Convert ลูกค้าของเรามีเป็นใครบ้างก็เป็น Printer ที่จะเอาไปพิมพ์ต่อ แล้วก็เป็นส่วน Converter ที่เอาไปการ Modify ต่อไปนะครับ หลักๆ เนี่ยก็คือเราจะส่งไปเป็นฉลากสำหรับไว้ติดผลิตภัณฑ์ต่างๆ

อย่างในรูปที่เห็นเนี่ยครับก็จะเป็น Container ที่เป็น Beverage นะครับก็ไปติดกับขวดที่เป็นขวดแก้วนะครับ เสร็จแล้วเนี่ยต่างๆ เนี่ยขวดแก้วคือ 1 Application นะ Application ข้างล่างที่เราเห็นเนี่ยนะครับ ก็ยังมีทั้งเป็นขวด PET นะครับหรือจะเป็นกล่องที่เป็นกลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่ม Pharmaceutical เอง หรือจะเป็นกลุ่มพวก Personal Care เช่น ตลับครีมทาผิวต่างๆ เนี่ยครับ

ทีนี้เรามาดู Milestone ของ PMC ในปีที่ผ่านมาเนี่ยตั้งแต่เริ่มเนี่ยเราพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งนะครับ เริ่มเลยเนี่ยบริษัท PMC เนี่ย PMC Thailand ก็จะมี PMC Singapore ด้วย เป็นบริษัทที่ Own โดย Family Own นะครับ เป็นคนสิงคโปร์นะครับ ก่อตั้งที่เมืองไทยแล้วก็มีที่สิงคโปร์เป็น Slitting Terminal นะครับ ในปี 2559 เนี่ยเขาก็ได้รับตัว ISO 9001 ซึ่งรับรองมาตรฐานการผลิตนะครับ กระบวนการผลิตทั้งหลายนะครับ ปี 2562 เนี่ย บริษัทแม่ของเรา Sirik ก็เล็งเห็นความเติบโตเจริญก้าวหน้าของทิศทางของเศรษฐกิจและเท อ่า เทคโนโลยีของสินค้าประเภทนี้นะครับก็เข้ามา Acquire ตัว PMC เนี่ย โดยใช้ทุนประมาณ 1,030 ล้านบาทนะครับ

หลังจากนั้นเนี่ย Sirik เองเนี่ยก็พัฒนาอย่างต่อเนื่องนะครับ ปี 2563 เนี่ยเราเล็งเห็นละนอกจาก PMC Singapore ที่เรามี เราอยากได้ PMC Malaysia เพื่อตอบสนองในกลุ่มลูกค้าอีก Group ลูกค้าหนึ่งซึ่งมี Base ค่อนข้างใหญ่นะครับ แล้วนอกจากที่เราขยาย Distribution Center แล้วเนี่ยเรายังแสดงให้เห็นถึงการมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าแบบยั่งยืนโดยการได้เราได้รับ FSC Certified นะครับก็คือสินค้าประเภทกระดาษนำมาจากอ่า ทรัพยากรจากป่าปลูก ไม่ใช่ป่าที่ตัดมาจากธรรมชาตินะครับ นอกจานั้นโดยระบบการผลิตแล้วเนี่ยเรายังได้รางวัล Green Industrial Award นะครับจากกระทรวงอุตสาหกรรมด้วยนะครับ ในปีถัดมาในปี 2564 นะครับเราก็มีการ Restructuring Group ของเราโดยการเรา Acquire PMC Singapore เนี่ยครับจาก Sirik ให้มาอยู่ใต้ PMC Thailand นะครับ แล้วทำให้เนี่ย Capital ของเราเนี่ยเพิ่มขึ้นจาก 100 ล้าน เป็น 250 ล้านนะครับ ในปีถัดมา 2565 เราก็มุ่งมั่นพัฒนาขึ้นไปอีกนะครับ โดยการที่เรา Improve กับ Facility ที่เรามีอยู่ในโรงงานของเรานะครับ โดยทำให้บริษัทเนี่ยมี อ่า สามารถ อ่า ควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น โดยโรงงานของเราจะกลายเป็นระบบปิดนะครับ ป้องกันการ อ่า สิ่งกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่ทำให้คุณภาพของ Product เราเนี่ยจะด้อยค่าลงนะครับ นอกจากนั้นเนี่ย

เรื่องการยั่งยืนหรือ Sustainability เราไม่ได้ลดลงนะครับเรายังได้รับการ Qualify จาก APR ซึ่งให้แสดงให้เห็นว่าสินค้าของเราอ่ะครับ เมื่อนำไปใช้แล้วเนี่ยมันสามารถกลับ มารีไซเคิลได้อีก หรือที่เรียกว่า Circular Economy นะครับก็คือสามารถนำกลับไปใช้ได้ 100% นะครับเราก็ได้ APR Certified ซึ่งมาจากบริษัท เอ่อ มาจาก เอ่อ อเมริกา นะครับ ในปี 2566 ถึง 2567 เอง เป็นปีที่สำคัญสำหรับเราเลยนะครับ เป็นปีที่เราเข้า IPO นะครับ เทรดในเดือนกันยายนนะครับ เข้าสู่ตลาด MAI นะครับ นอกจากนั้นเองเนี่ย IPO Filing แล้วเนี่ยเรายังมีการขยายนะครับ กำลังการผลิตนะครับ เพิ่มจาก 75 ล้านตารางเมตรไปสู่ 185 ตารางเมตรโดยการ Installment เครื่องใหม่นะครับ เครื่องจักร Quarter ใหม่นะครับ หลังจากนั้นเนี่ยเราก็จะได้ Carbon Footprint Certified อีกจาก กบอ. นะครับ เพราะว่าเราสามารถอ่า ลดการปล่อย Carbon Emission เราสามารถ Declare ได้ว่าเราใช้เท่าไหร่นะครับ

ต่อไปในปี 2568-2573 อ่ะครับเราก็ลิงก์กับไปสู่ขอบ อ่า นโยบายของประเทศไทยซึ่งเกี่ยวกับตัว Carbon Emission ในปี 2573 นะครับ นโยบายก็คือต้องสามารถลดการปลดปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจกเนี่ยได้ถึง 30-40% ครับ

อันนี้เป็น Certified ที่เราได้นะครับ อย่างที่บอกเรื่อง Environmental เรามี Green Energy Green Industrial Award จากกระทรวงอุตสาหกรรม ได้อ่า รับรองการปลดปล่อยตัว Carbon Emission ที่ อ่า เท่าไหร่ลดลง Scope 1 Scope 2 จาก กบอ. หรือที่เรียกเรียก ว่า TGO นะครับ สินค้าที่เรานำผลิตนะครับ ก็มาจาก อ่า อ่า วัตถุดิบที่มาจากป่าปลูกนะครับ เช่นเป็นประเภทกระดาษเราได้ Certified FSC ส่วนกระบวนการผลิตเรื่องคุณภาพ หรือการควบคุมคุณภาพเองนะครับ เราได้ทั้ง ISO 9001 แล้วก็ ISO 14001 นะครับ แล้วเรื่องกับ Circular Economy หรือ Food Safety เองเนี่ยเราก็มี ICA ICA นี่ก็คล้ายๆ FDA อ่ะครับ แต่เป็นของฝั่งยุโรปนะครับ ทำให้ Product เราเนี่ยสามารถส่งไปขายที่ยุโรปได้นะครับ นอกเหนือจาก APR ที่ผมได้ Mention ไปแล้วนะครับ ก็สินค้าของเราสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% นะครับ ผ่านกระบวนการ Circular Economy ไม่ใช่ Linear เหมือนปกติ ซึ่งเอาไปฝังกลบนะครับ

อีกที่สำคัญเลยจริงๆ แล้วเรื่อง Government เรื่อง Ethics ก็เรื่อง ธรรมาภิบาลนะครับ ตัวเราเองเนี่ยก็ได้ Certified CAC ด้วยนะครับ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นพัฒนาในรอบด้านทั้ง 4 ทิศทางนะครับ

ส่วนถัดไปอันนี้ผมให้โชว์ Detail ของรายละเอียดนะครับ ที่เราพยายาม Improve เกี่ยวกับพวก Sustain และ Green Energy นะครับ ทั้ง Factory ของเราเนี่ยมีการ Install อ่า Solar Rooftop นะครับ ซึ่ง Solar Cell เนี่ยเรา Install ไปแล้ว 2 เฟสเรียบร้อยแล้ว แล้วปริมาณนะครับที่เราได้จาก Solar Rooftop เนี่ยเราจะได้ประมาณ 3 ล้านกิโลวัตต์อาร์ว นะครับ ถ้านับเป็น Carbon Footprint นะครับ ก็คือเราสามารถลดไป 362 ตันนะครับ แล้วก็เราเซฟต้นไม้ประมาณ 100 เอ่อ 1,267 ต้นนะครับ

นะครับ อันนี้คือเป็น เอ่อ ข้อมูลที่เราได้นะครับ ก็คือ เอ่อ เราได้รับการรับรองจาก กบอ. นะครับ แล้วก็ Scope 1 ที่เราปล่อยไปนะครับ ก็ 1,437 ตันคาร์บอน Scope 2 ก็ 1,162 คาร์บอนนะครับ ถ้ารวมทั้งหมดแล้วเนี่ยก็ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เราไปปล่อยออกไปก็คือ 2,599 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่านะครับ ตอนนี้ก็คือเรามีการ Qualify ทุกปีนะครับ

ถัดไปนี่ก็คือ Vision Vision ของเราอ่ะครับ เราต้องการสร้างความแตกต่างครับ แล้วก็เป็นผู้นำในอาเซียนนะครับ ด้วยเราพัฒนาสินค้าที่ อ่า Sustain ก็คือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนะครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้าเองหรือแหล่งที่มาของสินค้า นั้นๆ นะครับ Mission ของเราก็คือแน่นอนแหละเราต้องการขยายและเติบโตเป็นที่ 1 ในอาเซียนนะครับ ด้วยผ่านเทคโนโลยีที่ Sustain ทั้งหลายแล้วก็ระบบการผลิตที่ยั่งยืนนะครับ นอกจากนั้นเนี่ยด้วยการที่เราจะ Move Forward อย่างที่เห็นสโลแกน FAST เนี่ยก็คือเรา ต้องการมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งพัฒนาไปได้รวดเร็ว ฉะนั้นเราไม่ได้มองข้ามในการที่จะมีพันธมิตรทางการค้าสำหรับเทคโนโลยีที่แตกต่างกับเรา เพื่อเราจะมุ่งมั่นไปถึงจุดหมายที่เราจะเป็นที่ 1 ในอาเซียนให้ได้นะครับ ตัวสุดท้ายก็คือ Trust One Stop Solution Provider ข้อเด่นของบริษัทเราเนี่ยคือนอกจากทีมเซลล์ หรือทีมหลังบ้านไม่ว่าจะเป็น RD และ Quality Service แล้วก็ทาง Operation แล้วอ่ะครับ เรายังมีทาง Technical ที่ช่วยเข้าไป Support ลูกค้ากับหลังการขายนะครับ After Service นะครับ ไม่ว่าการ เอ่อ Develop การทำ Convert สินค้าเราต่อไป หรือการพัฒนาสินค้าโดยทาง RD เองก็ตาม อันนี้เป็นจุดเด่นของเรานะครับ

อันนี้ผมขอแตะที่ส่วน Construction ฉลากอีกทีนะครับ เผื่อบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจชัดๆ นะครับ คือองค์ประกอบของ Product เราเนี่ยจะมี 3 องค์ประกอบหลักนะครับ วัสดุพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นตัวกระดาษฟิล์มหรือเป็นวัสดุพิเศษนะครับ แล้วก็กาวแต่ละประเภทนะครับ ตรงนี้ก็จะอยู่ในส่วน ของ Face Stock แล้วก็จะมีตรงส่วนที่เป็น Liner นะครับ ก็จะมีซิลิโคนนะครับ แล้วก็แผ่นรองหลังไม่ว่าจะเป็น Glass Seal Kraft Paper หรือจะเป็น PET นะครับ กาวเรามี 2 ประเภทเป็น Water Base แล้วก็ Hot Meal นะครับ

อันนี้เป็นผมโชว์ตารางที่เป็น Percentage ที่เรา อ่า ทำไปแล้วใน Q1 นะครับ นี่คือเปอร์เซ็นต์การขายของเราในส่วน Segment ที่เป็น Paper เนี่ยอยู่ที่ประมาณ 54% ฟิล์มอยู่ที่ 22% แล้วก็ Specialty อยู่ที่ 19% ซึ่งตามกลยุทธ์เราแล้วอ่ะครับ เราจะมุ่งเน้นไปที่ Specialty ถ้าเรามองย้อนกลับไปใน Q4 จะเห็นว่ายอดของ Specialty ใน Q1 เนี้ยเติบโตขึ้นนะครับ ทีนี้มาดูใน Product ของ End Use ของแต่ละตัวนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Paper เองเนี่ยเราจะเห็นว่าเราจะเห็นได้ทั่วไปเลย ไม่ว่าจะเป็นในตาม Supermarket นะครับ แบบอาหาร หรือจะเป็น Supermarket เองก็เป็นพวก Weight Scale Label ในการปริ้นน้ำหนักนะครับ หรือราคา หรือจะเป็นพวกกลุ่ม Beverage ที่ติดกับขวดต่างๆ นะครับ แม้กระทั่งกลุ่มที่ Filmic ที่ต้องการอะไรที่ Challenge ขึ้นนะครับ แปะไปกับกลุ่ม Industrial พวกถังดัม หรือจะเป็น Indirect Food ที่มีผิวที่มีความชื้นบนภาชนะที่ใส่อาหาร หรือจะเป็นพวก Personal Care อย่างเช่นที่ฉลากที่แปะบนอ่า น้ำยาปรับผ้านุ่มนะครับ กลุ่มสุดท้ายที่ อีกกลุ่มหนึ่งเนี่ยคือกลุ่ม Special ที่กลุ่มเราเน้นก็คือเป็นพวก Application พิเศษ อย่างเช่นที่เราเห็นพวกล้อรถยนต์พวกเนี้ยมันจะใช้สินค้าที่พิเศษมากๆ เช่น กาวที่มีเฉพาะทาง สามารถยึดเกาะกับยางที่มีความลื่นมากๆ นะครับ หรือจะเป็นกลุ่มกาวที่สามารถติดกับของแช่แข็งได้ เมื่อมีความชื้นสูงๆ แม้กระทั่งผิวที่มี Moisters มากๆ นะครับ หรือกลุ่ม Logistic นะครับ พวกนี้นะครับ ตอนนี้เพราะว่ากลุ่มเนี้ยจะเติบโตมาก เอ่อ การสั่งสินค้าออนไลน์ มันต้องมี Tag ตัวนี้เพราะ Tag ตัวนี้ที่เห็นมันไม่ใช่ Tag ตัวเดียวนะครับ กล่องเนี่ยมีหลาย Tag มากเลยนะครับ

นะครับอันนี้ผมขอแตะในกลุ่มแยกยิบย่อยอีกนิดนึงนะครับ ขออีกนิดนึงก็คือส่วนที่เป็น Paper นะครับ Paper เนี่ยจะเป็นคล้ายๆ กับพวก Commodity คือเขาสามารถใช้ได้ทั่วไปนะครับ แล้วก็ อ่า ราคาของสินค้ากลุ่มเนี้ย เป็นราคาที่สามารถจับต้องได้นะครับ เข้าถึงได้ทั่วไป ฉะนั้นเนี่ยการ อ่า แข่งขันก็ค่อนข้างสูงนะครับ แข่งขันโดยคุณภาพเป็นหลักนะครับ แล้วก็กลุ่มเนี้ยมันจะมีเข้าไปถึงกลุ่ม Advertisement ไม่ว่าจะเป็น Marketing ในการทำเป็น Promotional กระดาษแปะตาม Shelf ต่างๆ หรือเป็น Consumer Good ต่างๆ เช่นพวก Product ที่แปะ โชว์อ่า อ่า Detail ของสินค้านะครับ ให้ Information สำหรับสินค้า แม้กระทั่ง Food เองหรือผลไม้เองที่เราเห็นเนี่ยที่แปะ ไม่ว่าจะเป็นผล Apple มะพร้าวกล้วยอะไรต่างๆ เนี่ยจะมีฉลากหมดนะครับ General Usage ก็คือแปะเป็น Information ทั่วไปแล้วก็กลุ่ม Retail นะครับ ซึ่งโชว์ข้อความสินค้าแล้วก็น้ำหนักหรืออะไรพวกนี้นะครับ

กลุ่มถัดไปก็จะเป็นกลุ่มเกี่ยวกับ Filmic ตัวนี้อะไรต้องการที่ Challenge ขึ้น Application ที่ใช้งานใน เอ่อ Service Temperature อะไร ต้องการคุณสมบัติพิเศษในการทนน้ำนะครับ หรือ Chemical Resistance เนี่ยก็ต้องมาที่กลุ่มฟิล์ม ซึ่งจะมี อ่า Margin ดีกว่ากลุ่มกระดาษนะครับ เป็นกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่งที่เราพยายาม Improve ขึ้นมาให้มียอดขายมากขึ้นด้วยนะครับ อันนี้ก็จะใช้ในกลุ่ม Advertising นะครับต่างๆ นะครับ เช่น ป้ายอ่า โชว์ Outdoor ต่างๆ นะครับ ในกลุ่มพวกที่เป็นอ่า PET หรือเป็น PVC เองก็ตาม Consumer Good ที่ใช้กับพวก Container ที่ใช้ อ่า ในส่วนที่มีความชื้นหรือ Chemical สูง เช่นน้ำยาล้างจานอะไรพวกนี้ก็ใช้กลุ่มนี้ Food Beverage ก็มีตัว อ่า ที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นเปลือกไข่เองก็ตาม ผลไม้หรือจะเป็นอาหารแช่แข็งต่างๆ ก็อยู่ในกลุ่มนี้แล้วก็กลุ่ม Industrial ซึ่งไปใช้ความคงทนเรื่องอุณหภูมิสูงนะครับ แล้วถึงกลุ่ม Retail เองนะครับ ในการขนส่ง Logistic ที่ต้อง อ่า ทนทานกับสภาพแวดล้อมนะครับ กลุ่มถัดไปก็กลุ่ม Specialty กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เราพยายาม Boot Up นะครับ เพราะว่าเป็นกลุ่มที่ Margin ดีมากนะครับ แล้วก็ เป็นค่อนข้าง Special จริงๆ มีไม่กี่เจ้าที่สามารถผลิตได้ ในกลุ่ม Declaration ในที่นี้ก็จะเป็นพวก Hologram พวก Voice Tech ทั้งหลายป้องกันการปลอมแปลง หรือจะเป็นกลุ่ม Healthcare ไม่ว่าจะเป็นพวกกลุ่ม Direct Thermal อ่า ต่างๆ ที่เป็นฉลากโชว์ Info เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ นะครับ แล้วกลุ่ม Logistic นะครับ แล้วพวกกลุ่ม Automotive นะครับ จริงๆ ผมแตะกลุ่ม End User ไปแล้วว่า End User จริงๆ เนี่ยเดี๋ยวจะมีทางที่คุณเศรษฐพร จะอธิบายเพิ่มเติมก็คือยอดขายเราอยู่ประมาณ 220.8 นะครับ Segment เนี่ย End User หลักๆ ของเราอยู่ที่ Retail ประมาณ 55% นะครับ 51% ขอโทษครับ 50% แล้วก็ Personal Care อยู่ประมาณ 19% แล้วก็ F&B คือ Food Average เนี่ยอยู่ประมาณ 11% อันนี้คือ 3 กลุ่มใหญ่นะครับ Percentage ในการขายของเรานะครับ ต่อไปเดี๋ยวผมขอส่งต่อให้ทางคุณเศรษฐพร อธิบายส่วน Financial Performance นะครับ

สรุปผลประกอบการ Q1 ปี 2568 และแนวโน้มธุรกิจ

ค่ะ มา มาเรา มาดู เอ่อ Financial Performance ใน Q1 กันบ้างนะคะ อ่า อันนี้เป็นการสรุปให้ดูง่ายๆ นะคะ Consolidated Financial Statement ของ Q1 ปี 2568 ก็คือ Total Revenue ใน Q1 เนี่ยเราทำได้ 221.1 ล้านบาทค่ะ ก็คงที่นะคะเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 221.0 Gross Profit ค่ะ Gross Profit ปีนี้เราก็ทำได้ดีนะคะ Gross Profit เราเพิ่มขึ้น 7.7% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 47.3% Gross Profit Margin อยู่ที่ 21.4% ค่ะ SGA เพิ่มขึ้นเล็กน้อยค่ะ SGA เพิ่มขึ้นเป็น 24.4 ล้านบาทนะคะ เพิ่มขึ้นจาก 3 3.4% จากปีก่อน นะคะ ส่วน EBITDA ค่ะ EBITDA ปีนี้เราก็ทำได้ดีเหมือนกัน EBITDA เราปิดที่ 29.5 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนนะคะถึง 19.1% ค่ะ ทำให้ Quarter เนี้ย Net Profit Margin ของเราเนี่ยปิดอยู่ที่ 15.7 ล้านบาทนะคะ หรือว่าเติบโตมากขึ้นถึง 31.6% จากปีก่อนค่ะ Net Profit Margin เนี่ยอยู่ที่ 7.1% นะคะ

ค่ะ อันนี้ก็เป็น Sell Revenue by Quarter ค่ะ ก็คือ Sell Revenue by Quarter จะเห็นได้ว่าใน Q1 ปีเนี้ย Sell Revenue ปิดอยู่ที่ 220.8 ล้านบาทค่ะ เติบโตเพิ่มขึ้นทั้ง Q on Q แล้วก็ Year on Year นะคะ ซึ่งอ่า เติบโตจะมากกว่าปีที่แล้วอยู่ 2.2% Q on Q หรือว่าเติบโตก็ขึ้น 0.2% นะคะจากปีก่อนค่ะ

อ่า การที่เราเติบโตเพิ่มขึ้นเนี่ย หลักๆ สำคัญเนี่ยก็จะมาจาก Domestic Domestic Market ตอนนี้นะคะแล้วก็ส่วนใหญ่ก็คือมาจาก Specialty Product ถ้าเกิดตอนนี้ Revenue ในเซลล์เนี่ยที่เราเติบโตเพิ่มขึ้น เอ่อ Table ด้านบนเนี่ยค่ะโชว์ให้เห็นถึงรายได้ Domestic แล้วก็ Export นะคะ เนื่องจากภาวะการตลาดในตลาด Export เนี่ยก็ยังมีความ อ่า ได้รับ ได้รับแรงกดดันอยู่นะคะ เอ่อ เราก็เลยเติบโตตลาดในประเทศเนี่ย ล่าสุดใน Q1 เนี่ยเราเติบโตตลาดในประเทศเนี่ยเราปิดอยู่ที่ 158.2 ล้านบาทค่ะ เติบโตเพิ่มขึ้น 9.2% จาก Q ที่แล้วนะคะ Quarter ที่แล้วแล้วก็เติบโตเพิ่มขึ้น 6.9% จากปีก่อนค่ะ อ่า ส่วนตลาดต่างประเทศเนี่ยเราปิดอยู่ที่ 62.6 ล้านบาทนะคะ ลดลง 12.1% จาก Quarter ที่แล้วแล้วก็ลดลง 13.4% จากปีก่อนค่ะ จะเห็นว่าอ่า เราเนี่ยสัดส่วนการขายในประเทศกับต่างประเทศเนี่ยแบ่งออกเป็น 72% Domestic อ่ะนะคะในประเทศแล้วก็ 28% ต่างประเทศค่ะตอนนี้ นะคะ ถ้า by Product กันบ้างค่ะ By Product เนี่ยอย่างที่คุรพงษ์ ได้เล่าไปแล้วเนอะว่าเรามีการถ่ายทั้ง Paper ฟิล์ม Specialty แล้วก็ Other นะคะ Other ก็คือเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เลยส่วนฟิล์มเนี่ยก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยฟิล์ม ส่วน Specialty เนี่ยค่ะก็จะเป็นทั้ง Face Stock กระดาษก็ได้ Face Stock ฟิล์มก็ได้ แต่ว่ามีความพิเศษนะคะ เช่นมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น เอ่อ ต้องทนความร้อนเป็นพิเศษหรือว่าทนความเย็นเป็นพิเศษหรืออะไรแบบนี้ค่ะ หรือว่าต้องอ่า เป็นกาวที่ถ้าลอกออกแล้วต้องไม่ ไม่ ไม่ไม่โชว์คราบกาวมีอะไรหลายๆ อย่างแบบนี้นะคะ จะเห็นได้ว่า เอ่อถ้าเป็น Paper เนี่ยเราปิดอยู่ที่ 119.6 ล้านบาทในปีนี้นะใน Q นี้นะคะ คือลดลง 0.1% Q แล้วก็ลดลง 14.9% จากปีก่อนค่ะ ส่วนฟิล์ม Sticker ประเภทฟิล์มอ่ะค่ะเราปิดอยู่ที่ 49.4 ล้านบาทนะคะเพิ่มขึ้น 2.5% จาก Q ที่แล้วค่ะแต่ว่าลดลง 4.7% จากปีก่อน แต่เรา Specialty ของเรานี่เพิ่มขึ้นสูงมากก็คือเราปิดอยู่ที่ 41.2% หรือว่าเพิ่มขึ้น 50.2% จากปีที่แล้ว หรือว่าเพิ่มขึ้น 4.3% จาก Quarter ที่แล้วอ่ะนะคะ สัดส่วนการขาย Quarter 1 เนี่ยก็จะเป็นกระดาษ 54 ฟิล์ม 22 แล้วก็ Specialty 19% ค่ะ ซึ่งอันนี้ก็เป็นไปตามแนวทางที่เราพยายามมุ่งมั่นพัฒนาเติบโต เราจะพยายามเน้นฟิล์ม Specialty เพราะว่าทั้งสอง ทั้งสอง Product เนี่ยมี Margin ที่ค่อนข้างสูงนะคะ

ค่ะต่อไปเป็น Gross Profit Margin โชว์ให้ดู เอ่อ Quarter by Quarter อ่ะนะคะ ก็จะเห็นได้ว่าปีเนี้ย เอ่อ Q เนี้ยเราสามารถปิด Gross Profit Margin ได้ค่อนข้าง ดีนะคะอยู่ที่ 47.3 ล้านบาทค่ะ หรือว่าเอ่อมา Gross Profit Margin Ratio เนี่ยอยู่ที่ 21.4% นะคะ โดยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 18.6% จาก Q ที่แล้วนะคะจากไตรมาสที่แล้วแล้วก็เติบโตเพิ่มขึ้น 7.7% ค่ะจากปีก่อนนะคะ ซึ่งเห็นได้ว่า Gross Profit Margin ของปีก่อนเนี่ยปิดอยู่ที่ 19.9 นะคะปีนี้เราไปเพิ่มขึ้นมาเป็น 21.4 ค่ะ

ค่ะ SGA ค่ะ SGA ประกอบไปด้วย 2 ส่วนก็คือส่วนที่เป็น Selling Expense แล้วก็ Admin Expense นะคะ ก็จะเห็นว่า เอ่อ เราปิด Selling Expense อยู่ที่ 9.9% 9.9 ล้านบาทค่ะ ลดลง 6.2% เอ่อ Q on Q Q on Q นะคะแต่ว่าเพิ่มขึ้น 0.5% ค่ะจากปีก่อนนะคะ ส่วน Admin Expense ค่ะ Admin Expense เนี่ยเราปิดอยู่ที่ 14.5 ล้านบาทค่ะก็เพิ่มขึ้นทั้งเล็กน้อยนะคะทั้งจาก Quarter ที่แล้วแล้วก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนด้วยนะคะอยู่ที่ 3.1% จากไตรมาสที่แล้วแล้วก็เพิ่มขึ้น 5.6% จากปีก่อนค่ะ Total SGA เนี่ยอยู่ที่ 24.4 ล้านบาทนะคะ เอ่อลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 0.9% ค่ะแต่ว่าเพิ่มขึ้นเนี่ย 3.4% จากปีที่แล้วถ้า Total SGA ใน Ratio To Sell อ่ะนะคะมันจะอยู่ที่ประมาณ 11% ค่ะ อ่า แบ่งออกเป็น Admin Expense แล้วก็ Selling Expense อยู่ที่ 4.5% แล้วก็ 6.5% นะคะตามลำดับค่ะ

มาดูทางด้าน Profitability กันบ้างค่ะ Profitability เนี่ยถ้าเห็น ถ้า เอ่อ กราฟด้านซ้ายเนี่ยคะก็คือ EBITDA เอ่อ โชว์ให้ดูรายไตรมาสจากไตรมาส 1 ปีที่แล้วจนถึงไตรมาส 1 ปีนี้ก็จะเห็นได้ว่าเราเนี่ยก็ทำ EBITDA ได้ดีใน Q1 ปี 2568 ได้ดีมากนะคะ ปิดอยู่ที่ 29.5 ล้านบาทค่ะ หรือว่า EBITDA Margin Ratio เนี่ยอยู่ที่ 13.4% นะคะ เพิ่มขึ้น 39.6% น่ะจากไตรมาสที่แล้วแล้วก็เพิ่มขึ้น 19.1% ค่ะจากปีก่อนนะคะ Net Profit Margin ค่ะ Net Profit Margin น่ะกราฟด้านขวาเนี่ยจะเห็นว่าปีเนี้ยเราปิดอยู่ที่ 15.7 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 นะคะ เพิ่มขึ้น 72 จุด9% จาก เอ่อ ไตรมาสที่แล้วแล้วก็เพิ่มขึ้น 31.6% จากปีก่อนค่ะ โดย Gross Profit Margin Ratio เนี่ยอยู่ที่ 7.1% นะคะ

อันนี้จบการรายงานทาง Financial Statement แล้วนะคะ เดี๋ยว ดิฉันกับคุณสุรพงศ์จะเข้าสู่ช่วง Q&A เลยนะคะ

ครับ ก็คำถามจากที่ได้รับมานะครับ ข้อแรกก็คือ บริษัทมีความกังวลอะไรบ้างในช่วง 1-3 ปีที่ผ่านที่จะมีข้างหน้านี้แล้วก็มีแผนรับมือยังไง จริงๆ ช่วงที่ผ่านมาไม่ ไม่ว่า 1-2 ปีที่ผ่านมาเองเนี่ย หรือปีถัดไปเนี่ยสิ่งที่เราเล็งเห็นนะครับ เพราะว่ามันมีสถานการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นรอบโลกมากมายเลย ไม่ว่าล่าสุดเนี่ยทรัมป์เองเรื่องเอ่อ Tariff ตัวเอ่อ Trade War เกี่ยวกับเอ่อการขึ้นภาษีทั่วโลกนะครับ ไม่ว่าเขาจะมีสงครามกับจีน หรือแม้กระทั่งยุโรปเองก็ตามเนี่ย มัน มันก็ไม่มีทีท่าที่แบบหยุดแล้วก็ถูกต้องสถานการณ์เนี่ยมันเปลี่ยนแทบจะรายวันเอง ทางเราเองเนี่ยก็มีการเตรียมพร้อมนะครับ โดยการเราพยายามสร้างอ่า ฐานลูกค้าที่มีความมั่นคงกับบริษัทเรานะครับ ร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน Bonding กันนะครับ แล้วก็ฐานลูกค้าของเราเนี่ยอย่างน้อยเราทำให้แข็งแกร่งนะครับ แล้วก็การบริหารจัดการภายในไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการผลิตเอง อ่า หรือเป็นการบริหารสินค้าคงคลังรวมถึงอ่าการ Manage Supply Chain ของเรามี Strategy Partner แล้วก็การ Sourceing จาก Product ที่ไม่ได้มีอยู่ใน Area ที่มี Conflict หรือตัวอ่าอ่า ภูมิประเทศ เอ้ย สงครามภูมิศาสตร์พวกนี้ด้วยนะครับนะครับนะครับ อันนี้คือเป็นสิ่งที่เราเตรียมพร้อมนะครับ แล้วก็เนี่ยครับ ก็คือกู้ค้าในทางเอเชียแล้วก็ ASEAN ด้วยครับที่เราเตรียมเอาไว้นะครับ ส่วนข้อถัดไปก็คือบริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดนะครับ จริงๆ อ่ะเรามุ่งมั่น ของบริษัทเราอ่ะครับ เติบโตไปอย่างยั่งยืนนะครับ อย่าง Sustain นะครับ ด้วยยังไงก็คือทิศทางหรือ Direction ของเราเนี่ยมุ่งมั่นกับการพัฒนาสินค้าเองเนี่ย ให้เป็นสินค้าที่เอ่อยั่งยืนนะครับ กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน นอกเหนือจากนั้นสิ่งที่เรามุ่งมั่นที่ทำให้บริษัทเราเติบโตยั่งยืนก็คือเราอ่ะเสริมสร้าง Customer Experience ก็คือเรามีการ Service หลังการขายไม่ว่าจะส่งเสริมการให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นะครับ อ่า การช่วยลูกค้าในการนำ สินค้าไปผลิตภัณฑ์ ไปพัฒนาต่อไปในอนาคตแล้วก็ช่วยลูกค้าแก้ปัญหาต่างๆ นะครับ จากทางทีม Technical Service เองหรือทางทีมเซลล์เองนะครับ ซึ่งเป็นโครงการที่เราทำต่อเนื่องมาอยู่แล้วนะครับ

ถัดไปอันนี้ แผนการใช้เงิน IPO ครับค่ะ ยังเป็นไปตามวัตถุประสงค์แล้วก็เป้าหมายของบริษัทที่ได้วางไว้อะนะคะ

ข้อถัดไปนะครับสาเหตุที่ GPM ดีขึ้นเป็นเพราะเหตุใด เกี่ยวกับการขยาย Special อ่อ ตี้ฟิล์มใช่หรือไม่ครับ ค่ะ อ่า Gross Profit Margin ที่ดีขึ้นนะคะเกิดจากการที่เรามีการบริหารจัดการทั้งทางด้านอ่า Supply Chain ทั้งการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบหรือว่าพยายามควบคุมของเสียนะคะเพื่อให้ให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้นอีกปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มจริงๆ ค่ะว่าเป็นการเพิ่มสัดส่วนการขายของฟิล์มและ Specialty ที่มี GP ที่ค่อนข้างสูงนะคะ แล้วเราก็พยายามบริหารจัดการไม่แค่ฟิล์ม Specialty อย่างเดียวเราพยายามบริหารจัดการต้นทุนของอ่า วัตถุดิบหรือว่าต้นทุนของทุกๆ ผลิตภัณฑ์นะคะเพื่อให้ตอบสนองต่อ อ่า ต้นทุนที่เราอยากได้นะคะแล้วก็เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นค่ะ

ข้อถัดไปนะครับ สาเหตุเอ่อ สาเหตุที่บริษัทจ่ายปันผลเป็นหุ้นทั้งที่มีเงินสดจากการ IPO ค่อนข้างเยอะเป็นเพราะเหตุใด แล้วจะนำเงินสดที่เหลือไปใช้สำหรับการ ตรวจหนี้หรือการขยายกำลังผลิตหรือไม่ เงินสดสำหรับการ IPO มันมีจุดมุ่งหมายชัดเจนที่เราจะต้องใช้ในตามที่เราเอ่อ filing เอาไว้นะคะว่าต้องใช้ไปในการสนับสนุนเอ่อ เครื่องจักรใหม่ หรือว่าใช้คืนเงินกู้หรืออะไรเรามาเรามาจ่าย ดดน ไม่ได้นะคะ แต่ใช่ค่ะเราตั้งใจว่าจะนำเงินเนี่ยไปพัฒนาแล้วก็ต่อ อ่า เพื่อพัฒนาพัฒนาบริษัทต่อไปค่ะด้วย ให้ ดีขึ้นนะคะ แพร่ นา เอ่อ เครื่องจักรใหม่ค่ะ

ครับคำถามต่อไป New Capacity ที่เข้ามาใน Q2 ปีนี้มีออเดอร์เริ่มผลิตแล้วหรือยังนะครับ ตอนนี้ขอตอบ ผมขอตอบเลยละกันนะครับ เครื่องกำลังอยู่ในช่วง อ่า Commissioning นะครับ ทางเครื่องในทดลองทดสอบผลิตบางส่วนใน Q1 แล้วคาดว่า Q2 เนี่ยครับก็คือเรา เราเริ่มรันกันเต็มที่แล้วครับ ก็เดี๋ยวจะเห็นอ่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นมาใน Q2 นะครับ

Utilize Rate ของ Q1 อยู่เท่าไหร่นะครับ อ่า ตอนนี้เนี่ย Utilization ของเครื่อง Quarter เรานะครับ อยู่ที่ประมาณเดิมอยู่ประมาณ 60% นะครับ แล้วก็ตอนนี้เนี่ยเราเริ่มมีการ อ่า Commissioning อ่า ที่เครื่องใหม่แล้วนะครับ ของเราเนี่ยของเครื่องใหม่ตอนเนี้ยอยู่ระหว่างประมาณ 15% อาจคาดว่าจะเพิ่มขึ้นใน Q2 เนี่ย เอ่อ มาเท่าตัวครับ

คราวนี้ น่าจะคำถามน่าจะหมด แค่นี้แล้วนะครับ นะครับ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมและรับฟังวันนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณนะครับค่ะสวัสดีค่ะ สวัสดีครับ

สรุปโดยรวม บริษัท PMC มีการเติบโตที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต แม้ว่าตลาดส่งออกจะยังมีความท้าทาย แต่บริษัทสามารถเติบโตได้ดีในตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Specialty และมีแผนการใช้เงินทุนจากการ IPO ที่ชัดเจนเพื่อพัฒนาบริษัทต่อไปในอนาคต

*** **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้นที่ นาทีที่ 53.35** **1. ความกังวลและแผนรับมือใน 1-3 ปีข้างหน้า** * **คำถาม:** บริษัทมีความกังวลอะไรบ้างในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า และมีแผนรับมืออย่างไร * **คำตอบ:** บริษัทกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั่วโลก เช่น Trade War และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก บริษัทมีแผนรับมือโดยสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคง บริหารจัดการต้นทุนการผลิต บริหารสินค้าคงคลัง และมี Supply Chain ที่แข็งแกร่ง รวมถึงการมี Strategy Partner และ Sourcing จากแหล่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง **2. สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมากที่สุด** * **คำถาม:** บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด * **คำตอบ:** บริษัทมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาสินค้าและกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน รวมถึงการเสริมสร้าง Customer Experience โดยการให้บริการหลังการขาย ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และช่วยลูกค้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการแก้ไขปัญหา **3. แผนการใช้เงิน IPO** * **คำถาม:** แผนการใช้เงิน IPO ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ * **คำตอบ:** แผนการใช้เงิน IPO ยังคงเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่บริษัทได้วางไว้ โดยจะใช้ในการสนับสนุนเครื่องจักรใหม่ ใช้คืนเงินกู้ และพัฒนาบริษัทต่อไป **4. สาเหตุที่ GPM ดีขึ้น** * **คำถาม:** สาเหตุที่ Gross Profit Margin (GPM) ดีขึ้นเป็นเพราะเหตุใด เกี่ยวกับการขยาย Specialty Film หรือไม่ * **คำตอบ:** GPM ที่ดีขึ้นเกิดจากการบริหารจัดการ Supply Chain การควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ การควบคุมของเสีย และการเพิ่มสัดส่วนการขายของ Film และ Specialty ที่มี GP สูง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนของทุกผลิตภัณฑ์ **5. เหตุผลในการจ่ายปันผลเป็นหุ้น** * **คำถาม:** เหตุใดบริษัทจึงจ่ายปันผลเป็นหุ้น ทั้งที่มีเงินสดจากการ IPO ค่อนข้างมาก * **คำตอบ:** เงินสดจากการ IPO มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนในการนำไปใช้สนับสนุนเครื่องจักรใหม่ ใช้คืนเงินกู้ และพัฒนาบริษัท ไม่สามารถนำมาจ่ายปันผลได้ **6. ความคืบหน้าของ New Capacity ใน Q2** * **คำถาม:** New Capacity ที่เข้ามาใน Q2 ปีนี้ มีออเดอร์เริ่มผลิตแล้วหรือยัง * **คำตอบ:** เครื่องจักรใหม่กำลังอยู่ในช่วง Commissioning และได้ทดลองผลิตบางส่วนใน Q1 คาดว่าจะเริ่มรันกันเต็มที่ใน Q2 และจะเห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น **7. อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ใน Q1** * **คำถาม:** อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ของ Q1 อยู่ที่เท่าไหร่ * **คำตอบ:** อัตราการใช้กำลังการผลิตของเครื่อง Quarter เดิมอยู่ที่ประมาณ 60% และเครื่องใหม่ที่กำลัง Commissioning อยู่ที่ประมาณ 15% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน Q2 **ชื่อหัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบ:** * **ความกังวลและแผนรับมือ** * **สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ** * **แผนการใช้เงิน IPO** * **สาเหตุที่ GPM ดีขึ้น** * **เหตุผลในการจ่ายปันผลเป็นหุ้น** * **ความคืบหน้าของ New Capacity** * **อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate)**

โพสต์ล่าสุด