บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

SCAP Update: ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความระมัดระวัง พร้อมรับมือเศรษฐกิจผันผวน ปี 2568

P/E 8.41 YIELD 0.21 ราคา 1.06 (0.00%)

SCAP Update: ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความระมัดระวัง พร้อมรับมือเศรษฐกิจผันผวน ปี 2568

สวัสดีค่ะ ขอบพระคุณนักลงทุนทุกท่านที่สละเวลามาอัปเดตข้อมูลของกลุ่ม SCAP ในวันนี้

Vision ของกลุ่ม SCAP ยังคงเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันอาจอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก ซึ่งสอดคล้องกับ Strategy และ Vision ของบริษัทที่เน้นการเติบโตแบบยั่งยืนเป็นหลัก

กลุ่ม SCAP หรือบริษัท SCAP ได้เริ่มก่อตั้งตั้งแต่ปี 2512 และมีการปรับโครงสร้างเรื่อยมา แต่โครงสร้างหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับ SCAP เริ่มขึ้นในปี 2565 โดย BFit เดิมได้มาถือหุ้น 100% ในกลุ่ม SCAP และเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจ โดยมีการดำเนินธุรกิจหลักคือการให้สินเชื่อรายย่อย

การให้สินเชื่อรายย่อยของกลุ่ม SCAP มี 2 ประเภท:

1. การให้สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน ซึ่งในส่วนนี้ทำตาม License ของธนาคารแห่งประเทศไทย
2. การเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นพอร์ตหลักของกลุ่ม SCAP

พอร์ตเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ของกลุ่ม SCAP ทำผ่าน Dealer ต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์อยู่ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่ม SCAP ในปัจจุบัน โดยพอร์ตเช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่อยู่ที่ประมาณ 70% ของพอร์ต

โครงสร้างของกลุ่มบริษัท: SCAP เป็น Holding Company มีบริษัทลูก 3 แห่งคือ:

1. S Leasing
2. Carates Leasing
3. ศรีสวัสดิ์รุ่งเรืองไฟแนนซ์ ที่อยู่ในประเทศกัมพูชา

ศรีสวัสดิ์ Capital เวลาจัดพอร์ต S Leasing และ Carates Leasing จะจัดพอร์ตแบบเดียวกันคือทำธุรกิจแบบเดียวกัน ให้เช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่ โดยทั้งสองบริษัทจะมีพนักงานไปนั่งดูแลบริการลูกค้าอยู่ตาม Dealer ทั่วประเทศ (Dealer ขายรถมอเตอร์ไซค์) ส่วนการให้สินเชื่อแบบบุคคลจะอยู่ที่ศรีสวัสดิ์ Capital ซึ่งได้รับ License จากธนาคารแห่งประเทศไทย

ทางด้านขวามือสุดจะเป็นศรีสวัสดิ์รุ่งเรืองไฟแนนซ์ ซึ่งเป็น Unit เล็กๆ ของกลุ่มบริษัท ประกอบกิจการอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยพอร์ตเช่าซื้อจะเน้นความระมัดระวังเป็นพิเศษในขณะที่เศรษฐกิจภาค Macro ของทั้งโลกมีความผันผวน

การทำงานของกลุ่ม SCAP เน้นการกระจายความเสี่ยง มี Sales ประมาณ 1,500 คนนั่งดูแลบริการลูกค้าอยู่ที่ Dealer ประมาณ 4,500 แห่ง ที่มีความสัมพันธ์ด้วย Sales 1,500 คน จะมีทีม Support เพื่อให้บริการลูกค้า ให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจที่สุดในความเสี่ยงที่กลุ่มบริษัทได้วางไว้

นอกจากการดูแลบริการลูกค้าแล้ว บริษัทเน้นนำเทคโนโลยีมาใช้ด้วย พยายามเป็น Paperless เน้นการจัดส่งเอกสารต่างๆ ของลูกค้าผ่านทาง SMS มีการนำระบบต่างๆ มาใช้ดูแลลูกค้าและควบคุมความเสี่ยง มี e-KYC ซึ่งจะดึงข้อมูลโดยตรงจาก Dopa และมีการตรวจสอบ NCB หรือประวัติทางการเงินของลูกค้า

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

Condition หลักๆ ของกลุ่มบริษัทจะให้สินเชื่อแก่กลุ่มที่มีรายได้ประจำค่อนข้างมั่นคง 30,000 บาทขึ้นไป (พนักงานบริษัท, คนที่มีรายได้ประจำ) ดอกเบี้ยที่คิดจะอยู่ที่สูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี ให้บริการได้ทั่วประเทศ Term ในการชำระจะอยู่ที่ 12-60 เดือน

ผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่ม SCAP คือเช่าซื้อจักรยานยนต์ใหม่ โดยจะให้บริการกับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ 10,000 บาทขึ้นไป Term ให้บริการจะอยู่ช่วง 12-60 เดือน แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่ช่วง 24-36 เดือน

กลุ่ม SCAP ได้รับการจัด Rating จาก Fitch Ratings ให้เป็นระดับ A- โดยมีแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable) และได้รับการรับ ESG จากตลาดหลักทรัพย์ด้วย

รายได้ดอกเบี้ยและรายได้อื่นๆ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาท ลดลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว หลักๆ คือผลกระทบจากการที่ สคบ. คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อ

พอร์ตที่ปล่อยใหม่เป็นไปตามที่ สคบ. กำหนด อัตราดอกเบี้ยอาจจะลดต่ำลงมา ประกอบกับพอร์ตที่ปล่อยดอกเบี้ยสูงในก่อนหน้านี้ทยอยครบกำหนดอายุสัญญา ทำให้รายได้ลดลง

กำไร (Bottom Line) เพิ่มจากไตรมาส 1 ปีที่แล้ว 75% ไตรมาส 1 ปี 2567 มีกำไร 100 ล้านบาท แต่ไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไร 178 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นประมาณ 75%) สาเหตุหลักๆ คือสามารถคุมดอกเบี้ยจ่ายได้ดีขึ้น และคาดว่าหลังจากได้รับ Rating A- จะบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินได้ดีขึ้น

โดยปกติหลังจากที่ได้รับ Rating A- ต้นทุนทางการเงินจะต่ำลงประมาณ 90 Basis Point ซึ่งบริษัทจะค่อยๆ บริหารจัดการต้นทุนทางการเงินให้ต่ำลง สอดคล้องกับ Rating ที่ได้ดีขึ้น

Loss on Sales ค่อยๆ ปรับตัวลดลง มีสาเหตุมาจาก 2 อย่าง:

1. ราคาตลาดรถมือสองไม่ได้ลดต่ำลงแล้ว ค่อนข้างคงที่หรือปรับตัวดีขึ้น (ช่วงก่อนหน้านี้ Supply รถมือสองค่อนข้างเยอะ แต่ปัจจุบันค่อนข้างคงตัว)
2. บริษัทเข้มงวด Policy ในการให้อนุมัติสินเชื่อมาตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งเริ่มส่งผลให้เห็นกับคุณภาพของพอร์ตแล้ว

Portfolio Mix ของกลุ่ม SCAP:

1. 90% เป็นเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่
2. 10% เป็น Personal Loan หรือสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน (ยึดการตรวจ NCB เป็นไปตามกฎที่ ธปท. กำหนด)

Personal Loan มีพอร์ตอยู่ประมาณ 2,800 ล้านบาท เช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่มีพอร์ตอยู่ที่ประมาณ 26,000 ล้านบาท รวมพอร์ตลูกหนี้ทั้งสิ้นอยู่ที่เกือบๆ 30,000 ล้านบาท (29,000 ล้านบาท)

ภาพเศรษฐกิจ Macro ไม่ดี บริษัทเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น อาจจะส่งผลโดยรวมต่อ งบการเงิน โดยเฉพาะพอร์ตลูกหนี้ ลดลงประมาณ 5.7% เทียบกับ Quarter ที่ 4

อย่างไรก็ตาม ROA ของกลุ่มบริษัทค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ROE ก็เพิ่มขึ้น ในช่วงไตรมาส 4 เทียบกับไตรมาส 1 เป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้น หลักๆ มาจากการปรับปรุงนโยบายการให้สินเชื่อให้เข้มงวดมากขึ้น

ดูเหมือนว่า Rate NPL Percentage จะเพิ่มสูงขึ้น แต่จริงๆ แล้วถ้าไปดูในตัว Absolute บริหารจัดการให้ค่อนข้างคงที่ แต่เนื่องจากเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น Portfolio ของกลุ่มบริษัทเลยลดลง พอตัวหารลดลง Percentage เลยดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น แต่คุณภาพหนี้ของกลุ่มบริษัทค่อนข้างดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จำนวนสัญญา (Unit) ที่ปล่อยออกไปในไตรมาส 1 เทียบกับไตรมาส 4 ที่ผ่านมาแทบไม่ต่างกัน แต่พอร์ตลูกหนี้ที่ลดลงเกิดจากปริมาณ Ticket Size (จำนวนเงินต่อ Ticket Size) ที่เข้มงวดมากขึ้น ปัจจุบัน Ticket Size เทียบกับปี 2567 ช่วงเวลาเดียวกัน เข้มงวดมาถึง 20-40% อาจจะเกิดจากการขอให้ลูกค้าวาง Down เพื่อลดความเสี่ยงของ Portfolio

จำนวน Unit แทบไม่ต่างกัน เป็นไปตามทิศทางที่บริษัท Confirm ว่าเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เป็นอันดับ 1 ในการปล่อย Market Share เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในประเทศไทย

ในช่วงนี้แม้ว่าภาพเศรษฐกิจ Macro จะไม่ค่อยดี บริษัทเลยเลือกที่จะโตแบบมีคุณภาพ เข้มงวดในนโยบายการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น คุณภาพของลูกหนี้ Stage 1 ทั้งพอร์ตอยู่ที่ประมาณเกือบๆ 89-90% Stage 3 หรือ NPL อยู่ที่ 4.24% บริษัทมั่นใจว่ากลุ่มบริษัทสามารถบริหารจัดการหนี้เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 34.47]

บริษัทมีความกังวลเรื่องใดในช่วง 1-3 ปีนี้ และรับมืออย่างไร? ในช่วง 1-3 ปีนี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจค่อนข้างเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภายนอก คือผลพวงที่เกิดขึ้นจาก ยุทธการภาษีของทางอเมริกา รวมถึงมีหลายๆ เรื่องเกิดขึ้น บริษัทจะจับตามองเป็นพิเศษใน เศรษฐกิจภาพ Macro นโยบายการให้สินเชื่อจะเข้มงวดมากขึ้นอีก เริ่มเข้มงวดมา 2-3 ปีแล้ว ซึ่งจะค่อยๆ แสดงออกมาให้เห็นในงบการเงิน

บริษัทให้ความสำคัญเรื่องใดเป็นอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจ? ให้ความสำคัญกับคุณภาพของ Portfolio เป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจเปราะบาง Key Performance ที่บริษัทใช้วัดในการทำงานจะยังเป็น Return ให้กับผู้ถือหุ้น (ROE) อันนี้จะเป็น Key หลัก โดยแต่ละปีจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและ Stakeholder เป็นสำคัญ

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจนเชื่อว่าคุณภาพ ของ พอร์ตสินเชื่อที่ปล่อยไปอยู่ใน Rate ที่บริษัทต้องการได้ Manage NPL ได้ Manage Loss ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือจำนวนสัญญาไม่ได้ลดลง แต่สิ่งที่ลดลงคือ Ticket Size คุณภาพลูกหนี้ของบริษัทจะ ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยจะพยายาม Maintain เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมาลดพอร์ตลงมาระดับนึงแล้ว เริ่มอยู่ในพอร์ตที่จะพยายาม Maintain ทั้งการเติบโต ให้คงอยู่ในระดับนี้ ระดับ อัตราส่วนการทำกำไรต่างๆ ROE, ROA และ Net Profit Bottom Line รวมถึง NPL ซึ่งเชื่อว่าจากคุณภาพ สินเชื่อจากการเข้มงวดของสินเชื่อที่ผ่านมา มันจะทำให้ NPL ค่อยๆ ลดลง

NPL ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและเกิน 4% จากที่ตั้งเป้าไว้ อยากทราบสาเหตุ? ตัว Absolute Maintain เพิ่มขึ้นลดลงนิดหน่อย สิ่งที่เกิดขึ้นคือตัวพอร์ตของเราที่ลดลงเนื่องจากเข้มงวดคุณภาพ เข้มงวดนโยบายการให้สินเชื่อมากขึ้น

การเติบโตของพอร์ตที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง มีโอกาสทั้งปีที่พอร์ตจะคงที่ไหม หรือมองการขยายตัวเป็นอย่างไร? มั่นใจในการบริหารความเสี่ยงอย่างมาก ปัจจุบัน สิ่ง Key ที่บริษัทจะดำเนินการต่อไปคือ พยายามแสวง หาการเจริญเติบโต อาจจะปล่อยสินเชื่อมากขึ้น Maintain พอร์ตลูกหนี้ให้อยู่ในระดับนี้ ด้วยคุณภาพหนี้ที่อยู่ในระดับนี้

บริษัทชะลอการปล่อยสินเชื่อจากปัญหาสภาพคล่องหรือไม่ หรือเป็นการควบคุมคุณภาพหนี้? พอร์ตสินเชื่อที่ลดลงเกิดจากการที่บริษัทควบคุมคุณภาพหนี้ให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจ Macro สภาพคล่องของบริษัทดีมาก มีเงินสดอยู่ที่ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และเพิ่งได้รับการปรับ Rating เป็น A- จาก Fitch เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลย

ผู้ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อบางรายมีปัญหาโดนโกง บริษัทพบเจอปัญหานี้หรือไม่? การปล่อยสินเชื่อเป็นเรื่องปกติที่จะมีเรื่อง Fraud มีการ Monitor เอา ระบบเข้ามา ไม่ได้เป็นปัญหาหลักของบริษัท แต่เป็นปัญหาปกติที่ บุคคล ธุรกิจปล่อยสินเชื่อจะมี อยู่ใน Rate ปกติเช่นเดียวกับ กับผู้เล่นอื่น ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาระบบหรือการควบคุมดูแล เพื่อจะลดปัญหานี้

คิดว่า Yield จะปรับลดลงต่อเนื่องหรือไม่ และจะ Normalize อยู่ที่เท่าไหร่? Yield ของบริษัท 2-3 ปีที่ผ่านมาลดลงเนื่องจาก เป็นไปตามกฎระเบียบใหม่ของ สคบ. ได้ตัด ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่า Commission ที่จ่ายให้กับ Dealer เห็นได้ว่า Yield ค่อนข้างคงตัว แต่ ปัจจัยใหม่ซึ่งเป็นปัจจัยบวกเข้ามาคือเพิ่งได้รับการปรับ Rating ใหม่ เชื่อว่าต้นทุนทางการเงินน่าจะถูกลงอย่างน้อยก็ประมาณ 80-90 Basis Point

Loan to Value เงิน Down ของบริษัทอยู่ที่เท่าไหร่? ปัจจุบันมีนโยบายให้ลูกค้า วาง Down ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เช่าซื้อมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ประมาณ 10-30% แล้วแต่คุณภาพของลูกค้า ซึ่ง มองว่าจะช่วยให้เห็นคุณภาพสินทรัพย์ ดีขึ้นประมาณ Loss on Sales ค่อยๆ ทยอยลดลงเรื่อยๆ จะค่อยๆ ส่งผล พอร์ตเฉลี่ย Loan to Value อยู่ที่ช่วง 80%

ปัจจุบันขาดทุนจากการขายรถยึดเป็นอย่างไร? ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา Loss on Sales น่าจะอยู่ น่าจะต่ำลงมากกว่าไตรมาส 4 อีก น่าจะอยู่ช่วง 200 กว่าล้านบาท ยังไม่ได้เป็น เป็น Rate ปกติที่บริษัทพึงพอใจ ยังไม่ได้ Normalize เชื่อว่านโยบาย ความเข้มงวดที่ปล่อยสินเชื่อออกไปจะทำให้ส่วน Loss on Sales ค่อยๆ ลดลงอีก

ราคารถมือสองปีนี้เป็นอย่างไร? มองเห็นแล้ว คาดว่าน่าจะเริ่มทรงตัวแล้ว Supply รถมือสองในตลาดค่อยๆ ลดลง สินเชื่อ การ การขาย สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี คนเริ่มกลับมามองหา ยานพาหนะที่ ราคา ลดลง คือรถมือสองเป็น Target มากขึ้น ทำให้ราคาไม่ลดลง

ปัจจุบัน Cost to Income Ratio ของกลุ่มนี้เป็นเท่าไหร่? ปัจจุบันนี้ยังสูงไปนิดนึง มีแผนว่าจะค่อยๆ ทยอยปรับลดลงมา ให้ได้อยู่สักประมาณ Rate เดียวกับบริษัทแม่ คือประมาณอยากได้สัก 50% อันนี้เป็น Key Target

ค่า Commission ยังลดลงได้อยู่อีกหรือไม่? เป็น Key แรกที่พยายามบริหารจัดการอยู่ พยายามให้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง มันลดลง

ในช่วงการปีที่แล้วจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Top Up มากขึ้น ปัจจุบันยังใช้เป็นกลยุทธ์อยู่หรือไม่? ยังเป็นกลยุทธ์อยู่ จะ พยายามถามลูกค้าที่ ที่ปิดสัญญาไปแล้ว ที่ผ่อนชำระครบถ้วนแล้วว่ามีความต้องการใช้สินเชื่ออีกหรือไม่ เฉพาะลูกค้าที่มีประวัติดี

การติดตามหนี้ช่วงไตรมาส 1 เป็นอย่างไร และก็มองไตรมาส 2 เป็นอย่างไร? พฤติกรรมของ ลูกค้า เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ คุณภาพหนี้ของลูกค้าก็เลยค่อยๆ ดีเรื่อยๆ ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ลูกค้าก็ยังชำระอยู่ใน Rate ปกติตาม เป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ ไตรมาส 2 เท่าที่มาจนถึง Q to Date ยังเห็นว่ามันเป็นไปตามปกติอยู่เรื่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ Monitor ให้ใกล้ชิด ปัจจุบันนี้ก็ยังพบว่ามันเป็นเด็กที่ค่อนข้างปกติ

สภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีนัก หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง บริษัทมีมุมมองอย่างไร? เห็นด้วยว่าภาพ Macro ของเศรษฐกิจในประเทศไทยและเศรษฐกิจโลก กำลังอยู่ในช่วงยากลำบาก เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ลด Loan to Value มาด้วยเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ต มั่นใจใน Credit Policies ใหม่ที่ค่อยๆ ปรับ แล้วก็ เข้มงวดมากขึ้น เป็น ตั้งแต่ ตั้งแต่ สคบ. ลด Rate เป็นต้นมา

บริษัทแจ้งว่ามีการใช้ NCB ในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ปัจจุบัน ลูกค้าที่เข้ามาขอคุณภาพเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่? ลูกค้าติด NCB มากขึ้น เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ อาจจะมีประวัติการชำระเงินที่ไม่ค่อยสวยผ่าน NCB สิ่งที่บริษัทได้ทำ การเพื่อลดความเสี่ยงนั้นก็คือ ขอให้ลูกค้าวาง วางเงิน Down ถ้าต้องการใช้บริการ ทางการเงินของกลุ่ม SCAP เพื่อชดเชยความเสี่ยง

การลงทุนใหม่ที่กัมพูชาเป็นอย่างไร? ตลาดยังเล็กอยู่มาก อาจจะเป็น ไปในทางที่เรียนรู้ตลาดไปก่อน

ปัจจุบันการปิดเล่มผ่อนหมด ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่? เป็นไปตาม Rate ปกติ ลูกค้าที่ผ่อน โดยปกติ ลูกค้าที่ผ่อนมาเกิน 12 เดือน ส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะผ่อนได้หมดตลอดทั้งสัญญา

ค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ 32.97% หลักๆ เลย มันลดลง จากส่วนไหน? หลักๆ เลยมันก็คงลดลงจาก Loss on Sales ซึ่ง ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่บริษัทได้ปรับ ปรับ Credit Policies

ถามมุมมองเกี่ยวกับ ROA ROE ว่าจะสามารถปรับขึ้นได้อีกหรือไม่? พยายาม ปรับ กระบวนการทำงานเพื่อให้ ROE กับ ROA ปรับตัวเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

Total พอร์ตจะปรับเติบโตจากปีที่แล้วไหมคะ? ด้วยพอร์ตแถวนี้ ทำให้บริษัทบริหารงานได้มีประสิทธิภาพ คิดว่าจะ Maintain ให้พอร์ตทรงตัวอยู่แถวนี้

มองทิศทางตลาดเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ระยะสั้นและระยะยาว 2-3 ปีข้างหน้าเป็นไปในทิศทางใด? หลังจากที่ สคบ. เข้ามาคุม ดอกเบี้ยมากขึ้น การแข่งขันในกลุ่มธุรกิจ เช่าซื้อค่อย ลดลง ไม่ได้แข่งขันกันหนักเท่าแต่ก่อนแล้ว ผู้เล่นทุกคนที่เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ เน้นระมัดระวัง และก็ Focus คุณภาพ พอร์ตเป็นพิเศษ แล้วก็มีหลายคนได้ออกจาก Industry ไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือการแข่งขัน น้อยลง ตัว ผู้เล่นทุกคนก็เน้นมุ่งเน้นคุณภาพสินเชื่อมากขึ้น คิดว่าอันนี้เป็นปัจจัยบวก หลังจากที่ สคบ. เข้ามาคุมดอกเบี้ย ก็จะทำให้คุณภาพสินเชื่อค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆ หลังๆ เชื่อว่าผู้เล่น จะมีแต่ รายใหญ่เท่านั้น ที่อยู่ได้

เศรษฐกิจชะลอตัวลง ขอทราบเป้าหมายของปี 2568 ครับ? ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จะพยายาม Maintain พอร์ต ในคำว่า Maintain ก็คือดูแลความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อมาสักระยะนึงแล้ว ถ้าดูจากตัวเลข การปล่อย ตัวเลขสัญญาไม่ได้ลดลง แต่ไอ้ที่ลดลง มันคือต่อ Ticket Size ซึ่งจะเป็นสอดคล้องกับที่บริษัทได้ชี้แจงไปว่าลด Loan to Value ของพอร์ต

NPL ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและเกิน 4% จากที่ตั้งเป้าไว้ อยากทราบสาเหตุ? ขอให้ดู Absolute Number ประกอบด้วยว่าตัว Stage 3 ของเราเนี่ยไม่ได้เพิ่มขึ้นค่ะแต่อย่างไรก็ดีเนี่ยมันเกิดจากพอร์ตสินเชื่อทั้งทั้งบริษัทเนี่ยมันหดตัวสาเหตุที่มันหดตัวก็เนื่องจากเราท้ายเครดิต Policy มากขึ้นต่อต Ticket Size ปล่อยน้อยลง 20-40% นะคะในส่วนนี้ค่ะก็เลยคิดว่า พีคช่วงไหนเราเชื่อว่าแถวๆนี้นะคะน่าจะเป็นจุดพีคแล้วค่ะ

NPL Formation เริ่มกลับมาสูงตามสภาพเศรษฐกิจที่ดูซบเซามากขึ้นไหมคะ? NPL Formation ตัวเลขบางส่วนอ่ะค่ะมันมาจาก มันเอาไปเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์จากพอร์ตแล้วก็รายได้ค่ะ อยากให้นักลงทุนมองอีกแง่นึงว่าเราพยายามควบคุมคุณภาพสินเชื่อนะคะ หลังจาก ตัวเลข NPL Formation เนี่ยน่าจะกลับมาดูปกติหลังจากที่บริษัทเนี่ย Maintain พอร์ตซึ่ง ก็จะชี้แจงว่าบริษัทเนี่ยพยายาม Maintain พอร์ตโดย Maintain คุณภาพสินเชื่อและ Maintain ความเข้มงวดของการให้สินเชื่อด้วยนะคะ

การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อที่ชะลอตัวลงทั้งปีมีโอกาสที่พอร์ตคงที่ไหม? ตอนนี้เราจะเรียนนักลงทุนว่าเรา เรายึดนโยบาย Maintain พอร์ตโดย Maintain คุณภาพสินเชื่อแล้วก็ Maintain ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อระดับนี้ด้วยนะคะ

บริษัทไม่ได้มีสภาพคล่อง ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่องนะคะ ขอตั้งข้อสังเกตว่าเงินสดปลายไตรมาส 1 เนี่ยค่ะอยู่ที่ 2,000 กว่าล้านบาทนะคะในส่วนนี้ไม่อยากให้นักลงทุนกังวลค่ะ Ticket Size ทรงลง ลดลงแล้วกี่เปอร์เซ็นต์นะคะถ้าเทียบกับปีที่แล้วหรือปีก่อนๆหน้านี้ Ticket Size มันลดลงไปแล้วประมาณ 20% กว่าๆนะคะ ในส่วนเนี้ยจะปรับตัวลดลงอีกหรือไม่ก็คิดว่าแถวเนี้ยค่ะเราจะ Maintain แล้วค่ะ เพราะเราเชื่อว่าแถว Ticket Size แถวเนี้ยมันสามารถทำให้เราควบคุมคุณภาพนี้ได้ค่ะ Loan to Value และเงิน Down ในปัจจุบันนะคะจริงๆ Loan to Value เนี่ยทั้งพอร์ตเนี่ยเฉลี่ยก็อยู่ประมาณ 80% ค่ะเงิน Down เนี่ยหลากหลายนะคะตั้งแต่ 10%-50% แล้วแต่คุณภาพของลูกค้าค่ะ

ไตรมาส 2 68 จะมีการตัดหนี้ศูนย์อีกไหม? พยายามดูแลให้งบดุลค่อนข้างมีสุขภาพที่ดี เรา เรากำลังดูอยู่ ถามว่ามีโอกาส Right off อีกไหม ก็มีโอกาส Right off ค่ะ แต่อาจจะเป็นโอกาสเป็น ผล ไลฟ์ ออฟ เนี่ยต้องขอดูอีกทีว่าเป็นยังไงแต่บริษัทเชื่อว่าไตรมาส 1 เนี่ยบริษัทได้ไลฟ์ออฟไปเกือบหมดแล้วอ่ะนะคะแต่ว่าอย่างไรก็ดีเนี่ยค่ะเราเชื่อว่าไตรมาส 2 เนี่ยน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นค่ะ

ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดตัวลงแล้วทำไม Stage 3 ลูกหนี้ไม่ลดลงเลย? พยายามบริหารจัดการด้วย ลูกหนี้ใน Stage 3 ของเราเนี่ยเราก็พยายามลูกค้าเราที่ยังอยู่ใน Stage 3 เนี่ยก็ทยอยผ่อนชำระอาจจะช้าบ้างเร็วบ้างอันนี้ก็ตามสภาพเศรษฐกิจค่ะ แต่ว่าลูกหนี้ที่ บริษัทคิดว่าไม่ไม่ไม่ไม่สามารถผ่อนชำระได้แล้วเนี่ยค่ะเพื่อความ conservative เนี่ยบริษัทก็จะไลฟ์ออฟออกจากงบดุล Balance ชีทของเราไปนะคะ

คาดการณ์ว่าไตรมาสถัดไปเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้จะเพิ่มขึ้นได้ไหมครับ ทรงตัวหรือลดลง? จะพยายาม Maintain นะคะเพราะว่าคุณภาพหนี้ของเราเนี่ยได้ได้ ได้ ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่เราต้องการแล้วค่ะ สินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าดีเป็นอย่างไรบ้างเริ่มดีขึ้นมากนะคะบริษัทก็พยายามมองหาผลิตภัณฑ์อื่นๆมาเสริมค่ะ

มีเป้า Coverge Ratio ไหมครับ 59% ดูน้อยไปไหม? พยายาม Maintain ใน อยู่ที่ประมาณช่วง 60 หรือ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์นะคะในส่วนนี้คิดว่าหลังจากที่เราปรับนโยบายการให้สินเชื่อแล้วเนี่ยก็ไม่น่าเป็นกังวลอย่างใดนะคะเราคิดว่าแถวเนี้ยพอเพียงแล้วค่ะ

คำถามที่ทางบ้านถามมาก็หมดแล้ว แต่ว่าถ้านักลงทุนยังมี คำถามเพิ่มเติมก็อีเมลมาถามที่ IR ของเราได้นะเดี๋ยวเราจะตัดส่งคำตอบไปหรือโทรติดต่อกลับไปค่ะ ก็ขอบพระคุณนักลงทุนทุกท่านที่สละเวลามาฟังในวันนี้นะคะขอบพระคุณค่ะ

**สรุป:** SCAP มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง การควบคุมคุณภาพหนี้ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บริษัทมีเป้าหมายที่จะ Maintain พอร์ตสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมทั้งรักษาอัตราส่วนทางการเงินที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น