บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
Moshi Moshi เติบโตต่อเนื่อง Q1/2568 ขยายสาขาและลุยสินค้าลิขสิทธิ์
P/E 24.24 YIELD 1.98 ราคา 40.50 (0.00%)
Moshi Moshi เติบโตต่อเนื่อง Q1/2568 ขยายสาขาและลุยสินค้าลิขสิทธิ์
Moshi Moshi นำเสนอภาพรวมของบริษัทที่มุ่งเน้นการนำเสนอความสุขผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและการออกแบบที่สวยงาม โดยมี Mission ในการดูแลเรื่อง Lifestyle Product Quality ในราคาที่จับต้องได้ และดูแลเรื่องความยั่งยืนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วน
ณ สิ้นงวดไตรมาสที่ 1 ปี 2568 Moshi Moshi มีสาขารวม 165 สาขา แบ่งเป็น
- สาขาร้าน Moshi 165 สาขา
- Kalik 3 สาขา
- The Giant 1 สาขา
- The OK Station 1 สาขา
ในส่วนของ Product Category Moshi Moshi นำเสนอสินค้าผ่าน 13 ประเภทหลัก ได้แก่
- Home Furnishing
- Stationery
- Bags
- Plush Toy
- Clothing
- Snack
- Pet Accessory
- Fashion
- Beauty Products
- IT Gadget
- Toys
- สินค้านำเทรนด์ (Others)
ในส่วนของ Store Footprint ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 แบ่งเป็น
- Bangkok Metropolitan 35%
- Upcountry 65% กระจายอยู่ทั่วทั้ง 63 จังหวัดในประเทศไทย
Store Concept มี 2 รูปแบบคือ
- Retail Complex (ห้างสรรพสินค้า, Community Mall)
- Standalone (ใกล้กับมหาวิทยาลัย, Community Area ที่มีประชากรหนาแน่น)
Moshi Moshi ได้รับรางวัล Best Retailing Company จาก Finance Asia ซึ่งเป็น Publisher ที่ทำโพลการสำรวจมามากกว่า 25 ปี
ด้าน Sustainability Moshi Moshi ดำเนินการภายใต้หลัก Six Gifts โดยในไตรมาสที่ 1 โฟกัสที่ Give a Future เป็นโครงการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีที่เป็นบุตรของพนักงาน โดยมีเงื่อนไขให้น้อง ๆ ทำความดีเพื่อสังคมและนำสมุดทำความดีมา Present ให้กับบริษัท
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 มีการเติบโตที่ดี โดยมีรายได้เติบโต 21.3% รายได้จากการดำเนินงาน 839 ล้านบาท ปัจจัยขับเคลื่อนรายได้มาจากการเปิดสาขา 30 สาขา เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และการเติบโตของ Same Store Sale ที่ 7.9% รวมทั้งการเติบโตของยอดขายในทุก Category
ในไตรมาส 1 เปิดสาขาใหม่ 6 สาขา โดยมี 1 สาขาที่เป็น Standalone Size ใหญ่ (XL) นอกห้าง ทำให้มีสาขารวม 170 สาขา ใน 63 จังหวัดทั่วประเทศ
มีการพัฒนาสินค้าในทุกส่วน ทั้งสินค้าลิขสิทธิ์และไม่ลิขสิทธิ์ โดยสินค้าลิขสิทธิ์ที่ออกไปในไตรมาส 1 ได้แก่ หมูเด้ง, Toy Story, Chip and Dale ได้รับการตอบรับที่ดี
สินค้าที่ไม่ใช่ลิขสิทธิ์ จะโฟกัสตรงนี้มากขึ้น พัฒนาตัวการ์ตูนขึ้นมาเอง ทำ Visual Merchandise จัดแสดงสินค้าในภาพที่เป็น Collection คล้ายกับสินค้าลิขสิทธิ์ ได้แก่ น้อง Jukka, Fluffy Monster รวมทั้งตัว Thai Artist คือ Monstie Planet และมีสินค้าตามเทศกาล ได้แก่ วันเด็กและวาเลนไทน์
รายได้ 839 ล้านบาท มาจาก
- 84% รายได้จากค้าปลีก
- 13% รายได้จากค้าส่ง
- 3% รายได้จากช่องทางอื่น (ออนไลน์, JV)
รายได้เติบโต 21.3%, Gross Profit +22.4%, EBITDA +21.9%, กำไรสุทธิ 156 ล้านบาท (+24.4%)
- Gross Profit Margin 55.3%
- Net Profit Margin 18.5%
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
การพัฒนาสินค้าลิขสิทธิ์และไม่ลิขสิทธิ์, การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง, การเติบโตของยอดขายในทุก Category, การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดสินค้า Lifestyle, ความผันผวนของเศรษฐกิจ, พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
การศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง, การพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า, การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ, การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและแตกต่างจากคู่แข่ง
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของ Projected Revenue Growth ไว้ที่ 15-20% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ศักยภาพ 40 สาขาในปีนี้, การปรับปรุงภาพลักษณ์ของร้านและการบริการ, การพัฒนา Product ใหม่ ๆ ทั้งสินค้าลิขสิทธิ์และไม่ลิขสิทธิ์
บริษัทมีการศึกษาหาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจให้ Diversify มากขึ้น โดยโฟกัสในเรื่องของความยั่งยืนในทุกแผนการทำงาน พยายาม Balance ในเรื่องของการเติบโตของธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและการคืนกลับให้สู่สังคม
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้น นาทีที่ 34:36
-
**ผลกระทบจากการแข่งขัน:**
- คำถาม: การเข้ามาของคู่แข่ง (ร้านสีเหลือง) จะส่งผลกระทบต่อการแย่งตลาดลูกค้าหรือไม่ และบริษัทตั้งเป้าหมายขยายสาขาปี 2568 อย่างไร
- คำตอบ: Moshi ศึกษาตลาดและดูความเป็นไปได้ของการเข้ามาของคู่แข่งใหม่อยู่เสมอ โดยมีการศึกษา Products, ความเหมือนความต่าง, ราคา หรือ Target Group ที่ต่างกัน การเข้ามาของคู่แข่งที่ผ่านมา Moshi ไม่ได้รับผลกระทบด้านยอดขาย และบริษัทตั้งเป้าหมายขยายสาขา 40 สาขาในปี 2568
-
**Same Store Sales Growth:**
- คำถาม: อยากทราบ Same Store Sales Growth ในไตรมาสที่ 2 และเดือนพฤษภาคม
- คำตอบ: เดือนเมษายนปิดไปที่ High Teen, พฤษภาคม 2 Weeks ก็อยู่ที่ระดับ High Teen ดังนั้น QTD ก็อยู่ที่ High Teen
-
**แผนการเปิดสาขา:**
- คำถาม: ปีนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่ม 40 สาขา บริษัทมีแผนเปิด Q2, Q3, Q4 อย่างไร และมีแนวโน้มเปิดน้อยหรือมากกว่าที่ Plan หรือไม่
- คำตอบ: ตัวเลข 40 สาขาคือ Best Possibility ที่บริษัททำได้ อาจมีการคลาดเคลื่อนขึ้นอยู่กับการส่งมอบพื้นที่ของ Landlord และ Q4 อาจมีการ Delay บ้าง แต่ตัวเลข 40 คือ Max แล้ว
-
**การขยายสาขาไปต่างประเทศ:**
- คำถาม: ความคืบหน้าของการขยายสาขาไปต่างประเทศเป็นอย่างไร
- คำตอบ: Moshi ยังดำเนินการศึกษาอยู่ และมี Partner ที่คุยกันอยู่ แต่ต้องการความแน่นอนและความมั่นใจในทุก Step หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ
-
**ผลกระทบจากคู่แข่ง Rebrand:**
- คำถาม: จากการที่คู่แข่ง (Miniso) Rebrand โดยต่างชาติเข้ามาทำเอง บริษัทได้ทำการศึกษาหรือไม่ว่าเจ้าใหม่มีสินค้าชนกับ Moshi กี่ % และมองว่าจับกลุ่มลูกค้าเดียวกันหรือไม่
- คำตอบ: Miniso มีการปรับตัวและปรับร้านในต่างประเทศไปแล้ว เห็นความต่างจาก Moshi มากขึ้น โดยโฟกัสในสินค้าลิขสิทธิ์มากขึ้น และเป็นกลุ่มสินค้าที่ราคาสูง Moshi มองว่าสินค้ามีความแตกต่างจาก Moshi มากขึ้น สินค้าลิขสิทธิ์ของ Moshi อยู่ระดับ 10%+- ขณะที่ของ Miniso สินค้า Non-ลิขสิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 10% Moshi อาจมี SKU Overlap กันบ้าง แต่ลูกค้าที่ชื่นชอบอาจมี Character ที่ไม่เหมือนกัน
-
**ผลตอบรับสาขา Standalone เลย:**
- คำถาม: สาขา Standalone ที่จังหวัดเลยมีผลตอบรับเป็นอย่างไร
- คำตอบ: Moshi เพิ่งเปิดสาขา และ Performance เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่อาจต้องขอระยะเวลาอีกสักนิดเพื่อประเมินภาพรวม ตอนเปิดเป็นช่วงปิดเทอม แต่บริเวณนั้นมีโรงเรียนใหญ่ 3 โรงเรียน ตอนนี้โรงเรียนเปิดแล้ว ยอดขายก็ขึ้นมาสูงขึ้นกว่าเดือนที่แล้ว และปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้
-
**การขายหุ้น Big Lot:**
- คำถาม: การขายหุ้น Big Lot มาจากผู้บริหารรายไหน เหตุผลในการขาย และในอนาคตจะมีการขายอีกไหม
- คำตอบ: เป็นกลุ่มครอบครัวที่เป็นผู้บริหารในบริษัท ไม่ใช่ปริมาณที่เยอะ (ประมาณ 1%) มีกองทุนต่างประเทศที่มีความตั้งใจจะถือระยะยาว สนใจจะลงทุนในบริษัท ผู้บริหารมองว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม ผู้บริหารไม่ได้มีแผนในการขาย การขายที่เกิดขึ้นอาจเป็นจังหวะที่ต้องดูว่าผู้ที่สนใจเป็นใครมากกว่า
-
**การปรับเฟอร์นิเจอร์:**
- คำถาม: ตอนนี้ปรับเฟอร์นิเจอร์ไปแล้วกี่สาขา และวางแผนทั้งหมดจะปรับกี่สาขา
- คำตอบ: ปีที่แล้วปรับไป 70 สาขา รวมทั้งสาขาที่เปิดใหม่ปีที่แล้ว 34 สาขา จะถูกวางด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบใหม่ ปีนี้ทำไปแล้วประมาณ 10 กว่าสาขา ตั้งเป้าหมายจะปรับประมาณ 50 สาขา สำหรับสาขาเก่า สาขาใหม่ก็เช่นกัน การปรับเฟอร์นิเจอร์แล้วแต่พื้นที่สาขา อาจจะปรับแค่ 1-2 ตัว หรือถ้าสาขาเล็กอาจจะไม่ได้เอาเฟอร์ใหญ่ ๆ เข้าไปได้เยอะ สาขาใหญ่ก็อาจจะปรับเยอะหน่อย
-
**ผลตอบรับสาขา Standalone ใกล้ ม.:**
- คำถาม: ทาง Stand Alone ที่เปิดแรก ๆ เช่น แม่ฟ้าหลวง ครบปีแล้วโดยรวมน่าพอใจหรือไม่น่าพอใจอย่างไรบ้างคะ
- คำตอบ: ในภาพรวมสาขา Stand Alone ที่เปิดใกล้ ม. ทั้งหมดถือว่าน่าพอใจ บางสาขาอาจจะไม่ได้เป็นยอดขายที่มากมาย แต่ก็เป็นไปตามที่เราคาด เพราะไม่ได้เลือกเปิดสาขาที่เป็น A ทั้งหมด สาขาแม่ฟ้าหลวงถือว่าทำตัวเลขได้เป็นที่น่าพอใจในระดับ Traffic หรือการลงทุนรวมทั้งค่าเช่าที่เราได้รับ ก็คือถือว่าผลประกอบการอยู่ใช้ได้และเรายังทำให้เรายังมีแผนสาขา ขยายสาขาที่เป็นStand Alone ใกล้ มหาวิทยาลัยต่อไปนะคะ ส่วนยอดขายอ่ะค่ะส่วนใหญ่เนี่ย แพทเทิร์นมันจะ ไม่ต่างกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นสาขาไหนนะคะก็คือว่าเปิดมาช่วงแรกอาจจะเป็น period แล้วก็หลังจากนั้นไปเขาจะ จะขึ้นลงไปตามseasonality ของบริษัท seasonality ของธุรกิจนะคะแล้วก็ แต่ถ้าเกิดเป็นเป็นstand Alone ใกล้ มหาวิทยาลัยก็จะมีอีก character นึงก็คือว่าอาจจะเป็นไปตาม seasonal ของการ เปิดปิดเทอมด้วยอ่ะค่ะ แต่ว่าเมื่อเรา incorporate ในส่วนของการปิดเทอมมาแล้วที่ Traffic จะหายไป เมื่อเทรดกับค่าเช่าที่ ที่ ที่ ถือว่าย่อมเยาว์กว่าค่าเช่าในห้างเนี่ยค่ะทำให้ในภาพรวมแล้วก็มองว่าสาขาstand Alone ขนาดเล็กอ่ะค่ะก็เราถือว่าผลประกอบการเราก็ถือว่าใกล้เคียงกับHypermarket นะคะ แต่ว่าด้วย size ที่มันไม่ใหญ่มากประมาณประมาณ 80-120 อ่ะค่ะ รายได้มันก็จะเดี๋ยวประมาณ 1 เลยค่ะสำหรับ size พวกเนี้ยค่ะ
-
คนเดินห้างน้อยลง:"
- คำถาม:ช่วงนี้คนเดินห้างน้อยลงค่ะมีโอกาสที่เราจะต่อราคาค่าเช่าห้างลงบ้างไหม"
- คำตอบ: จริงๆ ต้อง ต้อง เรียนว่าโมชิเองนะคะด้วย ด้วย nature ของเราเองเนี่ยเราจะเลือกไปเปิดใน ตามห้างหรือสถานที่นะคะที่เราสามารถ negotiate อยู่บนค่าเช่าที่เหมาะสมได้อยู่แล้วนะคะ ใน ใน ค่าเช่าในลักษณะที่แพงเกินกว่าราคาตลาดโดยปกติแล้วเนี่ยโมชิจะ จะไม่จั๊มอินลงไปอยู่แล้วนะคะดังนั้นในช่วงที่ ห้างมีคนเดินน้อยลงอ่ะค่ะเราจะโฟกัสในมุมของ Performance ของเราเองก่อนนะคะว่าแม้ว่า เพราะว่ามันเคยมีกรณีที่บางห้างเนี่ย ห้างจำนวน traffic น้อยลงก็จริงแต่ว่าตัวเราเองเนี่ยก็ยัง perform ได้อยู่ค่ะ
-
ลูกค้า นักท่องเที่ยว:"
- คำถาม: ปกติโมชิโมชิมีลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวกี่เปอร์เซ็นต์หรือมีจํานวนร้านค้าที่อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวจํานวนเท่าไหร่"
- คำตอบ: ในมุมนี้นะคะเอ่อต้องขอตอบว่าร้านค้าที่เป็นจํานวนที่เป็น semi tourism นะคะแล้วก็ tourism เนี่ยcontribute อยู่ที่ประมาณ 20% นะคะของรายได้แต่ว่าถ้าถามว่า อันนี้คือทั้งstore นะคะstore ทั้งทั้งสาขาส่วนเซมิทริสนะคะแต่เราก็ 20% ที่ว่าเนี้ย ไม่จะ จะ ไม่สา มัน มันจะ ไม่ใช่ตัวเลขที่บอกว่าเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวเพราะว่าในสาขานั้นๆ ก็จะมีโลคอลปนอยู่แต่ว่าตอนนี้เราอาจจะยัง ยัง ไม่ได้สามารถเก็บตัวเลขแบบนั้นได้นะคะ
-
ยอดขายออนไลน์:"
- คำถาม: ผลตอบรับจากร้านค้าใกล้เคียงมหาวิทยาลัยอันนี้คุณสุกดาได้ตอบไปแล้วนะคะเบื้องต้นแล้วก็อีกอันนึงก็จะเป็นเรื่องของยอดขายออนไลน์ค่ะคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์นะคะและมีแนวโน้มขยายหรือไม่สำหรับ ยอดขายออนไลน์ของไตรมาส 1 นะคะอยู่ที่ประมาณอยู่ในภาพรวมของ other channels นะคะประมาณ 2-3% นะคะส่วนตัวแผนการขยายสินค้าออนไลน์นะคะทางโมชิเองก็เอ่อมีการวางแผนนะคะที่จะขยายยอดรายได้จากช่องทางนี้นะคะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องเลือกคัดสรรสินค้าที่เหมาะสมนะคะกับเอ่อการขยายธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์เช่นกันนะคะเนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ของโมชิเองเนี่ยมีราคาย่อมเยานะคะเมื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์อาจบางทีลูกค้าอาจจะมองว่าสินค้าเนี่ยค่าส่งอาจจะสูงไปนะคะ
- คำตอบ:แล้วก็ด้วย ด้วย character ของสินค้าค่ะมันเป็นสินค้าที่ ที่คือคนซื้อสินค้าออนไลน์ก็น่าจะเป็นคนที่แบบต้องรู้รู้แล้วว่าอยากได้อะไรนะคะแล้วก็ก็มาบส สิ่งนั้นเลยซึ่งอาจจะไม่ใช่ตัว character ของเราอ่ะนะคะของ เราเนี่ยก็เน้นการตกแต่งร้าน visual merchandise ให้ดึงดูดนะคะเราก็ไม่ได้ขายแต่สินค้าเราก็ขายขาย ขายภาพประสบการณ์ในการเข้ามาในร้านค้าเราด้วยอ่ะค่ะมันมันก็เลยอาจจะทำให้ เอ่อตัวออนไลน์เราเนี่ยจริงๆ เราต้องบอกว่าเรา เราก็อยากจะให้มันเติบโตขึ้นมาแต่เราคงไม่ใช่โฟกัสคิดว่าจะไปโฟกัสออนไลน์ได้ถึง 10 20% นะคะ
-
แผน Franchise:"
- คำถาม: เคยได้ยินว่าบริษัทมีการขยายในลักษณะแฟรนไชส์ค่ะมีความคืบหน้าอย่างไร"
- คำตอบ: คือจริงๆ เราเคยมีแผนจะทำแฟรนไชส์อ่ะนะคะแล้วก็เอ่อโดยที่เราทำสาขาstand Alone แม่ฟ้าหลวงเนี่ยเป็นสาขา Pilot นะคะว่าถ้าสาขาแบบนั้นเนี่ยถ้าเป็นแฟรนไชส์ เขาจะเปิดสาขา size แค่นั้นลงทุนแค่ ประมาณนั้นเนี่ยเอ่อ performance จะเป็นยังไงพอเปิดออกมาแล้วเปิดstand Alone แล้วเราก็คิดว่าเอ่อเราก็มีความพร้อมด้าน ด้าน เอ่อ Working Cap แล้วก็ทุก ๆ อย่างอ่ะนะคะเราเริ่มทั้งเรื่องการลงทุนด้วยแล้วเอ่อผลตอบแทนกลับมาที่ เราเนี่ยเราก็คิดว่าเราทำเองน่าจะดีกว่าแล้วก็รวมทั้งกันในการในแง่ของการควบคุมอะไรต่างๆ ด้วยนะในเรื่องการจัดการก็เลยมองว่าเอ่อหลังจากเปิดเอ่อตัวstand Alone ไปแล้วก็เลยคิดว่าตรง priority เราอ่ะค่ะคงกลับมาทำเองstand Alone นอก จากว่าจะมีพื้นที่สาขาไหนจริงๆ ที่เราไป ไป เห็นแล้วเราอยากเอ่ออยากได้สาขานี้แล้วแลนด์หลอดอาจจะขอให้เป็นแฟรนไชส์แล้วเราก็เห็นว่าสาขานี้มีศักยภาพมากๆ เงี้ยค่ะ เราก็ยังพิจารณานะคะแบบว่าเราไม่ได้ถึงกับปิด ปิดchoice นั้นไปแต่ว่า เอ่อต้องบอกว่าไม่ใช่ priority ของเราในตอนนี้นะค่ะ
-
ปัจจัยเติบโตดีใน Q1:"
- คำถาม:อะไรที่เป็นปัจจัยหลักค่ะที่ทำให้ยอดขายยังเติบโตดีในไตรมาส 1 นะคะและเดือน 4 ขณะที่ธุรกิจอื่นในประเทศค่ะยอดขายลดลงจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศค่ะ"
- คำตอบ:ก็เราคิดว่านะคะก็มาจากการพัฒนาสินค้าของเราอย่างต่อเนื่องนะคะเราลูกค้าเข้าไปในร้านเราเนี่ยเจอสินค้าใหม่ๆตลอดนะคะแล้วก็มีสินค้าราวพัฒนาสินค้าออกมาได้ตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้ารวมทั้งสิ่งที่สําคัญก็คือว่าเอ่อราคาราคาเราสามารถเข้าถึงได้ยิ่งอาจจะเป็นในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนะคะเราก็คิดว่าการมาจับจ่ายในร้านค้าเราเนี่ยถือเป็นความคุ้มค่านะคะลูกค้าราคาจะใช้เงินก็คิดมากขึ้นนะคะ แล้วของเราเนี่ยดูอาจจะเป็นของเป็นของแฟชั่นของ lifestyle แต่จริงๆ แล้วเนี่ยเอ่อสินค้าในร้านเราอ่ะค่ะเป็น เราอย่างที่เราสโลแกนของเรานะคะเป็นสินค้าใช้ในชีวิตประจําวันนะคะตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนจนถึงทํา กิจกรรมต่างๆ ระหว่างวันเนี่ยสินค้าเราเข้าไปแทรกตัวอยู่ตรงนั้นอยู่ในทุกๆ กิจกรรมของลูกค้านะคะั้นก็จะมองว่าสินค้าเราเป็นสินค้าเอ่อสินค้าที่สําหรับการใช้งานเป็นfunctional นะคะแต่ว่าแอดเข้ามาด้วยดีไซน์ที่ ที่ มีความน่ารักอ่ะนะคะทำให้เอ่อไม่ได้มองว่าก็ไม่ได้มองว่าเป็นของฟุ่มเฟือยหรือสิ้นเปลืองแต่เป็นของ ของใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่านะคะแล้วก็ราคาเข้าถึงได้ยิ่งในสภาวะที่เศรษฐกิจเป็นแบบเนี้ยค่ะ
-
Break Event:"
- คำถาม: คำถามต่อไปค่ะโดยปกติค่ะการเปิดสาขาจะมีระยะเวลาการ Break Event กี่เดือนคะ"
- คำตอบ: เอ่อในระดับเอ่อ shop performance นะคะก็อยู่เบรคอยู่ที่ประมาณ 3-4 เดือนนะคะเอ่อแต่ว่าถ้าเกิดสาขาที่ที่perform ดีๆหรือว่าเปิดเปิด ในช่วงธันวานี้ก็อาจจะเบรคได้ภายในภายในเดือนเดียวนะคะแต่ภาพรวมน่ะค่ะก็ก็อยู่ที่สี่ไม่เกิน 4 เดือนค่ะ
-
ผลกระทบจาก Trade war:"
- คำถาม: สำหรับคำถามต่อไปนะคะtrade war ค่ะจะบริษัทจะมีผลกระทบอย่างไรมีแนวโน้มต้นทุนถูกลงคู่แข่งมากขึ้นหรือไม่ค่ะ"
- คำตอบ: อืมเรามองว่าตัวเนี้ยค่ะสามารถเอ่อทำให้เราเนี่ยสามารถเจรจาต่อลองกับซัพพลายเออร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะต่างประเทศนะคะได้ ได้ง่ายขึ้นนะคะเอ่อซัพพลายเออร์จากจีนก็มีความ willing ที่จะnegotiate กับเรานะคะแล้วก็อยากขายของว่าถ้าพูดกันง่ายๆ คือเค้าก็อยากขายของเอ่อในบางรายที่เคยอาจจะเคยมีminium Quantity ที่ ที่ เคยที่สูงเนี่ยค่ะแต่บางตัวเนี่ยเราอยากจะลองมาเทสอาจจะเป็นตัวใหม่ๆเราก็ต้องนิดนึงนะคะเราอยากลองด้วยปริมาณที่ที่น้อยลง น้อยกว่าที่เขากำหนดเนี้ยเราก็สามารถเอ่อคุยได้ง่ายขึ้นนะคะในภาพรวมถือว่า ถือว่า เอ่อเป็นบวกกับเรานะคะเพราะว่าสินค้าเราก็ไม่ใช่สินค้าที่เราเอ่อซื้อจากโรงงานมาขายต่อเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อเราก็ไม่ได้คิดว่าเอ่อสินค้าจีนจะมาดั้มตลาดไทยเนี่ยจะมาตีกับเรานะคะเพราะว่าสินค้าเราเป็นสินค้าดีไซน์แล้วก็แอด value ต่างๆ เข้าไปทั้งทั้ง ใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือการ การ ออกแบบเองอ่ะค่ะซึ่งทำให้สินค้าเราไม่สามารถหาได้ใน ใน ในร้านค้า Platform online หรือ ในจีนทั่วๆ ไปค่ะ
-
ความเสี่ยงใน Q2:"
- คำถาม: สำหรับคำถามต่อไปนะคะบริษัทมองความเสี่ยงของไตรมาสที่ 2 ค่ะมีปัจจัยอะไรบ้าง"
- คำตอบ: จริงๆ ก็หลักๆ อ่ะค่ะจริงก็เป็นเป็นเรื่องเอ่อสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้หลายๆ อย่างเรื่อง เช่นอย่างเช่นเรื่องการเข้ามาของคู่แข่งนะคะซึ่งตรงเนี้ยเราอ่ะจะรู้ว่าเป็นความเสี่ยงนะคะแต่เราว่าเราทีมงานเราเนี่ยก็มีการมอนิเตอร์ผู้ประกอบการในสินค้า lifestyle เนี่ยในต่างประเทศตลอดนะคะมีรายไหนที่มี potential จะเข้ามาได้อีกนะคะหรือ LINE ที่เข้ามาแล้วเนี่ยเอ่อก็จริงๆ ต้องบอกว่าไม่ได้มีรายใดที่อยู่เหนือกัน เกินกว่าที่เราคาดการณ์หรือว่าทำให้เราเซอร์ไพรส์ว่าเขาเข้ามาจริงจริงเราเราจะเอ่อ Monitor หรือว่าติดตามข่าวสารอะไร เอาอะไรอยู่แล้วนะคะแล้วเราก็อาจจะเตรียมตัวรับ เอ่กับการเข้ามาของคู่แข่งอยู่ตลอดเวลาก็จะเห็นว่าเอ่อเรามีการปรับทั้งสินค้าทั้ง display อะไรต่างๆ เนี้ยค่ะก็อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เรา ที่เราเตรียมพร้อมนะปปิดความเสี่ยงนะคะแล้วก็รวมทั้งความเสี่ยงเรื่องของ เอ่ออาจจะเป็นทั้งปัจจัยการเมืองที่เรา อันนี้ ต้องบอกว่าคุมคุมได้จริงหรือว่าทําให้เศรษฐกิจเนี่ยเรื่องเศรษฐกิจที่มันอาจจะมีกําลังซื้อที่อ่อนแอค่ะแต่เราก็มองว่าเราก็เป็นเอ่อสินค้าที่เราตอบโจทย์ในเรื่องของราคานะคะกับความคุ้มค่าของเงินในขณะนี้ให้ผู้บริโภคได้ ได้เป็นเป็นตัวเลือกที่ดีอ่ะค่ะ
-
ค่าเงินบาท:"
- คำถาม: ใช่ค่ะเอ่อสําหรับอีกคําถามนะคะค่าเงินบาทในปัจจุบันค่ะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทหรือไม่"
- คำตอบ: ค่ะก็ก็ค่าเงินบาทจริงก็มีแนวโน้มแข็งค่ามาตลอดนะคะ ก็ถือว่าเป็น เป็น เป็นบวกกับบริษัทนะเพราะว่าเอ่อประมาณกว่า 60% ของต้นทุนสินค้าเราอ่ะค่ะก็เป็น เป็นตัวสินค้านําเข้านะคะ ก็ตัวนี้ก็จะทําให้เราสามารถ expand ตัว margin ได้ ได้ เพิ่มเติมนะคะ
-
ปรับปรุงเฟอร์นิเจอร์:"
- คำถาม: ค่ะเอ่อขอกลับไปที่เอ่อเฟอร์นิเจอร์อีกนิดนึงนะคะคือเมื่อกี้ตอบไปแล้วนะคะเรื่องของแผนการปรับเฟอร์นิเจอร์อีกหนึ่งคําถามคือจะปรับแบบนี้อ่ะค่ะในอีกกี่รอบคะคือ เข้าใจว่าคําถามน่าจะถามว่าในทุกๆกี่ปี"
- คำตอบ: จริงๆ คง คง ไม่ได้เป็นเอ่อ นอกเหนือจากการ renovate ร้านที่อาจจะเป็นร้านเก่าที่ที่อาจจะมีการทรุดโทรมไปอ่ะค่ะ การปรับเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ค่ะคงต้อง คง คงไม่ได้เป็นแผนแบบว่าทุก 3 ปี 4 ปีอะไรคือเราดูตามเทรนสินค้ามากกว่านะคะว่าเอ่อช่วงในช่วงแต่ละปีนั้นหรือว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้าเนี่ยเราก็อาจจะยังคาดการไม่ได้นะคะว่าเทรนตัวไหนจะมานะคะเราก็ต้องรอดูเทรนแฟชั่นต่างๆ แล้วต้องดูแผน ไป ดูตามดู ดู ตามเทรนสินค้ามากขึ้นค่ะ ซึ่งแต่ละเทรนด์อ่ะค่ะมันก็อาจจะอยู่แบบเป็น เทรนด์ แรง ๆ อยู่สัก 2-3 ปีหลังจากนั้นมันอาจจะซอฟท์ลงไปซึ่งอันนี้มันเป็นปกติอยู่แล้วนะคะเราก็เราก็ต้องหาตัว ตัวสินค้าใหม่ที่เป็นเอ่อเน้น เทรนด์ในช่วงนั้นเหมือนอย่างปีที่แล้วมีกล่องสุ่มมาแล้วก็มีเพิ่มเพิ่มเฟอร์กล่องสุ่ม อ่ะ แล้วมันก็จะหมุนเวียนกันไปแบบเนี้ยค่ะ เพราะฉะนั้นคงไม่ได้เป็นแพทที่ที่ชัดเจนว่าต้องกี่ปีค่ะ
-
สาขา Stand Alone:"
- คำถาม: ค่ะเอ่ออีกหนึ่งคําถามนะคะเกี่ยวกับสาขาstand Alone ค่ะสำหรับสาขาstand Alone ค่ะสามารถมองได้ว่ายอดขายเทียบเท่ากับ Hypermarket ได้หรือไม่ค่ะ"
- คำตอบ: ที่สาขา Stand Alone ไซส์ใหญ่ ไซส์ใหญ่ค่ะ เอ่อไซส์ใหญ่ที่อยู่ไม่ว่าไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็น ไซส์ใหญ่หรือไซส์ปกติอ่ะค่ะ เอ่อเรามองที่ ถ้า ถ้า ถ้าถ้า ยอดขายอาจจะมองว่าอาจจะอาจเลือก เพราะ ด้วย Traffic ด้วยนะคะอาจจะเทียบ เทียบ ไม่ได้แต่ว่าด้วยค่าเช่าแล้วก็ เอ่อ การลงทุนที่ ที่ เบาบางกว่าเล็กน้อยอ่ะนะคะก็จะทำให้ตัว ตัว เอ่อoperating performance ส่วนของ shop profit อ่ะค่ะเอ่อมีความใกล้เคียงกันนะคะ Bottom Line ค่ะแต่ไม่ใช่ตัว ตัว Top Line อ่ะค่ะ
-
Baskete size:"
- คำถาม: ค่ะค่ะเอ่อสําหรับ basket size ค่ะbasket size สําหรับปี 2024 กับ 2025 ค่ะมีความแตกต่างหรือไม่ อย่างไรค่ะ"
- คำตอบ: ค่ะในคิว 1 น่ะค่ะก็ตัว ตัว baskete size เราก็ถือว่าดีขึ้นนะคะจากเอ่อ อนุญาต เอ่อในคิว 1 อยู่ที่ 173 บาทนะคะแล้วก็ในส่วนของคิว 1 ปีที่แล้วอยู่ที่ 170 ก็ก็บวกขึ้นมาเล็กน้อยอ่ะนะคะ ค่ะแต่ว่าของเรา size เราอาจจะไม่ใหญ่เเต่จำนวน จํานวน ticket เราอ่ะเป็นหลักล้านต่อเดือนนะคะก็ส่วนนี้ก็ ส่วนหนึ่งก็เป็นส่วนที่ทำให้ตัวเซมสโตรเซลเราปรับตัวขึ้นด้วยอ่ะค่ะ
-
รายได้จาก member:"
- คำถาม: ในมุมของ member ค่ะรายได้จาก member เป็นยังไงบ้างคะ"
- คำตอบ:เอ่อใน ของ member ตอนนี้ก็ฐาน ฐาน member อยู่ที่ประมาณ 6 แสนกว่าคนถึงประมาณ 700,000 นะคะเพราะรายได้จาก member Membership เนี่ยก็เป็นคิดเป็น เอ่อสัดส่วนนะคะประมาณเอ่อ 20% น่ะค่ะของของรายได้ของฝั่งค้าปลีกนะคะแล้วก็สำหรับฝั่งค้าส่งค่ะเค้าก็จะมีระบบ member ของเค้าซึ่งซึ่งแยกจากกันนะคะก็จะเป็นการสะสมคะแนนเพื่อไปแลกส่วนส่วนลดแต่ว่าแต่ว่าลูกค้าค้าส่งก็จะมีระบบ member อันนี้มานานแล้วนะคะแล้วก็เรา เรา ไม่ได้ใช้ข้าม ข้ามกันค่ะ
โดยสรุป Moshi Moshi ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการขยายสาขา การพัฒนาสินค้า และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ แม้จะมีความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่บริษัทก็มีแผนการรับมือและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาการเติบโตและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว