บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

BIS Oppday Summary
P/E 13.03 YIELD 5.19 ราคา 2.70 (4.65%)## BIS มองอนาคตปี 2567: กำไรโตต่อเนื่อง ขยายตลาดต่างประเทศ และบุกตลาด Pet Business เต็มสูบ
สวัสดีครับ/ค่ะ ท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้สนใจทุกท่าน ในการรายงานผลประกอบการประจำปี 2567 ของบริษัท ไบโอไซน์ แอนิมอล เฮลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS ในวันนี้ เราจะมาสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โอกาสทางธุรกิจ ความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ และแผนการเติบโตในอนาคต เพื่อให้ท่านได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและแม่นยำ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ปี 2566 ที่ผ่านมา BIS มีผลประกอบการที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิ 71.66 ล้านบาท เติบโต 35.51% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการยกระดับเปอร์เซ็นต์กำไรสุทธิจาก 2.18% เป็น 3.02% ต้องขอบคุณทีมงานทั้งทีมขายและ Back Office ที่ทำให้ผลประกอบการออกมาดี โดยเฉพาะในส่วนของ Net Profit
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเติบโตในตลาดต่างประเทศตามกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยเฉพาะที่เมียนมาและกัมพูชา ซึ่งทำได้ค่อนข้างดี และจะเริ่มเข้าสู่ตลาดเวียดนามอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้สัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศขยับจาก 5.8% ในปี 2566 เป็น 8.3% ในปี 2567 และบริษัทยังคงรักษากลยุทธ์นี้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2570
BIS ยังได้สร้างพื้นฐานของ Companion Animal (Pet Business) อย่างแข็งแกร่ง โดยการทำแพลตฟอร์มและ Ecosystem ที่ครบถ้วน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวมถึงการหาสินค้าและบริการที่เป็น Medical Device ซึ่งมีมูลค่าค่อนข้างสูงสำหรับโรงพยาบาลสัตว์ และมีสินค้าภายใต้ Own Brand เช่น Dr. Nicco และ Paw Choice สำหรับการทำตลาด B2C
Back Office ยังสามารถทำ Inventory Control ได้ค่อนข้างดี ทำให้สินค้าคงเหลือลดลงอย่างชัดเจน ลดค่าใช้จ่ายไปได้ และบริษัทยังคงมุ่งมั่นในการโฟกัสตลาด Integrated Feed Mill ทำให้เห็นภาพการเติบโตที่ชัดเจน โดยตลาดนี้โตขึ้นประมาณ 23% เมื่อเทียบกับปี 2566
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
BIS มองเห็นโอกาสในการเติบโตในหลายด้าน ทั้งในตลาด Integrated Feed Mill ตลาดต่างประเทศ และตลาด Pet Business โดยมีกลยุทธ์ดังนี้:
- ขยายตลาด Integrated Feed Mill โดยการเพิ่มสินค้าและบริการเกี่ยวกับ Minor Ingredient และทำ R&D ร่วมกับลูกค้าขนาดใหญ่
- ขยายตลาดต่างประเทศ โดยเน้นที่เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา และจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศให้ได้ 20% ในปี 2570
- ขยายตลาด Pet Business โดยการเพิ่มสินค้าและบริการเกี่ยวกับ Medical Device ในโรงพยาบาล รวมถึงชุดตรวจของ IDEXX และแพลตฟอร์มที่บริษัทมีอยู่ และจะเพิ่มสัดส่วนของตลาด Companion Animal ให้ได้ 30% ในปี 2570
- เพิ่มประสิทธิภาพ Back Office และใช้ Digital เข้ามาช่วยในการทำงาน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัว
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ความเสี่ยงที่ BIS กำลังเผชิญอยู่ ได้แก่:
- การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด Animal Health และ Pet Business
- ความผันผวนของราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์
- ความเสี่ยงด้านการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศที่บริษัทเข้าไปลงทุน
- การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
BIS มีแผนการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ดังนี้:
- มุ่งเน้นสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูงและมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เพื่อลดผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคา
- บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และแสวงหาแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลาย เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคา
- ศึกษาและติดตามสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศที่บริษัทเข้าไปลงทุนอย่างใกล้ชิด และมีแผนสำรองหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
BIS มองว่าธุรกิจ Animal Health และ Pet Business ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้:
- การเพิ่มขึ้นของประชากรและการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนา
- การตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพสัตว์และความปลอดภัยของอาหาร
- การเพิ่มขึ้นของจำนวนสัตว์เลี้ยงและการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ดีขึ้น
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในด้าน Animal Health และ Pet Business
BIS ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจ Animal Health และ Pet Business โดยมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ และการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [01:17:48]
-
**หัวข้อ:** ศักยภาพการเติบโตในตลาดสัตว์เลี้ยง และแผนการลงทุนเพิ่มเติม
- **คำถาม:** จากการขยายการลงทุนในกลุ่มสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ผู้บริหารมองว่ายังมี Room ในการเติบโตอยู่หรือไม่ และปีนี้มีแผนขยายการลงทุนในกลุ่มนี้เพิ่มไหม?
- **คำตอบ:** บริษัทยังคงมุ่งมั่นและโฟกัสในการเพิ่มสัดส่วนของ Pet Business โดยจะเน้นในทิศทางที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ คือในส่วนของ Veterinary (สัตวแพทย์) จะเพิ่มสินค้าและบริการที่ชัดเจนในส่วนของโรงพยาบาล เช่น Medical Device และสินค้าเกี่ยวกับการรักษาโรค บริษัทยังมองหาการเติบโตในตลาดต่างประเทศที่มีประชากรสูง เช่น เวียดนามและอินโดนีเซีย รวมถึงศึกษาธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับสัตว์เลี้ยงเพื่อการลงทุนใหม่ๆ
-
**หัวข้อ:** แผนงานและเป้าหมายการเติบโตในตลาดต่างประเทศ
- **คำถาม:** บริษัทมีแผนงานในการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างไรบ้าง และคิดว่าจะยังมุ่งเป้าในการเติบโตไปในประเทศใดเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะเหตุใด?
- **คำตอบ:** บริษัทจะมุ่งเน้นในประเทศที่กำลังเติบโตและมีประชากรมาก เช่น เวียดนามและอินโดนีเซีย โดยจะรักษาตลาดเดิมที่ทำได้ดีอยู่แล้ว เช่น เมียนมาและกัมพูชา ในเชิงของปศุสัตว์ จะเจาะในส่วนของตลาด Integrated Feed Mill โดยอ้างอิงจากโมเดลที่ทำได้ในประเทศไทย
-
**หัวข้อ:** การแข่งขันด้านราคาจากบริษัทใหญ่ และผลกระทบจากการเข้ามาของสินค้าจีน
- **คำถาม:** รายใหญ่จะมาตีราคาแข่งกับเราไหม? สินค้าจีนเข้ามาตีตลาดบ้านเราบ้างหรือไม่?
- **คำตอบ:** สินค้าและบริการของบริษัทเกี่ยวกับในส่วนของผู้ผลิตรายใหญ่เป็นคู่ค้ากัน บริษัทพยายามหาสินค้าบริการที่เขาอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว สินค้าราคาอาจจะมีการประมูลบ้างในบางกรณีทำให้กำไรขั้นต้นอาจจะต่ำลง แต่การประมูลทำให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของฝ่ายขาย และสามารถดำเนินการเรื่องของการสั่งของและล็อคค่าเงิน รวมถึงการทำในส่วนของกำไรในส่วนของเน็ตได้ค่อนข้างได้ดีในกรณีที่มีการบริหารจัดการได้ดี สินค้าจีนที่เข้ามา ส่วนใหญ่มักจะติดต่อกับ Local Distributor ก่อน บริษัทมีการกลั่นกรองสินค้าจีนหลายชนิด โดยเลือกชนิดที่มีคุณภาพดีและมาตรฐานสม่ำเสมอเข้ามาจัดจำหน่าย
-
**หัวข้อ:** ผลกระทบจากสงครามการค้า และสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่เน้น
- **คำถาม:** สงครามการค้ามีผลต่อการส่งออกไหม? สัดส่วนผลิตภัณฑ์ของบริษัทเน้นสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งหรือไม่?
- **คำตอบ:** ปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้มีการส่งออกไปยังภูมิภาคที่อาจจะห่างไกลหรืออะไรพวกนี้ กลยุทธ์บริษัทยังเน้นในเรื่องของ CLMV ประเทศไทยเป็นหลัก มีการส่งออกไป CLMV เช่น กัมพูชา เวียดนาม และอาจจะพม่าเล็กน้อย ปัจจัยตรงนี้เลยอาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทค่อนข้างน้อยหรือแทบไม่มีเลย เป้าหมายทั้ง Animal ประมาณสัก 70% มีในส่วนของสุกร 40% แล้วก็มีในสัตว์ปีกกับในส่วนของสัตว์น้ำอยู่ 30% แล้วก็มี Companion Animal อยู่ที่ 30% บริษัทกระจายความเสี่ยงไปแล้ว ตอนกำลังศึกษาเรื่องธุรกิจเกี่ยวโยงกับบริษัทยังคงศึกษาในส่วนของการลงทุนใหม่ๆ ในธุรกิจก็เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเหมือนเดิม
โดยสรุป BIS ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น