CK: แบ็คล็อกสูงเป็นประวัติการณ์หนุนการเติบโต แต่ FSSIA ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 20 บาท

P/E 7.31 YIELD 2.56 ราคา 11.80 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ:

FSSIA ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น CK โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 20 บาท (ลดลงจาก 27 บาท) แม้จะปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-69 ลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและผลกระทบจาก GMT แต่ยังคงมองว่า CK มี valuation ที่น่าสนใจและมีส่วนลดจาก NAV อย่างมาก

รายละเอียดการวิเคราะห์:

FSSIA คาดการณ์ว่า CK จะมีรายได้ปี 2568 ที่ 4 หมื่นล้านบาท (+7% YoY) และมีอัตรากำไรขั้นต้น 7-8% โดยได้แรงหนุนจากงานหลักในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้, รถไฟทางคู่เด่นชัย, และโครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง นอกจากนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มก็เริ่มดำเนินการแล้ว โดยงาน M&E ฝั่งตะวันออกจะเริ่มก่อน 10-15% ของงานทั้งหมด ขณะที่งานโยธาฝั่งตะวันตกอยู่ในช่วงเริ่มต้น

ณ สิ้นปี 2567 CK มีแบ็คล็อกสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.1 แสนล้านบาท และมีโอกาสเข้าร่วมการประมูลโครงการใหม่ ๆ ในปี 2568 มูลค่า 7.16 แสนล้านบาท โดยเป้าหมายหลักคือโครงการทางด่วน double-deck (3.5 หมื่นล้านบาท) ซึ่ง BEM อาจลงนามสัญญาในครึ่งหลังของปี 2568 นอกจากนี้ CK ยังเล็งโครงการรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 ช่วงโคราช-หนองคาย (2.35 แสนล้านบาท) ซึ่งคาดว่าจะเปิดขาย TOR ในครึ่งหลังของปี 2568

ข้อสังเกต:

FSSIA ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-69 ลง 26-31% เหลือ 1.5 พันล้านบาท (+4% YoY) และ 1.65 พันล้านบาท (+10% YoY) ตามลำดับ เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A และดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ที่ลดลง นอกจากนี้ CK กำลังประเมินอัตราภาษีใหม่หลังจากได้รับผลกระทบจาก global minimum tax (GMT) เนื่องจากมี operations ในลาวที่มีอัตราภาษีต่ำ FSSIA จึงใช้สมมติฐาน worst-case scenario โดยปรับอัตราภาษีเป็น 15% (จาก 7%)

สรุป:

FSSIA ปรับลดราคาเป้าหมาย CK ลงเหลือ 20 บาท (SOTP) เพื่อสะท้อนมูลค่า CKP ที่ลดลง ราคาหุ้น CK ลดลง 21% YTD สะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 4Q24 และซื้อขายที่ P/BV เพียง 1x (-2SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี) ราคาหุ้นปัจจุบันยังสะท้อนส่วนลด 46% จาก NAV ของ BEM, CKP, และ TTW FSSIA คาดว่ากำไร 1Q25 อาจไม่น่าตื่นเต้น แต่จะเร่งตัวขึ้นใน 2Q-3Q25 และมี catalyst จากการประมูลโครงการใหม่ ๆ ใน 2H25

โพสต์ล่าสุด