บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
WHA เตรียม IPO บริษัทย่อย WHAID! KSS มองระยะสั้นกระทบ แต่ระยะยาวเป็นผลดี คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท
P/E 9.75 YIELD 5.92 ราคา 3.22 (0.00%)
ผลกระทบ IPO และแผนธุรกิจ:
KSS คาดว่า WHA จะเสียภาษีจากการปรับโครงสร้างธุรกิจและการขายหุ้นเดิม ทำให้กำไรปี FY26F ลดลง 13% (720 ล้านบาท) นอกจากนี้ Mobilix อาจต้องใช้เวลา 3-4 ปี เพื่อให้กำไรมาชดเชย อย่างไรก็ตาม เงินสดที่ได้รับจาก IPO จะช่วยให้บริษัทสามารถทำดีลควบรวมกิจการได้
WHAID เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เงินสดรับจาก IPO จะสนับสนุนแผนขยายธุรกิจ 5 ปีของ WHA ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 2.9 เท่า โดยใช้เงินลงทุน 1.19 แสนล้านบาทในช่วง 5 ปีข้างหน้า เงินสดจากการเสนอขายหุ้น IPO จะลด net gearing ของ WHA เป็น <0.7 เท่า จาก <1.2 เท่า และช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจ S-Curve ใหม่ (Mobility) และโอกาสในการควบรวมกิจการ แผน CAPEX ของบริษัทในปี 2025-2029 จะเน้นธุรกิจนิคม, ธุรกิจบริการให้เช่ารถบรรทุก EV (ภายใต้บริษัท Mobilix) และสาธารณูปโภค บริษัทกำลังปรับโครงสร้าง WHAUP ก่อนการเสนอขายหุ้น IPO โดยคาด IPO ภายใน 4Q25
ข้อสังเกต:
KSS มองว่า Mobilix จะสร้างรายได้ประจำและเป็นธุรกิจ S-Curve ใหม่ของบริษัท โดยคาดว่ากำไรของ Mobilix จะสูงถึง 1 พันล้านบาทภายในปี 2028 ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบหากอุตสาหกรรมนิคมเป็นช่วงขาลง KSS คาดว่าอุปสงค์ที่ดินจะยังแข็งแกร่งในระยะสั้น นอกจากนี้ บริษัทอาจนำ Mobilix จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต เงินสดจากการเสนอขายหุ้น IPO ของ WHAID (หลังลงทุนใน Mobilix) จะทำให้บริษัทสามารถทำดีล M&A ได้
KSS ประเมินว่า SOTP ของ WHA จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ แต่ PER ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 12 เท่าจาก 10 เท่าในปี FY26F เนื่องจากผลกระทบจาก dilution
สรุป:
แม้ว่าการ IPO ของ WHAID จะมีผลกระทบ เชิงลบในระยะสั้น จากค่าใช้จ่ายทางภาษีและการลดลงของกำไร แต่ KSS มองว่าในระยะยาว WHA จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ Mobilix และความสามารถในการทำ M&A จากเงินสดที่ได้จากการ IPO ดังนั้น KSS จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายที่ 6.40 บาท อิงตามค่า DCF สำหรับแต่ละกลุ่มธุรกิจ