บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ORI กำไร Q4/67 วูบ! PST หั่นเป้าเหลือ 2.94 บาท มองสินเชื่อเข้มงวด ฉุดยอดโอน
P/E 4.55 YIELD 1.08 ราคา 1.95 (-2.50%)
ไฮไลท์สำคัญ: PST ปรับลดคำแนะนำ ORI เป็น "ถือ"
PHILLIP SECURITIES (THAILAND) หรือ PST ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้นของ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เป็น "ถือ" พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568 ลงมาอยู่ที่ 2.94 บาท/หุ้น จากเดิม โดยมีมุมมองว่ากำไรในไตรมาส 4/2567 จะอ่อนตัวลงมาก และยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด
วิเคราะห์ผลประกอบการ Q4/67: กำไรลดลงจากหลายปัจจัย
PST คาดการณ์ว่า ORI จะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2567 ที่ 62 ล้านบาท ลดลง 84.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (-84.6%q-q) แม้จะเพิ่มขึ้น 31.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน (+31.8%y-y) ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรลดลงคือผลกระทบจากการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร ทำให้ยอดโอนอ่อนตัวลง นอกจากนี้ รายได้จากการร่วมทุน (JV) ที่ลดลง และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่อ่อนตัวลงจากการลดราคาสินค้าและการขาย Big lots ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันผลกำไร
แนวโน้มปี 2568: กำไรยังอ่อนตัว ธุรกิจ BRI น่ากังวล
PST มองว่าแนวโน้มปี 2568 ORI จะยังคงมีกำไรที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (-10.8%y-y) เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด ทำให้ ORI ต้องใช้นโยบายขาย Big lots เพื่อระบายสต๊อก ซึ่งจะกระทบต่อ GPM นอกจากนี้ คาดว่าการร่วมทุน (JV) จะลดลง ทำให้รายได้ค่าบริหารโครงการและกำไรพิเศษลดลง PST ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลง 25% มาอยู่ที่ 1,231 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ PST ยังมีความกังวลเกี่ยวกับธุรกิจ BRI (บมจ.บริทาเนีย) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขาดทุนจากการดำเนินงานหลักในไตรมาส 4/2567 เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาและการถูกปฏิเสธสินเชื่อ
ประเมินมูลค่าหุ้น: อิง P/E 6.5 เท่า บวกค่าความยั่งยืน
PST ใช้วิธี SOTP (Sum of The Parts) โดยอิง P/E 6.5 เท่า บวกค่าความยั่งยืนของกิจการอีก 1.8% ในการประเมินราคาพื้นฐานปี 2568 ของ ORI ได้ราคาเป้าหมายที่ 2.94 บาท/หุ้น เนื่องจากยังไม่เห็น upside ด้านราคา จึงปรับลดคำแนะนำลงเป็น "ถือ" อย่างไรก็ตาม PST ยังคงหวังว่าการหารือระหว่างองค์กรอสังหาริมทรัพย์กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อทบทวน LTV (Loan to Value) จะมีข่าวดีในอนาคต