บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

TEGH กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 ดิ่งลงเหว 76.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่ารายได้รวมจะขยับขึ้นเล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากราคาขายยางพาราที่ลดลงอย่างมาก

รายได้และกำไร:

TEGH รายงานรายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 3/2568 ที่ 4,757.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงถึง 11.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 50.58 ล้านบาท ลดลงอย่างน่าใจหาย 76.9% YoY และ 76.1% QoQ ธุรกิจหลักยังคงเป็นยางธรรมชาติ คิดเป็น 84.5% ของรายได้รวม ตามด้วยน้ำมันปาล์มดิบ 14.3% และพลังงานทดแทน 1.2%

ธุรกิจยางธรรมชาติ ซึ่งเป็นรายได้หลักของ TEGH ลดลง 0.89% YoY และ 13.33% QoQ แม้ว่าปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายยางแท่งที่ลดลงส่งผลกระทบอย่างมาก ในขณะที่ธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ เพิ่มขึ้น 11.99% YoY แต่ลดลง 2.46% QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทน เติบโต 55.91% YoY แต่ลดลง 8.45% QoQ

กำไรขั้นต้นของ TEGH ลดลง 45.0% YoY และ 40.5% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 10.93% ใน Q3/2567 เหลือเพียง 5.94% ใน Q3/2568 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายลดลง 15.2% YoY และ 9.1% QoQ แต่ค่าใช้จ่ายในการบริหารกลับเพิ่มขึ้น 2.4% YoY แต่ลดลง 8.3% QoQ

สินทรัพย์และหนี้สิน:

TEGH มีสินทรัพย์รวมลดลง 17.01% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ในขณะที่หนี้สินรวมลดลงถึง 30.59% ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 5.36% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการหนี้สินที่ดีขึ้น

สรุป:

ถึงแม้ว่ารายได้รวมของ TEGH ในไตรมาส 3/2568 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่กำไรสุทธิที่ลดลงอย่างมากเป็นสิ่งที่น่ากังวล สาเหตุหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์หลักอย่างยางพาราที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการหนี้สินที่ดีขึ้นทำให้หนี้สินรวมลดลงและส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 TEGH ยังคงมีผลประกอบการที่เติบโต โดยมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 37.2% YoY และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.2% YoY