บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

KSecurities มองข้ามช็อต TURBO หรือ บมจ. เทอร์โบ เทคโนโลยี ชี้เป็นบริษัทน้องใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตสูง พร้อมคาดการณ์กำไรปกติปี 2568 พุ่งกระฉูดถึง 242% จากปีก่อนหน้า

ศักยภาพเติบโตของ TURBO

KSecurities ระบุว่า TURBO มีข้อได้เปรียบด้านประสิทธิภาพด้านต้นทุน เห็นได้จากอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ (Cost-to-income ratio) ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเติบโตของสินเชื่ออีกมาก เนื่องจากสินเชื่อเฉลี่ยต่อสาขายังต่ำกว่าคู่แข่ง

การที่ TURBO เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งมาไม่นาน (ประมาณ 8 ปี) โดย 65.6% ของสาขาเปิดดำเนินการมาไม่ถึง 5 ปี สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการขยายตัวเมื่อสาขาเติบโตเต็มที่ อีกทั้งการนำข้อมูลบนคลาวด์มาใช้ การปิดสาขาที่ผลงานไม่ดี การลดจำนวนพนักงาน และการอนุมัติสินเชื่อภายในสาขา ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ของ TURBO ต่ำกว่าคู่แข่ง

นอกจากนี้ TURBO ยังมีอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) สูงสุด เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เนื่องจากเน้นคุณภาพการให้บริการมากกว่าการแข่งขันด้านราคา KSecurities คาดการณ์อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ในช่วง 5 ปี (2565-70) ของกำไรปกติจะอยู่ที่ 15.2% โดยกำไรปกติจะเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 242% คิดเป็น 485 ล้านบาทในปี 2568 การเติบโตดังกล่าวคาดว่าจะมาจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในช่วง 5 ปีที่ 12.6%

ข้อสังเกตและปัจจัยสนับสนุน

KSecurities คาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลง -53% ในปี 2568-70 เทียบกับ -65% ในปี 2565-67 เนื่องมาจากการพัฒนาด้านไอที การปิดสาขาที่ทำผลงานไม่ดี และการประหยัดต่อขนาดจากยอดสินเชื่อต่อสาขาที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) มีแนวโน้มลดลงจากการเพิ่มความเข้มงวดและประสิทธิภาพของการติดตามหนี้ รวมถึงส่วนแบ่งรายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจประกันภัย

สรุปและกลยุทธ์การลงทุน

KSecurities มองว่าราคา IPO ที่ 1.5 บาทนั้นน่าสนใจ เมื่อเทียบกับอัตราส่วน P/E ปี 2569 ที่ 6.6 เท่า และ P/BV ที่ 0.96 เท่า เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม