https://aio.panphol.com/assets/images/community/10293_16CC74.png

SAMART หุ้นดีต่อเนื่อง! หยวนต้าชี้เป้า 7.75-8.95 บาท มองข้ามสงครามชายแดน

P/E 11.28 YIELD 0.00 ราคา 5.30 (0.00%)

หยวนต้า (ประเทศไทย) มอง SAMART กำไรโตต่อเนื่อง แม้มีปัจจัยเสี่ยงสงครามชายแดน เคาะราคาเหมาะสม 7.75-8.95 บาท

ไฮไลท์สำคัญ

ริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) วิเคราะห์ SAMART กำไรปกติปี 2568 อยู่ที่ 550-600 ล้านบาท หรือ EPS 0.55-0.60 บาทต่อหุ้น ประเมินราคาเหมาะสมที่ 7.75-8.95 บาท อิง PER 13x-15x แม้มีปัจจัยเสี่ยงจากสงครามชายแดน

ผลประกอบการที่เติบโต

ผลประกอบการ 1H25 มีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 131 ล้านบาทใน 1H24 หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 338 ล้านบาท (+112% YoY) การเติบโตมาจากกลุ่ม Digital ICT Solution (SAMTEL) รายได้โต 34% YoY กลุ่ม Digital Communication (SDC) มีกำไร และกลุ่ม Utilities and Transportations รายได้โต 14% YoY จาก Traffic ของ SAV ที่ 91% ของ pre-COVID-19 และกำไรของกลุ่ม TEDA

Backlogs ณ สิ้น 2Q25 อยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท SAMART ลุ้นงานประมูลขนาดใหญ่หลายโครงการใน 2H25 เช่น งานประมูลของกลุ่ม TEDA 1.9 พันล้านบาท SAMTEL ลุ้นงานระบบ ERP ของ AOT 3.0 พันล้านบาท และ SAV ลุ้นงานประมูลตรวจสอบสิ่งแปลกปลอม 1.3 พันล้านบาท และงานวิทยุการบิน 1.1 พันล้านบาท

ข้อสังเกตและปัจจัยเสี่ยง

หยวนต้าประเมินความเสี่ยงจากสงครามไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะผลกระทบต่อสัมปทานของ SAV และจำนวนเที่ยวบินที่ลดลง ผู้บริหารประเมินความเสี่ยงที่สัมปทานจะถูกแก้ไขจำกัดมาก แต่การปิดน่านฟ้าทำให้เที่ยวบิน Overflight ลดลง 10-15% กระทบรายได้กลุ่มราว 3-5% อย่างไรก็ดี Traffic ฟื้นตัว 95% เทียบระดับปกติแล้ว

SAMART คงเป้าหมายปี 2025 รายได้ 1.35 หมื่นล้านบาท และกำไรที่ระดับ +/-690 ล้านบาท

สรุปการลงทุน

หยวนต้ามองว่าราคาหุ้นที่ต่ำกว่า 7.00 บาทต่อหุ้นเป็นโอกาสในการทยอยสะสม โดยปัจจัยหลักที่จะปลดล็อคราคาหุ้นคือความชัดเจนทางการเมืองและสงครามชายแดนที่จะลดความกังวลให้กับนักลงทุน

หยวนต้าให้กรอบราคาเหมาะสมที่เป็นไปได้ที่ 7.75-8.95 บาทต่อหุ้น โดยอิง PER13x-15x ซึ่งเป็นกรอบ PER ที่ปรับลดลงมาจากภาวะตลาดและเศรษฐกิจ 2H25 ที่อ่อนแอไปแล้ว

โพสต์ล่าสุด