บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป OPPDAY หุ้น TK: ไตรมาส 2 ปี 2568 - โอกาสและความท้าทายในตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์
P/E 18.93 YIELD 4.67 ราคา 4.28 (0.00%)
สรุป OPPDAY หุ้น TK: ไตรมาส 2 ปี 2568 - โอกาสและความท้าทายในตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์
สรุปผลการประชุม Oppday ของบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยเน้นที่ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ โอกาสทางธุรกิจ ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ และแนวโน้มในอนาคต
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
- ผลกระทบเชิงบวก: ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีการเติบโตเล็กน้อย 1.5% ในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าตลาดรถยนต์จะหดตัว
- ผลกระทบเชิงลบ: ตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวมในประเทศหดตัวลง 9% ในปี 2567 แต่ในกรุงเทพฯ ยังมีการเติบโต 2.8%
- ปัจจัยสำคัญ:
- การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด-19
- การกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 23% โดย สคบ.
- การเข้ามาควบคุมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- ตัวเลขทางการเงิน:
- พอร์ตสินเชื่อรวม 1,677 ล้านบาท
- DE ratio ต่ำมาก
- NPL อยู่ที่ 4.5%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
- การขยายธุรกิจสินเชื่อเครื่องจักรสำหรับ SME ซึ่งมีความต้องการสินเชื่อสูงและมีหลักประกันเต็มวงเงิน
- การกลับมาให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากชะลอตัวไปก่อนหน้านี้
- การเติบโตในตลาดต่างประเทศ เช่น กัมพูชาและลาว แม้จะมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจและการเมือง
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
- ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ: การเข้ามาควบคุมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อโดย ธปท. อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน
- ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ: ภาวะเงินฝืดในประเทศไทยอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
- ความเสี่ยงด้านการเมือง: ความไม่สงบตามชายแดนในกัมพูชาอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
- การควบคุมค่าใช้จ่ายและการควบรวมสาขาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- การเร่งตัดหนี้สูญ
- การปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง โดยเน้นลูกค้าที่มีคุณภาพและมีหลักประกัน
- การติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองอย่างใกล้ชิด
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
- ตลาดรถจักรยานยนต์คาดว่าจะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยในปี 2568
- การเติบโตของรถจักรยานยนต์ EV ยังไม่สูงมากนัก เนื่องจากราคาสูงและข้อจำกัดด้านการใช้งาน
- TK จะเน้นการขยายธุรกิจสินเชื่อ SME และการควบคุมความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 59:10]
ธุรกิจของ TK
Q: นอกจากสินเชื่อรถจักรยานยนต์ TK มีธุรกิจอะไรอีกบ้าง?
A: ธุรกิจหลักคือสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในไทย, กัมพูชา และลาว นอกจากนี้มีสินเชื่อเครื่องจักร SME และธุรกิจประกันภัย (TK Broker)
เพดานดอกเบี้ยและกฎระเบียบ
Q: สคบ. หรือ ธปท. มีโอกาสปรับเพดานดอกเบี้ยหรือไม่?
A: ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ธปท. ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีความเข้าใจในธุรกิจการเงินมากกว่า สคบ.
คู่แข่งและต้นทุน
Q: ทำไมคู่แข่งบางรายในตลาดหลักทรัพย์มีกำไรดีกว่า?
A: คู่แข่งอาจลดต้นทุน Incentive ได้ดีกว่า แต่ TK อาจมีความ Conservative มากกว่าในเรื่องการตั้งสำรองและต้นทุนการดำเนินงาน
สัดส่วนลูกค้า
Q: สัดส่วนลูกค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นอย่างไร?
A: ส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด (ประมาณ 90%) และในกรุงเทพฯ ไม่ถึง 10%
สินเชื่อ SME
Q: สินเชื่อ SME อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของใคร และมีสัดส่วนหลักประกันเท่าไร?
A: ส่วนใหญ่มีหลักประกันเต็มวงเงิน 100% และมีการตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียด
ธุรกิจในกัมพูชา
Q: สถานการณ์ในกัมพูชาเป็นอย่างไร จะปิดกิจการหรือไม่?
A: ยังไม่ปิดกิจการ แม้จะมีผลกระทบจากความไม่สงบตามชายแดน แต่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างระมัดระวัง โดยเน้นลูกค้าที่มีคุณภาพ และยังทำกำไรได้
การแข่งขันและการตลาด
Q: มีการแข่งขันสูง และราคารถ EV ลดลง จะกระทบหรือไม่?
A: ราคารถ EV ที่ลดลงเร็ว อาจทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ
- ชื่อบริษัทลูกในกัมพูชา: Soursdey Finance
- ชื่อบริษัทลูกในลาว: SabaiDee Leasing
สรุป: TK เผชิญทั้งโอกาสและความท้าทายในตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยบริษัทจะเน้นการบริหารความเสี่ยง การควบคุมต้นทุน และการขยายธุรกิจในตลาดที่มีศักยภาพ เช่น สินเชื่อ SME และตลาดต่างประเทศ