TEGH
บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

TEGH โชว์ผลงาน Q4/2567 โตกระโดด! พร้อมลุยแผนปี 2568

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ผลประกอบการปี 2567 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยเชิงบวกสนับสนุนหลายด้าน

  • Rubber Business: ขยายยอดขายทั้งปริมาณและมูลค่า สัดส่วนการส่งออกเติบโตมากขึ้นจากการขาย EUDR
  • ตลาดส่งออก: ขยายตลาดมากขึ้นในอเมริกา ยุโรป และจีน
  • ขยายกำลังการผลิต: สำเร็จตามแผน ทำให้ Capacity ณ สิ้นปีอยู่ที่ 390,000 ตัน และมีแผนขยายให้ครบ 430,000 ตัน ภายในสิ้นปี 2568
  • ลูกค้าใหม่: ได้ลูกค้าใหม่จากมาตรการ EUDR เช่น Ansell, Nokian, Giti
  • Palm Oil: ผลิตน้ำมันเมล็ดในปาล์มสูงขึ้น 23% year-on-year มีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่
  • พลังงานทดแทน: เติบโตจาก Organic Waste Management ประมาณ 36% ผลิต Biogas และไฟฟ้ามากขึ้น ขยายกำลังการผลิต Project Zone 3 Phase 1 สำเร็จ

Revenue Growth อยู่ที่ 39% และ Net Profit Growth อยู่ที่ 159% มีการขยายสัดส่วนของพื้นที่ที่เป็น Sustainable Raw Material เพิ่มขึ้น

ได้รับการรับรอง Carbon Credit จาก T-VER และมาตรฐาน IRECs

ได้รับ ESG Rating ระดับ AAA จาก Nonrate และรางวัล SET Best Sustainability Awards รวมถึง Gold Medal จาก EcoVadis และรางวัล Go Partner จาก Apollo

Revenue เพิ่มขึ้น Gross Profit Margin และ Net Profit Margin ดีขึ้น โดย Rubber มีสัดส่วนประมาณ 88%

Rubber Business ได้ปัจจัยบวกจากการขยายกำลังการผลิต ทำให้มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น และเป็นการขายที่มี Premium เนื่องจากรองรับ EUDR ราคายางมีการขยับสูงขึ้น ทำให้ได้ผลดีทั้งปริมาณและราคา

สัดส่วนการขายส่งออกอยู่ที่ประมาณ 66% จากปกติ 50% และ EUDR Grade อยู่ที่ประมาณ 47% ใน Q4

Palm Oil ได้รับผลกระทบจาก El Nino ทำให้ปริมาณวัตถุดิบน้อยลง แต่สามารถสรรหาเมล็ดในปาล์มได้มากขึ้น ทำให้ CPO เติบโต 18%

Renewable Energy Business มีสัดส่วน Organic Waste Management สูงขึ้น 36% Biogas เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งมาจากการขยายและรับรู้รายได้เพิ่มเติมใน Q4

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

ขยายกำลังการผลิตยางแท่งให้เป็นไปตามแผน

ขยายโรงงานไฟฟ้าชีวมวล และการผลิตพลังงานชีวภาพ

ขยายตลาดยุโรปและอินเดียมากขึ้น โดยลดสัดส่วนในประเทศลงเล็กน้อย

ขยายในส่วนของภูมิภาคและลูกค้ารองรับ EUDR

ขยายธุรกิจไปยังอินเดีย โดยตลาดยุโรปยังรักษาวอลุ่มไว้ได้

โรงงานยางล้อจากจีนในไทยขยายกำลังการผลิต ทำให้มีโอกาสขายในประเทศมากขึ้น

การลงทุนใน EFB เพื่อผลิตไฟฟ้าเอง ช่วยลดต้นทุนค่าไฟและค่าขนส่ง

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ผลกระทบจาก El Nino ต่อธุรกิจปาล์มน้ำมัน ทำให้ผลผลิตน้อยลง

โครงสร้างราคาที่ไม่ปกติ ทำให้เมล็ดปาล์มที่หามาผลิตได้น้อยกว่าที่ควร

ค่าไฟมีรายได้ที่ผลตอบแทนต่ำกว่า Biogas ในบางช่วง

ปัญหา Geopolitical และเศรษฐกิจในบางพื้นที่ที่ยังเป็นปัญหาในการขยายตัว

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
  • Biogas: ขาย Biogas ให้กับ GGC ที่เพิ่มขึ้น เริ่มตั้งแต่พฤศจิกายน 2567 และจะขายต่อเนื่องทั้งไตรมาสในปี 2568
  • Palm Oil: ติดตั้งมอหนึ้งและ Boiler ใหม่ คาดว่าจะเห็นภาพ Turnaround ของปาล์มชัดเจนขึ้นในไตรมาส 2 เป็นต้นไป
  • จัดการค่าไฟ: บริหารจัดการโดยขายแบ่งสัดส่วนตามผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งอาจมีการสลับ Ratio ได้
  • ตั้งสำรองด้อยค่า: ในสายธุรกิจปาล์ม เพื่อช่วยลดภาระการตั้งค่าเสื่อมปีละประมาณ 30 ล้านใน 3 ปีข้างหน้า

การกระจากความเสี่ยงโดยการกระจายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ

การทำ Climate Resilience ลดผลกระทบจากปัญหาเรื่องสภาพภูมิอากาศ

การเตรียมแหล่งน้ำให้เพียงพอสำหรับการผลิต

การทำ Green Transition

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
  • Capacity Expansion: ยังสามารถรักษา Capacity Expansion เป็นไปตามแผนที่แจ้งไว้ตั้งแต่ตอนเข้าตลาด
  • แผน Expansion: จะ Complete แผน Expansion ทั้งหมดภายในปี 2568
  • ตลาดรถยนต์: Ultimate Demand ของยางแท่งยังอยู่ในสภาพที่ดี
  • ราคาปาล์ม: คาดว่าจะเริ่มมีปาล์มออกมาในเดือนมีนาคม และราคาจะขยับลงบ้างในไตรมาส 2
  • การขาย: มุ่งเน้นการขาย EUDR ที่มี Premium สูงกว่า Non-EUDR
  • ปี 2573: ตั้งเป้าที่จะเป็น Carbon Neutrality
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A Session ที่นาที 34:22]
  1. แนวโน้มผลประกอบการ Q1/2568:
    • Q on Q: อาจโตขึ้นไม่เยอะ ประมาณ 5%
    • Year on Year: โตขึ้นประมาณ 45%
    • สาเหตุที่ Q on Q โตไม่เยอะ: มีตัวเลขที่ยกมาจาก Q ที่แล้วมาอยู่ใน Q นี้
  2. Backlog ในมือ:
    • Stock ปัจจุบัน: เก็บไว้สำหรับรองรับการผลิตประมาณ 3 เดือน (เนื่องจากเป็นช่วงฤดูเปิดกรีดของฤดูใหม่)
    • ยอดขาย Stock: ขายไปแล้วประมาณ 90% เหลือ 10% เก็บไว้ขาย Spot
  3. แผนการดำเนินงานและเป้าหมายรายได้ปี 2568:
    • เป้าหมายรายได้: ประมาณ 22,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 40%
    • แผนการดำเนินงาน:
      • ขยายกำลังการผลิตยางแท่งให้เป็นตามแผน (จาก 390,000 ตัน เป็น 432,000 ตัน)
      • ขยายโรงงานไฟฟ้าชีวมวล
      • ขยายการผลิตในเรื่องของพลังงานชีวภาพ และในเรื่องของการบริหารจัดการกากอินทรีย์
      • งบลงทุน: 60% จะเป็นในส่วนของการขยายใน Part ของธุรกิจที่เป็นพลังงานทดแทน และรับบริหารจัดการกากอินทรีย์
  4. ปัจจัยบวกสำหรับการขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568:
    • การเติบโตและการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องของโรงงานยางล้อรถยนต์ของจีนในประเทศไทย
    • การเติบโตของตลาดอินเดีย ที่ลูกค้ามีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้น
    • El Nino ที่เคยรุนแรงในปีที่ผ่านมา ปีนี้คาดว่าจะ Neutral มากขึ้น
    • ความต้องการของกลุ่มโรงงานที่ผลิตยางล้อ EV ที่มีความต้องการในส่วนของตัววัตถุดิบเพิ่มมากขึ้น
  5. ปัจจัยลบที่ต้องระวัง:
    • พื้นที่ที่ยังมีปัญหาเรื่องของ Geopolitical
    • ปัญหาเศรษฐกิจในบางพื้นที่ ที่ยังเป็นปัญหาเรื่องของการขยายตัว
  6. กลยุทธ์ในการดำเนินงาน:
    • ดูในเรื่องของการที่ในขณะที่เราทำเรื่องของ Sustain
    • Sustainability เป็นปัญหาของ Climate ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่กระทบแค่ประเทศไทย หรือแค่ธุรกิจ แต่มันเป็นปัญหาที่กระทบต่อทั้งโลก
    • การทำ Sustainability เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ในขณะเดียวกันการทำ Sustainability ต้องสามารถที่จะสร้าง Bottom Line ให้กับบริษัทได้
    • นโยบายของบริษัท: การทำ Sustainability through Profitability Model
    • สนใจเรื่องของการเป็น Low Carbon Supply Chain
    • ทุกๆ การขยายกำลังการผลิต จะต้องสร้างผลกระทบกับโลกลดลง จะต้องใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันจะต้องลด Cost Production Cost ลงได้
    • สนใจที่จะเปิดรับ หรือ Explore New Area ที่เราจะเข้าไปทำธุรกิจ
  7. แผนปี 2568:
    • งบลงทุน: ประมาณ 1,000 ล้านบาท
    • 60% จะเป็นในเรื่องของการต่อยอดธุรกิจที่เป็นพลังงานทดแทนและการรับจัดการกากอินทรีย์
    • 30% จะเป็นในส่วนของการขยายธุรกิจยาง
    • 10% จะเป็นการ Turnaround ธุรกิจปาล์มน้ำมัน
    • แหล่งเงินทุน:
      • RE ของเราส่วนหนึ่ง
      • Bank Loan
      • Spin Off ในส่วนของบริษัทลูก คือ Thai Eastern Bio Power (TEBP)
  8. ภาพรวมอุตสาหกรรมปัจจุบันและหลังจากนี้:
    • ทุกๆ ธุรกิจก็ถือว่ายังมี Uncertainty อยู่
    • สิ่งที่บริษัททำ: ทำอย่างไรให้เรามีการรองรับในเรื่องของความผันผวนและความผันแปรให้ได้มากที่สุด
    • สิ่งที่เตรียมรองรับ:
      • การทำ Climate Resilience
      • ลดผลกระทบที่จะเกิดจากปัญหาเรื่องสภาพภูมิอากาศ
      • เตรียมแหล่งน้ำให้เพียงพอสำหรับกระบวนการผลิต
      • ทำ Green Transition
    • ธุรกิจที่อยู่ใน Certain Area: เช่น จีน อินเดีย ยังมี Growth อยู่ในส่วนของส่วนนี้
    • ธุรกิจของทางยุโรป: ถึงแม้ว่าจะชะลอในส่วนของตลาดยุโรป แต่ว่าใน Area นอกยุโรป ก็ยังมีในเรื่องของอัตราการ Growth ตามแผนปกติ
  9. โครงสร้างราคายางแท่ง EUDR ปัจจุบัน:
    • ในอดีต: มาจาก RAT Index บวก Cost Plus
    • ปัจจุบัน: ประเทศไทยไม่ได้มีการประกาศ RAT Index ทำให้ลูกค้าต้องกลับไปใช้เป็น Sicom
    • การใช้ Sicom: ลูกค้าอ้างอิงโครงสร้างราคาจาก RAT Index ไป Convert เป็น Sicom บวก Premium
    • ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น:
      • อัตราแลกเปลี่ยน
      • การใช้ Sicom จะใช้ราคายาง Average จากหลายๆ ประเทศ ทำให้ต้องดูว่าถ้ามันมี Gap ของราคาระหว่างราคา Sicom กับราคาวัตถุดิบในประเทศไทย ตรงนี้ถือว่าเป็น Gap ที่ต้องแบกรับความเสี่ยงเพิ่มเติม
    • EUDR: ยังมี Premium Over Non-EUDR
  10. ผู้บริหารมองความเสี่ยงจากนโยบาย Trump:
    • อเมริกา: อาจจะยังไม่พร้อมเกี่ยวกับการรองรับมาตรการ EUDR
    • EU: ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเลื่อน และลูกค้ายุโรปก็ยังซื้อ EUDR อยู่ 100%
    • ลูกค้ากลุ่มประเทศอื่นๆ: เริ่มกลับเข้ามาถามหาที่จะทดลองใช้ EUDR ใน Quarter 3
  11. ผลกระทบหาก EUDR ถูกยกเลิก:
    • การลงทุนด้าน EUDR: ไม่ใช่ลงทุนแค่ EUDR แต่ลงทุนเรื่องของ Traceability และการช่วยเหลือเกษตรกรในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเขา
    • การเป็นผู้นำในการผลิต Sustainable Material: ลูกค้ายุโรปยังให้ Premium อยู่
    • อนาคต: ถึงแม้ว่าไม่มี EUDR แต่การทำ Traceability Raw Material ยังถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ
    • ระบบที่ลงทุนไป: สามารถใช้ระบบต่อได้ และยังสามารถที่จะสร้างในเรื่องของความเป็น Premium ที่จะเป็นในเรื่องของ Sustainable Material ได้
  12. ปริมาณผลผลิตปาล์มปีนี้:
    • จะขยายกำลังผลิตจากที่ได้ประมาณ 800-900 ตันต่อวัน เป็นประมาณ 1,200-1,500 ตันต่อวัน
    • เป็นเหตุผลหนึ่งที่มองว่าธุรกิจปาล์มจะมีการ Turnaround ในปีนี้
  13. เป้ารายได้ปีนี้:
    • 22,000 ล้านบาท
    • ปีหน้า: ขอทำแผนกลยุทธ์และจะแจ้งให้ทราบอีกรอบ
  14. ผลของการ Spin Off:
    • การลงทุนของบริษัท: จะมีการลงทุนในสายธุรกิจพลังงานที่ค่อนข้างสูง
    • TP: จะสามารถระดมทุนด้วยตัวเองในการขยายกิจการ
    • ลดภาระของ TGH: ในการที่จะต้องใช้ใส่เงินทุนภายในเพื่อสายธุรกิจพลังงาน
    • สามารถที่จะเก็บเงินทุนส่วนหนึ่ง: เพื่อขยายในธุรกิจยางกับปาล์มที่มีแผนจะขยายในอนาคต
  15. เป้าขาย EUDR ปีนี้:
    • Q1-Q2: น่าจะอยู่ที่ประมาณ 30%
    • Q3-Q4: อาจจะขยับไปอยู่ที่ประมาณ 45-50%
  16. ข่าวคณะจาก Côte d'Ivoire เยี่ยมบริษัท:
    • ไม่ได้ปิดกั้นในเรื่องของโอกาสการลงทุนต่างๆ
    • มีหลายท่านและหลายโรงงานที่สนใจ ซึ่งตรงนี้เราก็ถือว่าไม่ปิดกั้น แต่ว่าจะต้องขอศึกษาเรื่องของความเสี่ยง และในเรื่องของความคุ้มค่าของการลงทุน
  17. ธุรกิจปาล์มจะสามารถทำกำไรได้หรือยังในปีนี้:
    • น่าจะเป็นตัวที่ทำกำไรได้ดีขึ้น
    • ปาล์มจะเป็น Seasonality มีช่วงต่ำและช่วงสูง
    • ในช่วงที่สูงใน Q2-Q3: มีการขยายกำลังผลิต ซึ่งจะทำให้มีกำไรใน Q2-Q3 น่าจะปรับตัวดีขึ้น
    • ปีที่ผ่านมา: ราคาวัตถุดิบกับราคาสินค้าสำเร็จรูปของ CPO กับ CPO ไม่ค่อยสมดุล ปีนี้จะเห็นสมดุลมากขึ้น
    • ทั้งสองปัจจัย บวกกับการทำพวก Biomass ด้วย จะเพิ่ม Value ให้กับสายธุรกิจปาล์ม
  18. มองสถานการณ์ยางปีนี้ปีหน้า:
    • ปีที่ผ่านมา: ผลผลิตยางพาราของประเทศไทยลดลงเล็กน้อย (4%)
    • ปีนี้: อาจจะลดลงอีกประมาณ 3-4%
    • ปีหน้า: อาจจะต้องรอดูสถานการณ์ แต่ปีนี้ผลกระทบทางภาคตะวันออกไม่มาก แต่ทางภาคใต้ยังมีในเรื่องของฤดูฝน
    • ปีหน้า: ถ้าไม่มีผลกระทบของ El Nino และ La Niña อย่างรุนแรง ก็น่าจะ Neutral
  19. IPO บริษัทลูก มีแบ่งสันให้รายย่อยไหม
    • เดี๋ยวตรงนี้เนี่ยเราคงจะคุยกับทางผู้จัดจำหน่ายอีกทีนึง ซึ่งก็คงจะคล้ายๆ ทั่วไปที่มีทั้งเป็นสถาบันและก็เป็นรายย่อยนะครับ แล้วก็มีส่วนนึงที่เราจะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นของ TEGH ด้วยครับ
  20. บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ไหม
    • มีการทำ Rating อย่างต่อเนื่องนะครับ ปัจจุบันเราก็ได้ Triple B ลบอยู่ แล้วก็มีการเปรียบเทียบกับเงินกู้ระยะสั้นกับระยะยาวที่เราใช้ อยู่ปัจจุบันนะครับ แต่ตอนนี้ถ้าดูโดยความเหมาะสมและอัตราดอกเบี้ยแล้วเนี่ยเรายังคิดว่ายังใช้เงินกู้จากธนาคารเนี่ยจะเหมาะสมกับเรามากกว่าในตอนนี้ครับ
  21. รายได้ QonQ ในไตรมาสที่เราอัพเดทไว้ในไตรมาสสาม ไตรมาสสี่โตสิบสองเปอร์เซ็นต์น้อยกว่าประมาณการหรือไม่ อย่างไร
    • จริงจริงแล้วในไตรมาสสี่เนี่ยถ้าดูตัวเลขดีดีเนี่ยเราจะมีตัว Pending เนื่องจากว่าอย่างที่แจ้งให้ทราบว่าเราส่งออกเยอะขึ้นในปีที่ผ่านมาแล้วก็ตอนที่เราตัดไตรมาสเนี่ยยอดที่เราส่งขายเป็นลักษณะของ CIF แล้วก็ DAP เนี่ยจะยังไม่สามารถรับรู้รายได้ในไตรมาสนั้นแล้วก็ในไตรมาสสี่เนี่ยเรามียอดตรงเนี้ยอยู่ถึงหนึ่งหมื่นตัน
    • ถ้า Include ตัวนี้เข้าไปแล้วจริงๆ ยอดที่ส่งออกนี้คือเป็นไปตามเป้า
  22. ค่าใช้จ่ายในการขายบริหารเพิ่มขึ้น
    • การส่งออกเนี่ย ทุกๆ กิโลที่เราส่งออกเราต้องจ่ายค่า Sales เพราะฉะนั้นการที่เราส่งออกมากขึ้นมันก็จะมีค่าใช้จ่ายตรงเนี้ยสูงขึ้นตามสัดส่วนก็คือกิโลละสองบาทค่า Sales
    • ผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึน
      • ปรับทุกๆ สามปี เนื่องจากเรามีการแก้ไขกิจการแล้วก็มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นนะครับก็เลยต้องมีการตั้งส่วนนี้เพิ่มขึ้นด้วยครับ
  23. บริษัทมีการจัดสรรงบลงทุนด้าน ESG อย่างไร ทำให้ Performance ของเราเนี่ยได้รับเรตติ้งที่เป็น Triple A
    • ส่วนใหญ่เนี่ย ESG หรือว่า Sustain ของทางไทยอีสเทิร์นเนี่ย มันจะอยู่ในแผนกลยุทธ์เพราะฉะนั้นเนี่ยทุกๆ แผนกลยุทธ์เนี่ยเราจะมี มี มีในเรื่องของการแผนการลงทุนแล้วก็ดูเรื่องของความคุ้มค่าการลงทุนเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเป็นงบ ESG โดยเป็นการแบบลักษณะ Expense เนี่ยเราไม่มี แต่เรามีเรื่องของการลงทุนด้าน ESG เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าอย่างปีนี้ที่เรามีการขยาย
    • การขยายการผลิตยางแท่ง อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับ ESG เพราะว่ามันทำให้เราเนี่ยสามารถขยายการผลิตพลังงานทดแทนแล้วก็มีสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น เรามีการขยายในเรื่องของการทําไบโอแมส Power Plant อันนี้ก็คือได้ประโยชน์สองต่อด้าน ESG ด้วยด้านผลตอบแทนการลงทุนด้วยแล้วก็รวมถึงการเป็นเอ่อการเป็น Carbon Neutral ด้วยเพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าของเราเนี่ยเป็น ESG by strategy ไม่ใช่เป็น EXC expenses นะคะ
  24. แนวโน้มตลาดปีนี้:
    • มองว่าเรายังสามารถ Growth ได้
    • ยังมอง Growth ของของประเทศไทย อย่างของจีนอย่างของอินเดียแล้วก็ยังสัดส่วนที่มีการขายอยู่เราคิดว่าเรายังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในเรื่องของการเป็น Premium Quality ได้นะครับ
  25. Supply ปีนี้:
    • ลดลงเล็กน้อย น่าจะไม่กระทบมากเท่าไหร่ อยู่ที่ไม่เกินห้าเปอร์เซ็นต์นะครับ
  26. โครงการขยายการผลิต ถึงไหนแล้ว
    • ถ้าเป็นในส่วนของยางแท่งที่ขยายกําลังการผลิต เราขยายเสร็จแล้วตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้วก็ปีนี้เหลืออีกหนึ่งเตานะครับซึ่งก็ขยายภายในปีนี้แล้วก็จะเสร็จภายในสิ้นปีแล้วก็ Commissioning ภายในคิวหนึ่งปีหน้านะคะ
  27. ราคาปาล์มปรับตัวลดลงมีผลกระทบอย่างไรไหมคะ
    • ก็จากปัญหา Stock ยางที่มี Stock ปาล์มที่มีลดลงก็จะขึ้นเดี๋ยวราคาจะลดลงเนี่ยก็คือเริ่มผลิตปาล์มออกมาซึ่งตรงนั้นเนี่ยจะเป็นผลดีกับเราที่โครงสร้างราคาระหว่าง อ่าทะลายปาล์มเปล่าเอ๊ยทะลายปาล์มสดกับ CPO เนี่ยจะดีขึ้นซึ่งจะทําให้ Gap Margin เราดีขึ้นด้วยในราคาปาล์มที่ลดลงอะครับ
  28. ถ้าราคายางขึ้นและขยายกําลังการผลิตเสร็จบริษัทมีแผนการจัดการ Working Cap มา Support อย่างไรนะคะ
    • Working Cap ส่วนแรกเนี่ยจริงๆ แล้วเนี่ยเรามีในเรื่องของตัว Working Cap เนี่ยรองรับไว้แล้วนะคะจนแผนขยายถึงสิ้นปีตอนนี้เราไม่มีปัญหาเรื่อง Working Cap แล้ว แล้วก็ประกอบกับว่าเดี๋ยวถ้าเรามีการในเรื่องของตัว Spin Off ตามแผนเนี่ยเราก็จะสามารถที่จะเอ่อมี เงินนะคะจากบริษัทลูกนะคะเข้ามาบริษัทแม่ส่วนนึงสําหรับรองรับในการโอกาสที่เราจะไป Explore จากเอเรียอื่นๆนะคะ แล้วก็ประกอบกับว่าณ ปัจจุบันนี้เองเนี่ยเราเราเรายังได้รับการ Support ก็คิดว่าเราก็ยังมีทั้งเรื่องอยู่ในเรื่องของ Support ก็ทั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอ่อธนาคารเรื่องของการที่เรา Spin Off รวมถึงแผนถ้าเราจะไม่พอเราก็สามารถออกพื้งกู้ได้นะคะ
  29. การ Spin Off ทำให้เกิด Dilute ไหม
    • ในกำไรที่เรามองเนี่ยหลังจากที่ขยายเนี่ยจะโตขึ้นเพียงพอนะครับ ซึ่งกำไรที่กลับมาที่แม่เนี่ยก็จะไม่ได้ตกลงนะครับ
    • การ Spin Off ของเราตอนนี้เองเนี่ยมันเป็นการ Spin Off เพราะว่าเนื่องจากว่าธุรกิจพลังงานทดแทนของเราเนี่ยค่ะ ตอนที่เราเข้าตลาดเนี่ยเราวางแผนว่าเขาจะ Growth แต่ปรากฏว่าการ Growth ของเขาเนี่ยสูงกว่าที่เราประมาณการไว้ อันนี้คือเหตุผลนึงที่เรามองว่าเออเราอยากจะเห็นเขาเนี่ยเติบโตได้ในในๆ ในสภาพธุรกิจที่เขาสามารถทำได้ดี แล้วก็ธุรกิจตัวนี้เองเนี่ยตอนที่เราทำประมาณการไว้ตอนที่เราเข้าตลาดเนี่ยเอ่อสัดส่วนของกำไรที่มาจากธุรกิจตัวนี้เองเนี่ย แล้วถ้าสมมุติเรา Spin Off ไปเนี่ยกลับเห็นว่ากำไรที่จะกลับมาที่แม่เนี่ยมากกว่าที่เราทำประมาณการเอาไว้ด้วย เพราะฉะนั้นเนี่ยการ Spin Off รอบนี้เองเนี่ยเป็นการ Spin Off เพื่อ Unlock การเติบโตเพื่อให้เรามองว่าธุรกิจตรงนี้เนี่ยถือว่าเป็น New S curve นะคะแล้วก็จะเป็นธุรกิจซึ่ง เขามี Profit Margin ที่ค่อนข้างดีนะคะแล้วก็มีในเรื่องของความเป็น Stable ในเรื่องของตัว Revenue กับตัว Profit แล้วก็ในการลงทุนของเขาเนี่ยเขาใช้เงินลงทุนเยอะแต่ว่าเขาสามารถที่จะสามารถทำกำไรได้ในระยะยาวนี่คือเหตุผลที่เรา Spin Off นะคะ
  30. ราคาปาล์ม เพราะอะไร ราคาปาล์มถึงสูงขึ้น แล้วมองอนาคต ราคาปาล์มเป็นอย่างไร
    • ราคาปาล์มที่เพิ่มสูงขึ้นเนี่ยก็คือเป็นไปตามปัจจัยอันดับแรกเลยก็คืออินโดนีเซียนะคะที่มีการประกาศนะคะในเรื่องของการใช้สัดส่วนเอ่อไบโอดีเซลนะคะเพิ่มมากขึ้นทำให้เขาเนี่ยต้องใช้ปาล์มน้ำมันในประเทศมากขึ้นแล้วเขาก็มีการชะลอเรื่องของการอ่าส่งออกนะคะทำให้ปัจจุบันนี้เองเนี่ยส่วนที่สูงขึ้นเพราะว่าราคาปาล์มน้ำมันเนี่ยมัน Short ในตลาดแล้วก็ราคาปาล์มก็เลยสูงกว่าราคาน้ํามันถั่วเหลืองแต่ว่าณ ปัจจุบันนี้เองนะคะสถานการณ์ก็เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วนะคะ อนาคตเป็นอย่างไรก็จะเป็นไปตามดีมานซัพพลายนะคะแล้วก็เป็นไปตามกลไกตลาดนะคะ
  31. ไตรมาส 1/2568 เราโต เพราะอะไร
    • ขยายกำลังการผลิต
    • ไพรซ์ที่โตขึ้น
  32. คาดว่าการมาของ Trump ส่งผลให้มีการเลื่อนบังคับ EUDR ต่อไปหรือไม่:
    • ตอบไปแล้ว
  33. ผู้บริหาร มองแนวโน้มราคายางปีนี้เป็นอย่างไร:
    • ประมาณการไว้ว่าราคายางน่าจะอยู่ที่ Range ประมาณอยู่ที่หกสิบห้าถึงเจ็ดสิบบาทนะคะ ก็คือจะสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมานะคะ
  34. ปกติ Yill ในการผลิตของเราเทียบกับโรงงานอื่นในไทยหรือทั่วโลกเป็นอย่างไรในทุกๆ BU
    • BU ยาง น่าจะเป็นในเรื่องของตัว Gross Profit กับ Net Profit ถ้าเทียบกับใน Peer นะคะ แล้วก็มองว่า ถ้าเป็นใน Peer ใน Peer ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดียวกันแล้วก็อยู่ในเอ่อ Production เอ่อในเรื่องของตัว ตัว Product เอ่อในๆ ใน Category เดียวกันเนี่ยเราก็มองว่า Performance ของเราเนี่ยค่อนข้างที่จะอยู่ในระดับที่สูงกว่า Average นะคะของ Industry Average นะคะ
    • BU ปาล์มน้ำมัน อันนี้ต้อง ต้อง ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าคือธุรกิจปาล์มน้ำมันเนี่ยมันเป็นเอ่อ Yill หลักๆ เนี่ยมันมาจากสวนแล้วก็มาจากตัวคุณภาพวัตถุดิบซึ่งทางมาเลเซียเองเนี่ยเขาก็จะได้ Yill ที่ดีกว่าเนื่องจากว่าปริมาณน้ำฝนที่ดีกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยเราก็มองว่าในการทำธุรกิจปานน้ํามันเนี่ยก็ถือว่าเขาเป็นต้นตอของที่เราเนี่ยสามารถที่จะเอามาใช้พลังงานเพื่อที่จะให้เกิดเป็น Green Transition ได้แล้วก็อยู่ในแผนที่เรา Spin Off อยู่ในแผนที่เราจะ จะ Turn Around เขา ก็ขอบคุณนะคะ สวัสดีค่ะ

โดยสรุป, TEGH ประสบความสำเร็จในปี 2567 ด้วยผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่น และมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนเพื่อขยายธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยเน้นการเติบโตในธุรกิจพลังงานทดแทน และการเป็นผู้นำด้าน Sustainable Material