TEGH
บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

OK ครับ ตามคำขอ สรุป Oppday TEGH ปี 2568 ไตรมาส 3 ภายใต้หัวข้อที่กำหนด ดังนี้ครับ

TEGH โชว์ผลงาน Q3/68 ยังแกร่ง! เดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทน มุ่งสู่ Net Zero

สรุปผลการประชุม Oppday ของ บมจ. ไททัน ไทซัน กรุ๊ป โฮลดิ้ง (TEGH) นำเสนอโดยคุณสินีนุช โกกนุทาภรณ์ (กรรมการผู้จัดการ) และคุณวงศกร เขียมศิริพงษ์

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

  • TEGH ยังคงดำเนินธุรกิจหลักด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร (ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน), การจัดการกากอินทรีย์, และผลิตพลังงานชีวภาพ
  • 9 เดือนล่าสุด รายได้เพิ่มขึ้น 37.2% YoY และ Net Profit เพิ่มขึ้น 14.2% YoY
  • โครงสร้างรายได้: ธุรกิจยางพารา 85%, ปาล์มน้ำมัน 14%, พลังงานทดแทน 1%
  • ธุรกิจยางพารามีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 27.2% จากการขยายกำลังการผลิต (เตา 4, เตา 5)
  • ธุรกิจปาล์มน้ำมัน: ผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบลดลง 1.1% แต่ CPO เพิ่มขึ้น 26.5%
  • ธุรกิจพลังงานทดแทน: รายได้จากการขายพลังงานชีวภาพเพิ่มขึ้น 106% YoY
  • สัดส่วนการส่งออกเฉลี่ย 61%, EUDR 37%

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

  • การขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้พลังงานชีวภาพ
  • การทำ Sustainable Supply Chain และขอการรับรอง เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
  • การขยายกำลังการผลิต Block Rubber (เตา 7) และ Plant ปาล์มน้ำมัน
  • การรับบริหารจัดการกากอินทรีย์จากภายนอกเพิ่มขึ้น และ ขายพลังงานชีวภาพมากขึ้น
  • การ Commissioning บ่อใหม่ คาดว่าจะเพิ่มปริมาณการรับกากอินทรีย์เป็น 1.1 ล้านตันภายในปี 2570

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

  • ราคา Commodity (ยางแท่ง, น้ำมันปาล์ม) มีความผันผวน
  • ความไม่แน่นอนของ EUDR (เลื่อนบังคับใช้) ส่งผลต่อแผนการตลาด
  • ภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม) อาจกระทบต่อผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมัน
  • ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มสูงขึ้น (ในภาพรวมอุตสาหกรรม)

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

  • Diversify Port ธุรกิจและกลุ่มลูกค้า (จีน, อเมริกา, ยุโรป, อินเดีย)
  • เพิ่มสัดส่วนการขายให้ลูกค้าจีน หาก EUDR เลื่อน
  • ลดกำลังการผลิตไฟฟ้า และ ขายพลังงานชีวภาพมากขึ้น (Margin ดีกว่า)
  • ลด Stock Inventory เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาผันผวน
  • ลดต้นทุนการผลิตโดยการ Scale up การผลิต

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

  • TEGH ตั้งเป้ารายได้ปี 2569 เติบโต 10%
  • ราคาขายยางพาราและปาล์มน้ำมันในปีหน้า คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีนี้
  • มุ่งเน้นการลงทุนในส่วนที่ต่อยอดธุรกิจและสร้างผลกำไร (Bottom Line)
  • ผลักดัน Low Carbon Supply Chain และ Net Zero Solution
  • ใช้ประโยชน์จาก Carbon Credit และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของ EU

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 32:55]

  1. EUDR เลื่อน จะกระทบอย่างไร?
    • EUDR เลื่อนไปบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2570
    • TEGH ยังคงแผนขาย EUDR สัดส่วน 40%
    • ลูกค้าบางส่วนชะลอซื้อ EUDR (Q3) แต่ลูกค้าจีนซื้อเพิ่ม (Q4)
    • ยุโรปอาจยังใช้ EUDR เหมือนเดิม, จีนอาจกลับมาใช้ EUDR ปลายปีหน้า
    • TEGH จะทำ EUDR โดยรักษา Cost Competitiveness และ Margin
  2. ตั้งเป้ารายได้และกำไรปีหน้าเท่าไร?
    • คาดรายได้ปีหน้าโต 10% (ปริมาณชัดเจน, ราคาต้องดู Sentiment)
    • Q3 ยางกำไรน้อย (ตาม Industry) แต่ TEGH ยังรักษาการทำกำไรได้
    • Q3 เป็น Low Season, ลูกค้า Wait & See, จีนหยุดยาว (Negative Margin)
  3. มองแนวโน้มราคายาง, ปาล์มปีหน้าอย่างไร?
    • ราคายางปีหน้ามอง 65+ (ใกล้เคียงปีนี้), ปาล์มรอปัจจัยใหม่
  4. กลยุทธ์ปีหน้าบริษัทจะทำอะไร?
    • ลงทุนเฉพาะส่วนที่ส่งผลต่อ Bottom Line
    • ขยายเตา 7 (ยาง), Plant ปาล์ม, Organic Waste 3.2
    • ทำ Low Carbon Supply Chain ให้เป็นรูปธรรม
    • มุ่งสู่ Net Zero Solution
  5. น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้กระทบอย่างไร? ราคายางจะสูงขึ้นหรือไม่?
    • ขอแสดงความเสียใจกับผู้ประกอบการและเกษตรกรภาคใต้
    • น้ำท่วมกระทบ 4.1 ล้านไร่, ผลผลิต 40,000 ตัน
    • ถ้าน้ำลดเร็ว (7 วัน) กลับสู่ภาวะปกติ, เหลือแค่ฟื้นฟู
    • ถ้าน้ำขัง+อากาศเย็น อาจเกิดใบร่วม, กระทบ Supply และราคา
  6. บริษัทลูกจะเข้าเทรดเมื่อไหร่? ขอทราบช่วงราคา
    • ได้รับอนุมัติ Filing จาก กลต. แล้ว
    • ความพร้อมต้นปีหน้า, กำหนดราคาตาม FA และ Book Building
  7. มีข่าวร่วมลงนามกับการยางฯ รับจ้างผลิตยางแท่ง?
    • ใช่, รับจ้างผลิตยางแท่ง 5,000 ตัน (Cap โรงงานมีจำกัด)
    • ช่วงธันวาคม (ลูกค้าเริ่มปิด), จะผลิตให้การยางฯ
    • คาดเซ็นสัญญา+เริ่มผลิตปลายสัปดาห์นี้, ส่งมอบต้นเดือนหน้า
  8. ปาล์มจะกลับมาทำกำไรเมื่อไหร่?
    • เริ่มเห็นการทำกำไรแล้ว แต่ยังต่ำกว่าแผน
    • Commissioning Boiler (รอ พรบ. อากาศสะอาด), จึงขยาย Capacity
    • ขยายเป็น 1,200 ตันผลปาล์มสด, ลด Cost + Economy of Scale
  9. ทำไมถึงมั่นใจกับ FA (KGI) ที่ใช้กับบริษัทลูก?
    • KGI มีหลายทีม, ทีมที่ทำ TBP มีประสบการณ์+ความสามารถ
    • กลต. อนุมัติให้ทีมนี้ทำเคส TBP ต่อได้ (ไม่เกี่ยวกับข่าว)
  10. ผู้บริหารตัดสินใจขายหุ้นเดิม?
    • ใช่, ขายหุ้นเดิมไม่เกิน 5% (ประกาศไว้)
    • TBP ขายหุ้นเพิ่มทุน 25%, TEGH ขายเพิ่ม 5% (รวมเป็น 30%)
    • TEGH แม่มีแผนลงทุน, ไม่มีแผนออกหุ้นกู้
    • Scale up Business ในอนาคต, สร้าง Ecosystem ของ TEGH
  11. ปริมาณการขายช่วงเดือน 11 เป็นอย่างไร? โตขึ้น YoY หรือไม่?
    • เดือน 11 ยังไม่ปิดงบ, แต่ปีนี้ทั้งปีโตขึ้นทั้ง QoQ และ YoY
  12. มองปัจจัยบวกและลบช่วงที่เหลือของปี 68-69 จะเป็นอย่างไรบ้าง? มีแผนรับมืออย่างไร?
    • (ลบ) น้ำท่วม (กระทบ Supply), EUDR เลื่อน (กระทบ Price Sentiment)
    • (ลบ) ลานิญ่า (Q4/68) -> เอลนิโญ่ (ปี 69) ต้องติดตาม
    • (บวก) CBAM บังคับใช้ (1 มกราคม 2569), ภาษีคาร์บอนเข้มข้น
    • (บวก) ภาษีคาร์บอน + ตลาดคาร์บอนในไทย + ETS จะส่งผลดีกับ TEGH (มี Carbon Credit สะสม + พรีเมียม อีกปีละ 1 แสนตัน), Low Carbon Product + Net Zero + Energy ใหม่ๆ
  13. ประเมินภาพปี 69 เป็นอย่างไร? ใช้กลยุทธ์อะไรในการขับเคลื่อนองค์กร?
    • ลงทุนในส่วนที่ Impact Bottom Line, ลด Cost (เตา 7, Organic Waste 3.2)
    • ทำ Low Carbon Supply Chain ให้เป็นรูปธรรม
    • สร้างรายได้จาก Low Carbon Supply Chain, ก้าวสู่ Net Zero
  14. มองภาพรวมอุตสาหกรรมอย่างไรในแง่ความต้องการซื้อและเศรษฐกิจ?
    • ความต้องการซื้อไม่ปัญหา, มีแต่ Price Volatility (ปกติของ Industry)
    • ราคายางน่าจะทรงตัว, ต้องดูผลกระทบจากน้ำท่วม
    • ต้นทุนผลิตของ Secter ทั่วไปสูงขึ้น, แต่ TEGH จะลดต้นทุนจากการ Scale Up

โดยสรุป TEGH ยังคงรักษาการเติบโตได้ดีในไตรมาส 3 ปี 2568 แม้จะมีปัจจัยท้าทายหลายด้าน บริษัทมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนา Low Carbon Supply Chain เพื่อรองรับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต