สรุป OPPDAY หุ้น RT
Oppday
สรุป OPPDAY
RT เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568: เติบโต 22% พร้อมลุยงานใหม่
สวัสดีท่านนักลงทุนและสื่อมวลชนทุกท่าน ในนามของบริษัท ไร้ท์ทันเนลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ขอต้อนรับทุกท่านที่เข้ามาร่วมรับฟังสรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 และทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/2568 ภายใต้งาน Opportunity Day ในวันนี้
ผู้บริหาร
- นายชวลิต ถนอมถิ่น: CEO
- คุณนาวิน ป้องแก้ว: รองประธานกรรมการ ดูแลเรื่องการบริหารจัดการ
- คุณปรเมศวร์ วัชิมา: Chief Financial Officer (CFO)
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
RT มี Core Business อยู่ 5 กลุ่มด้วยกัน:
- งานเจาะอุโมงค์และ Shaft (อุโมงค์ในแนวดิ่ง)
- การก่อสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน
- การก่อสร้าง Hydro Power Plant
- Pipe Jacking และ Horizontal Directional Drilling (ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ)
- งานอื่นๆ เช่น Slope Protection, ขุดระเบิดและขนหิน, งานเจาะสำรวจทางธรณีวิทยา, Foundation Grouting Work, ก่อสร้างถนนและสะพาน, Mining Work, รางรถไฟ, และ Design Service & Maintenance
ผลกระทบต่อธุรกิจ:
- เชิงบวก: การเร่งส่งมอบงาน, อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารต้นทุน, ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรและทีมงานเพิ่มขึ้น
- เชิงลบ: (ไม่มีการกล่าวถึงในภาพรวมนี้)
ตัวเลขทางการเงินและสถิติ: (จะกล่าวถึงในหัวข้อ Financial Highlight)
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
โอกาสทางธุรกิจที่ RT มองเห็น:
- การรับงานโครงการใหม่จากภาครัฐเพิ่มขึ้น (กรมชลประทาน, การรถไฟ, กรมทางหลวง, การทางพิเศษ, การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าฝ่ายผลิต)
- การขยายงานไปต่างประเทศ (เมียนมา, กัมพูชา) เมื่อสถานการณ์การเมืองนิ่ง
- การเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับเหมาช่วงเป็นผู้รับเหมาหลักในงานอุโมงค์ดินอ่อนกับภาครัฐ
- การใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (ประมวลผลเอกสาร, วิเคราะห์ข้อมูล)
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ความเสี่ยงที่ RT กำลังเผชิญอยู่ (ไม่ได้ระบุความเสี่ยงโดยตรง แต่มีนัยยะถึง):
- ความผันผวนของสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเพื่อนบ้านที่อาจกระทบต่อการขยายงาน
- การแข่งขันในการประมูลงานโครงการใหม่
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
วิธีการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบ:
- การวางแผนงานอย่างรอบคอบ, การใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง, การแต่งตั้งผู้บริหารเป็นผู้จัดการโครงการ
- การควบคุมต้นทุนอย่างเข้มข้นทั้งในสำนักงานใหญ่และหน้างาน
- การคัดเลือกโครงการที่สร้างผลกำไร
- การฝึกอบรมพนักงานให้ใช้เครื่องมือ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
แนวโน้มของธุรกิจในอนาคต:
- การเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก Backlog ที่มีอยู่และการรับงานใหม่
- การขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศ
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยเทคโนโลยี AI
Financial Highlight
ข้อมูลสำคัญทางการเงิน:
- รายได้รวม: ไตรมาส 3/2568 ทำได้ 996 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2567 ที่ 815 ล้านบาท)
- รายได้จากงานก่อสร้าง: 987 ล้านบาท (99% ของรายได้ทั้งหมด)
- รายได้อื่น: จากการขายวัสดุและรายได้อื่นๆ ประมาณ 9 ล้านบาท
- อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin): 16.1% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ 12-14%)
- กำไรสุทธิ: 4.7%
- EBITDA: 14.7%
- ROE (Return on Equity): ติดลบ (เนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยในไตรมาส 1 แต่มีแนวโน้มดีขึ้น)
- DE Ratio (Debt to Equity Ratio): 3.53 เท่า (ลดลงจากอดีต)
- IBDE (Interest Bearing Debt to Equity Ratio): 2.04 เท่า (ลดลง, ความเสี่ยงด้านสินเชื่อน้อยลง)
Business Opportunity
- Backlog: ณ สิ้นสุดไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 4,528 ล้านบาท (รับรู้ถึงปี 2572)
- งานใหม่ที่รอเซ็นสัญญา: 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,839 ล้านบาท (กรมชลประทาน)
- รวม Backlog ในเร็วๆ นี้: 7,367 ล้านบาท
แผนการออกหุ้นกู้ RT ครั้งที่ 1/2568
- ชนิด: ระบุชื่อผู้ถือ, ไม่ด้อยสิทธิ, ไม่มีประกัน, มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้, ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดได้
- อัตราดอกเบี้ยสูงสุด: 7.35% ต่อปี (จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน)
- เสนอขาย: 2 ชุด (ให้ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่)
- ระยะเวลาเสนอขาย: 1-3 ธันวาคม 2568
- ออกหุ้นกู้: 4 ธันวาคม 2568
- จองซื้อขั้นต่ำ: หน่วยละ 100,000 บาท
- วัตถุประสงค์: รองรับการจ่ายชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิม (RT262A) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569
- เงื่อนไขพิเศษ: เปิดบัญชี Escrow Account เพื่อรองรับการจ่ายชำระคืน (หากบริษัทไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนดในกุมภาพันธ์ 2569 จะคืนเงินผู้ถือหุ้นกู้ทั้งจำนวน)
- Rating: BBB+
- หุ้นกู้ชุดที่ 1: อายุ 2 ปี, ดอกเบี้ย 7.20% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2: อายุ 3 ปี, ดอกเบี้ย 7.35% ต่อปี
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 44:45]
สรุปคำถามและคำตอบในช่วงถาม-ตอบ:
1. ปัจจัยหลักที่ผลักดันกำไรในไตรมาส 3/2568 และ Momentum ที่ต่อเนื่อง
คำถาม: ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 เติบโตสูง ปัจจัยหลักที่ผลักดันกำไรคืออะไร และ Momentum ที่ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4 และปี 2569 เป็นอย่างไร?
คำตอบ (คุณชวลิต ถนอมถิ่น):
- การเร่งส่งมอบงานและความคืบหน้าที่ดีขึ้น ทำให้รับรู้รายได้ตามแผน
- อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารต้นทุน และงานบางโครงการมี Margin สูง
- ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรและทีมงานเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนลดลง
- Momentum ในไตรมาส 4 คาดว่าจะต่อเนื่องจากไตรมาส 3 และน่าจะดีขึ้น
2. กลยุทธ์หลักในปี 2569 ในการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน และควบคุมต้นทุน
คำถาม: กลยุทธ์หลักในปี 2569 ของ RT คืออะไร โดยเฉพาะการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานก่อสร้าง และการควบคุมต้นทุน?
คำตอบ (คุณนาวิน ป้องแก้ว):
- วางแผนงานอย่างรอบคอบและล่วงหน้า
- ใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง
- แต่งตั้งผู้บริหารเป็นผู้จัดการโครงการเพื่อติดตามอย่างต่อเนื่อง
- ควบคุมต้นทุนเชิงรุก ทั้งในสำนักงานใหญ่และหน้างาน
- คัดเลือกโครงการที่สร้างผลกำไร (โดยเฉพาะงานอุโมงค์)
3. แผนการเข้ารับงานในช่วงท้ายปี 2568 และปี 2569
คำถาม: แผนการเข้ารับงานในช่วงสุดท้ายของปี 2568 และปี 2569 มีงานอะไรบ้าง?
คำตอบ (คุณชวลิต ถนอมถิ่น):
- รอเซ็นสัญญางานกรมชลประทานที่เชียงใหม่ (คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในธันวาคม 2568)
- รอเซ็นสัญญางาน Slope ของชลประทานที่พะเยา
- รอประมูลงานหลายหน่วยงาน (การทางพิเศษ, การรถไฟ, การไฟฟ้านครหลวง, กทม.)
4. แผนการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่
คำถาม: แผนการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่นั้นเป็นอย่างไร?
คำตอบ (คุณนาวิน ป้องแก้ว):
- Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3/2568: 4,528 ล้านบาท
- งานใหม่ที่รอเซ็นสัญญา: 2,839 ล้านบาท
- รวม Backlog ในเร็วๆ นี้: 7,367 ล้านบาท
- คาดว่ากลางปี 2569 Backlog จะแตะหมื่นล้าน
- ทยอยรับรู้ตามความคืบหน้าแต่ละโครงการ (ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ ต่อเนื่องถึงปี 2572)
5. เป้าการเติบโตของปี 2568
คำถาม: RT ตั้งเป้าการเติบโตของปี 2568 ไว้เท่าไหร่?
คำตอบ (คุณปรเมศวร์ วัชิมา):
- คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าปี 2567
- ประมาณ 2-4%
6. กระแสตอบรับหุ้นกู้ และความมั่นใจในการชำระหนี้
คำถาม: กระแสตอบรับหุ้นกู้เป็นอย่างไร และมีความมั่นใจในการชำระหนี้อย่างไรบ้าง?
คำตอบ (คุณชวลิต ถนอมถิ่น):
- มี Demand ตอบรับอย่างต่อเนื่อง
- เป็นไปตามแผนที่วางไว้
- มั่นใจว่าจะสามารถชำระหุ้นกู้ได้สำเร็จตามที่ตั้งไว้
7. เงื่อนไขการเปิดบัญชี Escrow Account
คำถาม: อยากให้อธิบายเพิ่มเติมเรื่องเงื่อนไขการเปิดบัญชี Escrow Account?
คำตอบ (คุณปรเมศวร์ วัชิมา):
- วัตถุประสงค์: เพื่อรองรับการจ่ายชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิม (RT262A) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
- หากไม่สามารถชำระคืนได้ภายในกุมภาพันธ์ 2569 จะคืนเงินผู้ถือหุ้นกู้ทั้งจำนวน
8. เป้าหมายการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น และแผนการรักษา
คำถาม: มองอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2569 อย่างไร และมีแผนการรักษาอย่างไรบ้าง?
คำตอบ (คุณปรเมศวร์ วัชิมา):
- 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 12-14%
- ปี 2568 น่าจะอยู่ในช่วงนี้
- ปี 2569 คาดว่าจะแตะ 15%
- ปี 2570 น่าจะอยู่ที่ 16% ขึ้นไป
- แผนการรักษา: รับงานที่มี GP สูง, บริหารงานต้นทุนโครงการ, ควบคุมงานให้ส่งงานได้ตามแผน
สรุป: จากการประชุม Oppday ครั้งนี้ RT แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2568 ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ บริษัทมีความมั่นใจในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต