PTTGC
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday GC ปี 2567: กลยุทธ์ฝ่าวิกฤต ปิโตรเคมี สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีค่ะ วันนี้ GC จะมาพบกับท่านนักลงทุนผู้ถือหุ้น เพื่อนำเสนอผลประกอบการปี 2567 โดยจะแบ่งการพูดคุยเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ใหม่ ตัวเลขทางการเงิน และมุมมองต่อตลาด

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • ธุรกิจปิโตรเคมีอยู่ในช่วง bottom ของ cycle ธุรกิจกำลังเผชิญวิกฤตที่ค่อนข้างต่ำมาก
  • GC ทบทวนข้อได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อยืนระยะได้นานกว่าคนอื่น
  • ธุรกิจหลักของ GC ประกอบด้วยโรงกลั่น ซึ่งวัดกันที่ complexity ยิ่งโรงกลั่นมีความซับซ้อนสูง ต้นทุนการผลิตจะต่ำ และ margin จะสูง
  • โรงกลั่นของ GC มี complexity ที่ค่อนข้างสูง และสามารถปรับตัวตอบสนองต่อลูกค้าได้ดี
  • ธุรกิจปิโตรเคมี aromatic มีการปรับตัวโดยต่อยอดสายการผลิตให้ลงไปลึกถึง downstream ให้มากที่สุด เพื่อ capture และ diversify ความเสี่ยงของ business
  • olefin เป็นปิโตรเคมีที่มีน้ำหนักใน portfolio ของ GC ค่อนข้างเยอะ มีข้อได้เปรียบทางด้านต้นทุนการผลิต
  • feedstock ที่เป็น ethane เป็น base load ของ olefin ทำให้ cost curve ต่ำกว่า naphtha
  • GC มีความหลากหลายในการนำผลิตภัณฑ์ olefin ไปต่อยอด เช่น ธุรกิจ PE ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก
  • มีการตอบสนองเรื่องการผลิตและต้นทุนการผลิตที่ต่ำ พยายาม capture มูลค่าเพิ่มส่งสู่ลูกค้า
  • MEG ไม่ได้มีสัดส่วนใหญ่ แต่เป็นหนึ่งใน diversify ของการนำ olefin ไปผลิตต่อ
  • PVC และ PP เป็น JV มีการขายผลิตภัณฑ์ olefin ให้กับ JV partner ซึ่ง GC ร่วมลงทุนด้วย
  • PVC (AVT Vinythai) จะขึ้นสายการผลิตเพิ่มเติมในปี 2025
  • PP เป็น JV ที่ร่วมลงทุนกับ LyondellBasell
  • กำลังการผลิตของ GC สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • การสื่อสารกลยุทธ์แบบใหม่ โดย modify จากกลยุทธ์เดิม แต่เพิ่มความเข้มข้นเนื่องจากการแข่งขันรุนแรงขึ้น
  • สร้างความมั่นใจให้บริษัทโดยทำให้แต่ละกลุ่มกลยุทธ์มี champion ที่ชัดเจน
  • 5 pillars + 1 foundation:
    1. Portfolio Transformation: จัด portfolio โดยปิดตัวหรือขายธุรกิจที่ไม่ทำเงิน
    2. สร้าง competitiveness ให้ได้เปรียบในการแข่งขันตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง
    3. สร้างมาบตาพุดให้เป็น specialty hub
    4. ดูแล Onex ให้ deliver target และ share return ให้กับ shareholder
    5. balance ธุรกิจกับเรื่องการดูแลสังคม (net zero)
  • การขาย Wincoram จะกลับมาบวกเป็นกำไรในปี 2025
  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยการทำ value added หรือ performance uplift
  • มีการเซ็นสัญญา Ethane Import และสร้างเรือขนส่ง
  • ผลประโยชน์จากการนำเข้า Ethane คาดว่าจะได้ประมาณ 40 ล้านเหรียญต่อปี
  • สร้างมาบตาพุดให้เป็นศูนย์กลางผลิตภัณฑ์ specialty โดย invite partner เข้ามาตั้งโรงงาน
  • จับมือกับ Toray เพื่อศึกษาการผลิตเส้นใยจาก Bio
  • Onex ขยายกำลังการผลิต specialty ที่มาบตาพุด

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ช่วง bottom ของ cycle ธุรกิจปิโตรเคมี
  • การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
  • สภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้า
  • supply ที่มีมากกว่า demand

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • Portfolio Transformation: ปิดตัวหรือขายธุรกิจที่ไม่ทำเงิน
  • สร้าง competitiveness โดยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และปรับโครงสร้างการลงทุน
  • สร้าง Ethane Import เพื่อลดต้นทุน feedstock
  • สร้างมาบตาพุดให้เป็น specialty hub เพื่อดึงดูดนักลงทุน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • ตลาดน้ำมันดิบคาดว่าจะปรับตัวลดลงในปี 2025
  • refinery product spread ค่อนข้างไม่ต่างจากปีที่แล้วมากนัก
  • ตลาด aromatic คาดว่าจะยังคงฟื้นตัวช้า
  • olefin capacity ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A ที่นาที 54:32]

  • แผนการพิจารณาการขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก
    • บริษัทกำลังพิจารณาอยู่หลายตัว
    • จะจัดว่าตัวไหนจะหา partner คนไหนในการรับซื้อ
    • ระยะเวลาอาจจะเป็นคนละเวลากัน
    • วันนี้อาจจะยังเล่าใน detail มากไม่ได้
    • ติดตามการแจ้งข่าวอัพเดทต่างๆ จากทางบริษัท
  • งบลงทุนปี 2568 มีใช้ทำอะไรบ้าง
    • เป็นการจ่ายเพื่อ maintain plant ต่างๆ
    • เพื่อให้ run ได้ปกต
    • โดยปกติจะมีประมาณ 400 ล้านเหรียญ
    • อันนี้รวมทั้งกลุ่ม
    • มีส่วนเพิ่มที่เป็นงบลงทุนที่เป็น project by project
    • ซึ่งอนุมัติแล้วก็อยู่ใน pipeline ที่จะลงทุน
    • ก็อีก 200 กว่าล้านเหรียญ
    • รวมๆ แล้วก็ประมาณ 20,000 ต้นๆ ล้านบาท

    โดยรวม GC มีแผนที่จะลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับโครงสร้างการลงทุน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน