สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ในไตรมาส 3/2567 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 195.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.44 ล้านบาท หรือ 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการ "นิว ครอส คูคต สเตชัน" ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 2.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 91.68 ล้านบาท ลดลง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรขั้นต้นที่ลดลง โดยในไตรมาส 3 ปี 2567 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40.43 ล้านบาท หรืออัตรากำไรขั้นต้น 21% เทียบกับ 55.97 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้น 45% ในไตรมาส 3 ปี 2566

บริษัทมีแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยโครงการที่อยู่ระหว่างการขายประสบความสำเร็จตามแผน ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2567 โครงการ "เวหา หัวหิน" มียอดจองแล้ว 55% ของมูลค่าโครงการ โครงการ "รมย์ คอนแวนต์" มียอดจอง 62% โครงการ "วี อารีย์" มียอดจอง 33% และโครงการ "นิว ดิสทริค อาร์ 9" มียอดจองสูงถึง 97% บริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ "วี อารีย์" ในไตรมาส 4 ปี 2567 และโครงการ "เวหา หัวหิน" และ "นิว ดิสทริค อาร์ 9" ในปี 2568 และโครงการ "รมย์ คอนแวนต์" ในปี 2569 นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการที่กำลังจะเปิดตัวเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ มูลค่ารวมกว่า 9,200 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของรายได้ในอนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัท PROUD มี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 28.95 และ P/BV อยู่ที่ 0.8 ซึ่งโดยทั่วไป P/E ที่น้อยกว่า 35 แสดงถึงความคาดหวังของนักลงทุนอยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม P/BV ที่ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงมูลค่าของสินทรัพย์ของบริษัทมีมูลค่ามากกว่าราคาตลาด แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นของบริษัทฯ อาจถูกประเมินต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง นอกจากนี้ D/E ล่าสุดอยู่ที่ 5.63 สะท้อนถึงภาระหนี้สินที่สูง ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

โดยรวมแล้ว บริษัท PROUD มีโอกาสเติบโตในระยะยาว เนื่องจากมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังดำเนินการและกำลังจะเปิดตัวในอนาคต ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและมีศักยภาพในการเติบโต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับภาระหนี้สินที่สูง และอัตรากำไรขั้นต้นที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง การลงทุนใน PROUD เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาการเติบโตในระยะยาวและมีความเสี่ยงต่อผลกำไรที่ผันผวน