สรุปงบล่าสุด PQS
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**บทสรุปผลประกอบการของ บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด (มหาชน) (PQS)**
**ภาพรวมผลการดำเนินงาน**
บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช จำกัด (มหาชน) (PQS) รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2568 โดยมีรายได้รวม 1,485.6 ล้านบาท ลดลง 589.4 ล้านบาท หรือ 28.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีผลขาดทุนสุทธิ 46.9 ล้านบาท (หน้า 2)
**1. สรุปรายได้รวม**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 462.0 ล้านบาท ลดลง 40.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 (หน้า 5) และลดลง 10.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 (QoQ) (หน้า 5) สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณขายที่ลดลง 17.1% YoY เนื่องจากตลาดส่งออกชะลอตัว และราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ต่ำลง 22% YoY ในสกุลเงินบาท (หน้า 5) นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้อื่น ๆ เช่น รายได้จากการขายผลพลอยได้จากการผลิตแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเพิ่มขึ้น 95.6% YoY (หน้า 5)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ**
เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2568 ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ที่เริ่มบังคับใช้อัตราภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 โดยไทยถูกเก็บภาษีในอัตรา 19% ซึ่งต่ำกว่าจีน (หน้า 3) ภาคการส่งออกสินค้าเกษตรบางกลุ่มเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัว โดยเฉพาะยอดการส่งออกแป้งมันสำปะหลังซึ่งข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าในงวด 9 เดือนมีปริมาณลดลงราว 150,000 ตัน เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 3) จากอุปสงค์ในตลาดจีนและเอเชียที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดรวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดวัตถุดิบแป้งระดับภูมิภาค โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและลาวซึ่งเพิ่มการส่งออกไปจีนในปี 2568 (หน้า 3)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**
* **ต้นทุนขาย:** ในไตรมาส 3/2568 ต้นทุนขายรวมอยู่ที่ 467.3 ล้านบาท ลดลง 23.4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1.1% QoQ (หน้า 6)
* **กำไรขั้นต้น:** บริษัทมีกำไรขั้นต้นติดลบ (ขาดทุน) อยู่ที่ -5.2 ล้านบาท ลดลง 103.3% YoY และ 109.0% QoQ (หน้า 6) อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น -1.1% จาก 20.8% ในไตรมาส 3/2567 และ 11.2% ในไตรมาสก่อน (หน้า 6)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A):** อยู่ที่ 79.3 ล้านบาท ลดลง 1.4% YoY และ 13.4% QoQ (หน้า 6)
* **กำไร (ขาดทุน) สุทธิ:** บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 78.3 ล้านบาท ลดลง 198.6% YoY และ 231.7% QoQ (หน้า 7)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีสินทรัพย์รวม 2,707.3 ล้านบาท ลดลง 8.9% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 8)
* **หนี้สินรวม:** มีหนี้สินรวม 661.5 ล้านบาท ลดลง 16.9% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 9)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** มีส่วนของผู้ถือหุ้น 2,045.8 ล้านบาท ลดลง 6.0% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 9)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** เพิ่มขึ้นจาก 0.2 เท่า เป็น 0.3 เท่า (หน้า 10)
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:** มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด 214.5 ล้านบาท (หน้า 2)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม**
* **การหยุดดำเนินการชั่วคราวของโรงงานใหม่:** โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังแห่งใหม่ที่กาฬสินธุ์หยุดดำเนินการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบซ่อมบำรุงเครื่องจักร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 (หน้า 2)
* **การลงทุนในธุรกิจใหม่:** บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท จีแอนด์จี 2015 จำกัด จัดตั้ง "บริษัท พรีเมียร์โลจิกซ์ จำกัด" เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการขนส่งและควบคุมต้นทุนโลจิสติกส์ (หน้า 2)
* **การจ่ายเงินปันผล:** บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกปี 2568 ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น (หน้า 2)
* **การประเมิน CG Scoring:** บริษัทได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการประจำปี 2568 ในระดับ 5 ดาว หรือ "ดีเลิศ" จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) (หน้า 2)
* **โครงการเพื่อความยั่งยืน:** บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ Sojitz Corporation และบริษัทในเครือ Kaset DX (KDX) เพื่อร่วมมือในการพัฒนาเกษตรกรรมมันสำปะหลังอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคอีสาน (หน้า 11)
**โดยสรุป:**
ผลประกอบการของ PQS ในไตรมาส 3 ปี 2568 และงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากปัจจัยภายนอก เช่น การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตในต่างประเทศ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยภายในจากการขยายธุรกิจใหม่ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงผลการดำเนินงานในอนาคตผ่านการพัฒนาธุรกิจใหม่และการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
(10.70%)
(38.71%)
(109.05%)
(103.24%)
(110.12%)
(105.28%)
(13.42%)
(1.44%)
(233.97%)
(196.51%)
(57.94%)
(61.70%)