สรุปงบล่าสุด NEX
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) (NEX) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 206.50 ล้านบาท ลดลง 227.16 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 433.66 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เนื่องจากมีการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าน้อยลง (85 คัน เทียบกับ 46 คันในปีก่อน) และมีการรับคืนรถจำนวน 54 คัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 34.62 ล้านบาท โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจคอมพิวเตอร์และระบบซอฟต์แวร์ และธุรกิจให้บริการขนส่ง (หน้า 2)
สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 523.98 ล้านบาท ลดลง 2,610.80 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 3,134.78 ล้านบาท ในงวด 9 เดือน ปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เนื่องจากการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าน้อยลง (119 คัน เทียบกับ 638 คันในปีก่อน) (หน้า 3)
**ประเด็นสำคัญ:**
* รายได้รวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการชะลอตัวของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์
* รายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจคอมพิวเตอร์และระบบซอฟต์แวร์ และธุรกิจให้บริการขนส่ง
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในเอกสารที่ให้มา)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
ต้นทุนจากการขายและการให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 193.61 ล้านบาท ลดลง 210.33 ล้านบาท จาก 403.94 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567 การลดลงนี้เป็นผลหลักมาจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่ต้นทุนขายลดลงสอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง (หน้า 3)
เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 ต้นทุนจากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 71 ล้านบาท โดยหลักมาจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (เนื่องจากการรับคืนรถ) ธุรกิจคอมพิวเตอร์และระบบซอฟต์แวร์ และธุรกิจให้บริการขนส่ง (หน้า 3)
สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 ต้นทุนจากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 419.12 ล้านบาท ลดลง 2,403.54 ล้านบาท จาก 2,822.66 ล้านบาท ในงวด 9 เดือน ปี 2567 การลดลงนี้เป็นผลหลักมาจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีต้นทุนขายลดลงสอดคล้องกับจำนวนรถที่ส่งมอบลดลง (หน้า 3)
ขาดทุนสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) ในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 150.26 ล้านบาท ขาดทุนน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 ซึ่งมีขาดทุนสุทธิ 169.93 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 19.66 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (หน้า 2)
เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 228.50 ล้านบาท กำไรลดลง 378.76 ล้านบาท โดยหลักลดลงจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (หน้า 2)
สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 ขาดทุนสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่ 43.89 ล้านบาท ขาดทุนน้อยลงเมื่อเทียบกับงวด 9 เดือน ปี 2567 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 276.04 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 232.15 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (หน้า 2)
**ประเด็นสำคัญ:**
* ต้นทุนขายลดลงสอดคล้องกับการลดลงของรายได้ โดยเฉพาะในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์
* ผลขาดทุนสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 7,771.68 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2567 จำนวน 394.32 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 4.83 (หน้า 3)
หนี้สินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 2,290.14 ล้านบาท ลดลงจาก 6,683.05 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 จำนวน 4,392.91 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 65.74 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการจ่ายชำระเจ้าหนี้การค้าของธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (หน้า 4)
ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 5,481.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,482.95 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 จำนวน 3,998.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 269.64 โดยการเพิ่มขึ้นนี้เป็นผลหลักมาจากการเพิ่มทุนจำนวน 3,993.85 ล้านบาท (หน้า 4)
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของส่วนของผู้ถือหุ้นจากการเพิ่มทุน (คำนวณจากข้อมูลในหน้า 4)
**ประเด็นสำคัญ:**
* สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อย
* หนี้สินรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการชำระหนี้
* ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการเพิ่มทุน
**ภาพรวมธุรกิจ:**
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และคอมพิวเตอร์และระบบซอฟต์แวร์ (หน้า 7, 8) ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และบริการ โดยเฉพาะในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ มีการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้าในภาคธุรกิจและภาครัฐอย่างต่อเนื่อง (หน้า 8, 9) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการหลังการขาย และการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าให้กับบุคลากรและพันธมิตร (หน้า 9)
ในส่วนของธุรกิจคอมพิวเตอร์และระบบซอฟต์แวร์ กลุ่ม TERA มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น (หน้า 8) มีการปรับโครงสร้างองค์กรภายใน และลงนามในสัญญาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MSC) เพื่อขยายธุรกิจการให้บริการ AWS Public Cloud และ Generative AI (หน้า 8)
**ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานในอนาคต:**
บริษัทฯ ได้รับผลจากนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ และติดตามความคืบหน้าของโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) (หน้า 10) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการขยายตลาดในภาคเอกชน และวางตำแหน่งทางธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโซลูชันการขนส่งสีเขียวแบบครบวงจร (หน้า 11)
**การพัฒนาด้านความยั่งยืน:**
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี (หน้า 11) มีการกำหนดนโยบายและเป้าหมายการจัดการด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) (หน้า 11, 12)
(20.14%)
(52.38%)
(228.36%)
(384.33%)
(206.81%)
(697.84%)
(19.27%)
(38.23%)
(117.62%)
(79.00%)
(100.52%)
(74.28%)