สรุป OPPDAY หุ้น FPI
FPI
บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)
Oppday
ไตรมาสที่ 3 ปี 2568
สรุป OPPDAY
FPI โชว์ผลงาน Q3/2568 กำไรพุ่ง 1,254% พร้อมลุยขยายตลาดโลก
สวัสดีครับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และสื่อมวลชนทุกท่าน วันนี้บริษัท Fortune Parts Industry จำกัด (มหาชน) หรือ FPI มาอัปเดตผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ผ่านมาครับ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- FPI เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ทำแม่พิมพ์ ฉีดขึ้นรูป พ่นสี ชุบ และ 3D Printing
- บริษัทมีมาตรฐาน International Standard เช่น ISO 9001, IATF 16949, ISO 14001, ISO 45001
- FPI กำลังขยายส่วนของคลังสินค้าและ R&D บนพื้นที่ 6 ไร่ในไทย คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม
- FPI ได้รับออเดอร์ใหม่จาก Toyota Project ในอินเดีย 6-8 โมเดล
- FPI เพิ่งทำไลน์พ่นสีใหม่ในอินเดียเสร็จเมื่อเดือนกันยายน ทำให้งบของอินเดียดีขึ้น
- FPI เข้าซื้อกิจการ RPS เมื่อปีที่แล้ว แต่ตัวเลขยังไม่ดีมากนัก เนื่องจากตลาด OEM ในไทยลดลง แต่เริ่มทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่น ดูไบ ตรินิแดดและโตเบโก
- FPI เริ่มก่อสร้างโรงงานในซาอุดีอาระเบียตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 1 สิงหาคม และเริ่ม Production เฟส 1 ในช่วงแรก
- FPI ตั้งเป้าทำ Production ในซาอุดีอาระเบียเป็นกึ่ง OEM หรือเกือบ 100% โดยมีเครื่องฉีด 15 ตัว และไลน์พ่นสีแบบ Robot Line
- บริษัทคาดว่าจะได้รับงาน OEM รถยนต์ในซาอุดีอาระเบียมากขึ้น เช่น Seer, Lucid, Toyota และ Hyundai
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การขยายกำลังผลิตแม่พิมพ์พลาสติกในประเทศไทย
- การขยายฐาน Warehouse สินค้า
- การเติบโตของตลาดรถยนต์ในอินเดีย โดยเฉพาะ Toyota Project
- การขยายตลาดต่างประเทศของ RPS
- การเติบโตของตลาด Automotive Aftermarket ในอเมริกา ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 28.71 ล้านล้านบาท
- การเติบโตของตลาดรถ EV ซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 14-15%
- การเติบโตของตลาด Aftermarket Replacement Part เนื่องจากรถยนต์สะสมทั่วโลกมีถึง 2,213 ล้านคัน
- โอกาสในการรับงานจาก Seer ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งตั้งเป้าผลิต 170,000 คันต่อปี
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
- การชะลอตัวของตลาด OEM ในประเทศไทย
- การแข่งขันในตลาดชิ้นส่วนยานยนต์
- ความเสี่ยงในการดำเนินงานในต่างประเทศ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การทำ ESG และ Circular Economy เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
- การขยายตลาดต่างประเทศเพื่อชดเชยตลาด OEM ในไทยที่ชะลอตัว
- การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- FPI ตั้งเป้ายอดขายปี 2568 อยู่ที่ 1.45 ล้านคัน และปี 2569 อยู่ที่ 1.5 ล้านคัน
- FPI คาดว่า Q4 จะมียอดขายที่ดีขึ้นจาก Toyota Travel ที่เปิดตัวใหม่
- FPI ตั้งเป้าหมายให้ India เติบโตขึ้นเกือบ 100% ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า
- FPI ตั้งเป้าจะทำให้ได้ 3 เท่า ในปี 2573 จาก การวัดจาก EOE
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่ นาทีที่ 50:15)
- ไม่มีช่วงถาม-ตอบ
โดยสรุปแล้ว FPI มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 3 ปี 2568 โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการขยายตลาดต่างประเทศ การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป