สรุป OPPDAY หุ้น DMT
Oppday
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday DMT: มองรอบด้านธุรกิจทางยกระดับดอนเมือง 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT นำเสนอผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2568 โดยมีหัวข้อหลักในการนำเสนอ 4 หัวข้อ ได้แก่ Business Highlight, ผลการดำเนินงาน, Business Outlook และการขับเคลื่อนด้าน ESG
ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัท ดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการในระบบคมนาคมขนส่งและกิจการอื่น ๆ ด้วยระบบบริหารที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน มีการดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ 7 ข้อ ซึ่งประสบผลสำเร็จในหลายด้าน
Safe Road ดำเนินงานและส่งมอบการดำเนินงานให้แก่ผู้ใช้บริการตามเกณฑ์ KPI ที่กำหนดโดยกรมทางหลวงได้อย่างครบถ้วน
Inclusive Growth มีมุมมองในการเข้าร่วมงานประมูลต่าง ๆ เช่น โครงการ M82, M5, M9 รวมถึง Less Area ของ M6 โดยมีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและข้อกำหนดต่าง ๆ
New Business มีการลงทุนในบริษัท E สยาม และ Alpha DMTech ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
บริษัทให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนในเรื่องของ ESG รวมถึง HPO ในเรื่องของ Smart Working Place และ Supply Chain
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัท ได้รับรางวัลด้าน Environment จากกรมทรัพยากรป่าไม้ และรางวัลด้าน Social จากโครงการ ESG DNA รวมถึงได้รับคะแนน 100 คะแนนเต็มด้าน Governance ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการและรับมอบรางวัลในด้าน Human Right ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
บริษัท มีการนำเสนอการใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง และมีการลงทุนในโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2564 รวมถึงมีการติดตั้ง Solar Rooftop ครบทั้งอาคารที่สำนักงาน MOC และด่านทั้ง 9 ด่าน นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งตัว Storage เพื่อเก็บกักพลังงานที่เหลือใช้ รวมถึงการดำเนินงานในเรื่องของ Green Building ซึ่งมีการนำสีลดโลกร้อนมาใช้ในการปรับปรุงอาคารด่านดอนเมือง ส่งผลให้สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 22.35%
บริษัท ได้รับการรับรองตามมาตรฐานต่าง ๆ เช่น ISO 9001, ISO 14001, ISO 45001 และ ISO 27001 ในด้าน Security รวมถึง ISO 14064-1 ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
บริษัท มีการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบตู้ TMC (ตู้เก็บเงิน) เพื่อทดแทนในช่วง Off Peak ซึ่งมีการทดลองตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีการ POC ที่ด่านลาดพร้าวตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Smart Power Box ซึ่งแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อลดต้นทุนโดยนำแบตเตอรี่ EV ที่เสื่อมสภาพแล้วมาใช้ทดแทน
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
บริษัท มองเห็นโอกาสในการต่อยอดในด้านทางด้านการตลาดจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจติดตามตัวสภาพโครงสร้าง ซึ่งจะใช้ในการตรวจวัดและตรวจจับความเสียหาย รวมถึงประเมินความปลอดภัยของโครงสร้าง โดยเหมาะสำหรับการติดตั้งกับสะพาน อาคาร และทางด่วนต่าง ๆ ปัจจุบัน มีการใช้งานจริงในมาเลเซียและยุโรป
บริษัท ยังมีโอกาสในการดำเนินงานในส่วนของบริษัท ย่อย โดยในส่วนของ E สยาม มีการดำเนินงานเรียบร้อยและส่งมอบงานไปแล้วประมาณ 15 โปรเจกต์ ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้ครบถ้วนในไตรมาส 4 นี้ นอกจากนี้ ยังมีอีก 5 โปรเจกต์ที่ลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้ว และจะรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาส 4 และครบถ้วนในไตรมาส 1 ของปี 2569
สำหรับ Alpha DMTech มี Business Type บนพื้นฐานของการนำ Core Business จากดอนเมืองโทลเวย์มาขยายผล โดยมีความชำนาญในเรื่อง Payment, Smart Transportation และ Safety & Security
บริษัท มีแผนการขยายผลในการติดตั้งเครื่องรับเงิน Multi Smart Payment ในด่านอื่น ๆ เพื่อนำมาใช้ในช่วง Off Peak ซึ่งจะตรงตามวัตถุประสงค์ในการบริหารบุคลากร
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
บริษัท เผชิญกับความเสี่ยงจากปริมาณการจราจรที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด แม้ว่าจะมีแนวโน้มการเติบโต แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น เรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ภาษี ทรัมป์ ภาวะน้ำมัน และการท่องเที่ยวที่ลดลง
บริษัท ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคต
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัท ดำเนินการตามสัญญา สัมปทานและใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบ เช่น การจำหน่ายคูปองลด 5% เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ใช้ทาง
บริษัท มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ Maintain ให้เป็นไปตามงบประมาณที่วางไว้
บริษัท มีการติดตามและประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
บริษัท คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตคล้ายคลึงกับ GDP ที่ 2-3% และยังคงต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว
บริษัท มีแผนการประมูลโครงการใหม่ ๆ เช่น โครงการ M82 ซึ่งคาดว่าจะมีการซื้อซองในวันที่ 1-30 มีนาคม และโครงการ M5 ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศเชิญชวนในไตรมาส 1
บริษัท มีความพร้อมในการขับเคลื่อนโครงการ ESG และดำเนินงานตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 43:46]
แนวโน้มการเติบโตในไตรมาส 4 และเป้าหมายปี 2569
ผู้บริหารชี้แจงว่าแนวโน้มในไตรมาส 4 และเป้าหมายปี 2569 จะอิงตาม GDP และสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งยังมีความผันผวนอยู่
แผนการปรับราคา
ผู้บริหารกล่าวว่าไม่สามารถปรับราคาได้ เนื่องจากดำเนินการตามสัญญา สัมปทาน แต่มีมาตรการบรรเทาผลกระทบ เช่น คูปองส่วนลด
การประเมินปริมาณจราจรปี 2569 และแผนการลงทุน
ผู้บริหารระบุว่าปริมาณจราจรจะเติบโตในลักษณะเดียวกับ GDP และการเติบโตส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โครงการที่บริษัท สนใจคือ M82, M5, M9 และ Less Area โดย M82 มีความคืบหน้ามากที่สุด
ผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้
ผู้บริหารกล่าวว่าน้ำท่วมในภาคใต้มีผลกระทบจำกัดต่อการเดินทาง แต่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ในวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณการจราจร
การขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบจราจรอัจฉริยะ
ผู้บริหารอธิบายว่าบริษัท ลงทุนในบริษัท Alpha DMTech เพื่อดำเนินธุรกิจด้านนี้ และมีผลงานเกิดขึ้นแล้วในช่วง 6 เดือนแรกของการดำเนินงาน
หัวข้อคำถามและคำตอบ:
Q: แนวโน้มการเติบโตในไตรมาส 4 ปี 2568 และเป้าหมายการเติบโตในปี 2569 เป็นอย่างไร?
A: การเติบโตจะขึ้นอยู่กับ GDP และสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม
Q: มีแผนการปรับราคาค่าผ่านทางหรือไม่?
A: ไม่สามารถปรับราคาได้ตามสัญญา แต่มีมาตรการบรรเทาผลกระทบ
Q: มีการประเมินปริมาณจราจรในปี 2569 อย่างไร และมีแผนการลงทุนในโครงการใดบ้าง?
A: ปริมาณจราจรจะเติบโตตาม GDP และมีแผนประมูลโครงการใหม่ ๆ เช่น M82, M5, M9
Q: เหตุการณ์น้ำท่วมในภาคใต้มีผลกระทบต่อการเดินทางอย่างไร?
A: มีผลกระทบจำกัดต่อการเดินทางโดยตรง แต่กระทบเศรษฐกิจและโลจิสติกส์
Q: มีแผนการขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบจราจรอัจฉริยะอย่างไร?
A: ลงทุนในบริษัท Alpha DMTech เพื่อดำเนินธุรกิจด้านนี้
โดยสรุป DMT ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจ