CFARM
บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

CFARM เติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2568: สรุปประเด็นสำคัญจาก Oppday ไตรมาส 3

สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนและท่านผู้ถือหุ้นทุกท่าน วันนี้เราสองคนเป็นตัวแทนผู้บริหารมาให้ข้อมูลบริษัท เกี่ยวกับผลการดำเนินงานในรอบของไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ค่ะ

Agenda วันนี้จะมี 4 เรื่องเหมือนเดิม คือ:

  1. Company Overview
  2. Financial Performance ของไตรมาส 3
  3. Update ตัว New Project ของเรา
  4. การตอบคำถาม

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

CFARM เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทประกันราคาแบบมีสัญญาผูกพัน หรือ Contact Farming เลี้ยงไก่เนื้อในระบบฟาร์มปิดแบบควบคุมอุณหภูมิ หรือเลี้ยงในโรงเรือน EVAP บริษัทเป็นผู้ลงทุนสร้างทั้งฟาร์ม ที่ดินต่างๆ ปรับปรุงโรงเรือน รวมทั้งอุปกรณ์ในการเลี้ยงทั้งหมด

โดยภาพรวม CFARM ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า เราคือผู้นำด้านปศุสัตว์ที่มุ่งเน้นคุณภาพด้วยมาตรฐานสากล เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีลักษณะการประกอบธุรกิจคือเลี้ยงไก่ในโรงเรือน EVAP ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นภายในโรงเรือน ควบคุมโดยระบบเซ็นเซอร์ ปรับตามความเหมาะสมของไก่ในแต่ละอายุ

มีการให้น้ำ ให้อาหารเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบ Pipeline ปัจจุบันมีโรงเรือนเลี้ยงไก่ 121 โรงเรือน ใช้คนเลี้ยงเพียง 80 คน

ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ มีฟาร์มทั้งหมด 8 ฟาร์ม 121 โรงเรือน มีกำลังการผลิตประมาณ 3.18 ล้านตัวต่อรอบการเลี้ยง หรือ 15.88 ล้านตัวต่อปี ฟาร์มทั้งหมดตั้งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ กระจายตัวอยู่ใน 5 อำเภอ

มาตรฐานที่ CFARM ได้รับ:

  • GAP
  • ISO 9001
  • ISO 14001
  • ISO 45001
  • Farm First Assurance Scheme

บริษัทมุ่งมั่นตั้งใจที่จะใส่ใจในเรื่องของ ESG เพื่อความยั่งยืน ทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและธรรมาภิบาล

ปี 2567 ได้ certificate จาก TGO สโคป 1 กับสโคป 2 ปริมาณก๊าซที่ปล่อยออกไปอยู่ที่ 6,416 คาร์บอนตันต่อปี

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

CFARM มีการพัฒนาแผนงานในการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้ Meet เป้าประสงค์ของ 2050 LRQA ตะกี้ คือตัวที่ Assure ว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจากฟาร์มไก่เนื้อ สามารถขึ้นหิ้งขึ้นห้างได้ในยุโรป

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ยังไม่มีการกล่าวถึงความเสี่ยงโดยตรงในส่วนนี้

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

CFARM มีการควบคุมการเข้าออกฟาร์ม การฆ่าเชื้อยานพาหนะทุกคัน 100% คนเลี้ยงต้องอาบน้ำ ฆ่าเชื้อ เปลี่ยนชุด เปลี่ยนรองเท้า 100% มีการติดตั้งตาข่ายเพื่อไม่ให้สัตว์พาหะหรือนกมาเกาะ มีการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ น้ำ อาหาร และพื้นที่เลี้ยงสม่ำเสมอ เปลี่ยนวัสดุรองพื้นทุกรุ่น

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ไทยยังเป็นผู้ส่งออกไก่อันดับ 1 ในปี 2568 จะขยายตัวจากปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 3% การบริโภคไก่เป็นโปรตีนที่ถูก หาซื้อง่าย ทานได้ทุกศาสนา เป็นที่นิยม และอยู่ในกระแสการรักสุขภาพ

มีการขยายตลาดการส่งออก ซึ่งสอดคล้องกับการได้ verify ของ LRQA ที่จะสามารถส่งออกไปยังยุโรปและ UK ได้มากขึ้น

Food Outlook ของ FAO คอนเฟิร์มว่า performance การส่งออกไก่ของไทยเพิ่มขึ้น อัตราการผลิตและส่งออกไก่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าวัว FAO ณ Q2 อัปเดตล่าสุดเมื่อ Q2

มีการ Break ไข้หวัดนกในหลายๆ ส่วนในสัตว์อื่นๆ ทำให้เป็น Positive Impact สำหรับธุรกิจไก่

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้น นาทีที่ 29.45

คำถาม: บุรีรัมย์หนาวหรือยัง?

คำตอบ: ยังไม่ค่อยหนาว มีอากาศเย็นๆ บ้าง ไก่อากาศหนาวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อไก่ในเล้ามาก เพราะเลี้ยงไก่ในโรงเรือน EVAP ซึ่งเป็นระบบปิด มีการควบคุมอุณหภูมิ

คำถาม: ถ้าพบเคสไข้หวัดนกในไทยทำอย่างไร?

คำตอบ: CFARM ให้ความสำคัญกับเรื่องของ Biosecurity มาก ตั้งแต่เปิดบริษัทมา 30 กว่าปี ยังไม่เคยมีไข้หวัดนกในพื้นที่ฟาร์ม มีการควบคุมคนเข้าออกฟาร์ม ฆ่าเชื้อยานพาหนะทุกคัน 100% คนเลี้ยงต้องอาบน้ำ ฆ่าเชื้อ เปลี่ยนชุด เปลี่ยนรองเท้า 100% ติดตั้งตาข่ายเพื่อไม่ให้สัตว์พาหะหรือนกมาเกาะ มีการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ น้ำ อาหาร และพื้นที่เลี้ยงสม่ำเสมอ เปลี่ยนวัสดุรองพื้นทุกรุ่น

คำถาม: Organic Growth จะวิเคราะห์ว่าเกิดจากอะไรครับ?

คำตอบ: Organic Growth คือรายได้ที่เกิดจากการดำเนินงานปกติ ไร้มาจากไก่ รอบการเลี้ยงสูงขึ้น 2 รอบการเลี้ยง หรือประมาณ 1 ล้านตัว เมื่อเลี้ยงแล้วกินอาหารเข้าไป จะใช้ค่า FCR คือ Feed Conversion Rate กิโลที่สร้างเป็นเนื้อไก่ Standard อยู่ที่ 1.615 ของปีที่แล้วอยู่ที่ 1.673 ปีนี้อยู่ที่ 1.678 กินมากขึ้นนิดเดียว แต่น้ำหนักปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5 ขีด 0.05 ขีด น้ำหนักไก่เพิ่ม 50 กรัม 10 ล้านตัว 500,000 กก. x กก. ละ 42 บาท = 20 ล้านบาท + รายได้จากการเลี้ยงไก่ที่ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมาก ต้นทุนยังเท่าเดิม และต้นทุนในการบริหารจัดการมีประสิทธิผลมากขึ้น อัตราการเลี้ยงรอดมากขึ้น อ้วนมากขึ้น ถูกหักคุณภาพ 0.43% เหลือ 0.19% วันการเลี้ยง 42.7 วัน เหลือ 42.47 วัน Carry Cost เราจะต่ำลง

คำถาม: Curve Yield ของเนื้อไก่กับอาหารพาราโบลาคว่ำหรือไง?

คำตอบ: 1.615 ที่เป็น Standard มันจะเป็นเส้นตรงเลี้ยงตั้งแต่ Day 1- เข้าโรงเชือดเป็นพาราโบลา ณ วันสุดท้ายที่ส่งไก่เชือด อันนี้เป็นเส้นตรง 1.615 FCR นะฮะ มันก็ตรง 1.6 1.6 เหมือนกันนะฮะ เพราะฉะนั้นจะสูงขึ้นนิดนึงแต่เราได้เนื้อไก่ที่มากขึ้น น้ำหนักมากขึ้น

โดยสรุป CFARM มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริหารจัดการต้นทุน และการขยายตลาดการส่งออก