สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) (CFARM) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 มีรายได้จากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธะสัญญา 154,004 พันบาท ลดลง 10,320 พันบาท หรือลดลงร้อยละ 6.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปริมาณการลงไก่ลดลงร้อยละ 11.83 นอกจากนี้ รายได้จากการขายผลิตผลพลอยได้ในไตรมาส 3/2567 ลดลงร้อยละ 47.72 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธะสัญญาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนของปี 2567 อยู่ที่ 1,378 พันบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.89 ของรายได้จากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธะสัญญา ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก โดยมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนค่าอาหาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.00 และ ต้นทุนค่าลูกไก่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.44 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 มีจำนวน 847,546 พันบาท เพิ่มขึ้น 144,420 พันบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.78 จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จากการระดมทุนครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567

ในอนาคต บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตโดยการปรับปรุงกระบวนการเลี้ยงไก่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มการขายผลิตผลพลอยได้ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดในต่างประเทศ โดยการเจรจาพันธมิตรกับลูกค้าใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทคาดหวังว่าการดำเนินกลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคต

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง แม้ว่ารายได้และกำไรสุทธิจะลดลงอย่างมากจากปีที่แล้ว แต่ก็เป็นผลมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่จากยอดขายที่ลดลง บริษัทยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี D/E ที่ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงการมีภาระหนี้สินที่ต่ำ ดังนั้น การขยายขนาดของกิจการหรือลงทุนในโครงการต่าง ๆ โดยการกู้เงิน จึงมีโอกาสสูงที่เจ้าหนี้จะอนุมัติสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม P/E ล่าสุดอยู่ที่ 23.81 ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง อาจสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ในระดับสูง บริษัทมี YIELD อยู่ที่ 0% ทำให้ไม่น่าสนใจลงทุนเพื่อรับเงินปันผล นักลงทุนสามารถพิจารณาซื้อหุ้น CFARM ในระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของธุรกิจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายในการขยายตลาดในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด และพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ผลกระทบจากนโยบายภาครัฐ ความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร และการแข่งขันในอุตสาหกรรม ก่อนตัดสินใจลงทุน

**โอกาส**
* บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มี D/E ที่ต่ำกว่า 1
* บริษัทมีศักยภาพในการขยายตลาดในต่างประเทศ
* บริษัทมีแผนปรับปรุงกระบวนการเลี้ยงไก่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

**ความเสี่ยง**
* ราคาสินค้าเกษตรอาจมีความผันผวน
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมอาจรุนแรง
* บริษัทอาจประสบปัญหาในการควบคุมต้นทุน