สรุป OPPDAY หุ้น BRI

บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday WPH: เจาะลึกผลประกอบการปี 2024 และทิศทางธุรกิจปี 2025
สวัสดีค่ะท่านนักลงทุนและผู้สนใจทุกท่าน วันนี้เป็นโอกาสดีที่บริษัท วิทเนีย จำกัด (มหาชน) ได้มารายงานผลประกอบการปี 2024 และให้ข้อมูลสำหรับการดำเนินงานในปี 2025 โดยมีคุณสุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณพนิดาภรณ์ วงศ์ประกอบ Senior Vice President ด้านบัญชีและการเงิน เป็นผู้ให้ข้อมูล
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ปี 2024 เป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม รวมถึงวิทเนีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทั่วโลก ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง นอกจากนี้ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท
- ปัจจัยภายนอก:
- ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
- หนี้ครัวเรือนที่สูง
- ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
- ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญ:
- เปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท
- ยอดขาย (Pre-sale) 6,551 ล้านบาท
- รายได้รวม (Total Revenue) 3,860 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ (Net Profit) 427 ล้านบาท
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโต โดยมีกลยุทธ์ในการขยาย segment และพื้นที่ในการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง
- แผนการดำเนินงาน:
- เปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 7,500 ล้านบาท ในปี 2025
- มุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
- ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และ Product ที่มีคุณภาพ
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์
- ความเสี่ยง:
- ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
- การแข่งขันที่รุนแรง
- ความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุน, การปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, และการสร้างความแตกต่างของ Product
- แผนการรับมือ:
- บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- สร้างความแตกต่างของ Product โดยเน้นคุณภาพและการออกแบบ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
บริษัทมองว่าแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตจะยังคงมีการแข่งขันสูง แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์, การพัฒนา Product ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า, และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
- วิสัยทัศน์และเป้าหมาย:
- สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
- พัฒนา Product ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
- บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 43:30]
- Backlog ที่ 802 ล้านบาท คาดว่าจะโอนปีนี้เท่าไหร่?
คาดว่าจะโอนปีนี้ทั้งหมด เนื่องจาก Cycle Time ในการโอนค่อนข้างเร็ว โดยครึ่งหนึ่งเป็นส่วนของโครงการ Britannie Grand Britannie Brighton ซึ่งเป็น Ready to move in สามารถโอนได้ภายใน 1-2 เดือนหลังจอง
- Origin มีแผนจะเพิ่มทุนอย่างไร? ใส่เงินเพิ่มหรือแปลงหนี้เป็นทุน?
หลังได้รับเงินจากการเพิ่มทุน จะนำเงินส่วนหนึ่งไปชำระคืนเงินกู้ยืมของ Origin ซึ่งจะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยและลดสัดส่วน DE หรือ IBD Ratio
- Pre-sale และ Transfer ปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง เทียบกับช่วงปีที่แล้ว?
ภาพรวมยังทรงๆ ตัว แต่ Britannie เองก็ยังสามารถประคับประคองตัวเองได้ มียอดรับรู้รายได้และยอดขายใกล้เคียงหรือดีกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย
- ราคาหุ้นที่ลดลง บริษัทมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องหรือไม่?
บริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากการโอนทุกเดือน และยังไม่มีประเด็นเรื่องสภาพคล่อง และเริ่มมีการขยับตัวของราคาหุ้นแล้ว
- ORI จะใช้สิทธิ์ RO ที่ 3 บาท สูงกว่าตลาดหรือไม่? ORI จะใช้สิทธิ์ไหม?
ตาม Structure ที่นำเสนอ Origin จะใช้สิทธิ์ในส่วนของการเพิ่มทุนเต็มจำนวน เนื่องจากเป็นการปรับ Structure โครงสร้างเพื่อให้ Balance Sheet ของ Britannie ดีขึ้น
- จะมีการตั้ง ECL รายได้ บริหารโครงการในปีนี้อีกไหม?
ในเบื้องต้นตัว ECL ได้ตั้งรายการที่ไม่ได้รับ Project Finance ทั้งหมดแล้วในปีที่ผ่านมา สรุปว่าปีนี้ไม่มี
- บริษัทมีแผนที่จะชำระหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอย่างไร?
บริษัทมีแผนที่จะชำระหุ้นกู้ที่ครบกำหนด โดยใช้กระแสเงินสดจาก Operation และอาจมีการ Rollover หุ้นกู้ตัวเดิม นอกจากนี้ยังมีแผนสำรองอื่นๆ เช่น Funding อื่นๆ ที่จะมาเพิ่มเติม
โดยสรุปแล้ว วิทเนียยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน, การพัฒนา Product ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า, และการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้บริโภค