https://aio.panphol.com/assets/images/community/7725_9C6A93.png

SCB กำไร Q2/25 พุ่ง! FSSIA ชี้ OPEX ต่ำ-Non NII หนุน แต่ยังคงคำแนะนำ "ถือ"

P/E 9.16 YIELD 7.82 ราคา 133.50 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ

SCB รายงานกำไรสุทธิ Q2/25 ที่ 12.8 พันล้านบาท สูงกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ 12% และสูงกว่า Bloomberg consensus ถึง 17% ปัจจัยหลักมาจาก OPEX ที่ต่ำกว่าคาด, Non-NII ที่สูงขึ้นจากการลงทุนภายใต้ SCB10x, รายได้ค่าธรรมเนียมจากสินเชื่อ และ Credit cost ที่ต่ำกว่าคาด

ผลประกอบการ Q2/25

กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 28% YoY และ 2% QoQ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • Loan growth: -1.8% YoY, -1.3% QoQ, -0.4% YTD โดยเกือบทุก Segment หดตัว ยกเว้น Mortgage
  • NIM: 3.73% ลดลง 9bp QoQ จาก Loan yield ที่ลดลง
  • Non-NII: เติบโต 24% YoY และ 11% QoQ จาก Mark-to-market gain และ Realized gain จาก SCB10X
  • Cost-to-income ratio: 40.2% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากค่าใช้จ่าย Premises ที่ลดลง
  • Credit cost: 168bp โดยมี 15bp เป็น Management overlay สำหรับความไม่แน่นอนในอนาคต

ข้อสังเกตและมุมมอง

  • Asset quality โดยรวมปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ โดย NPL ratio อยู่ที่ 4.02% ลดลง 4bp QoQ
  • NPL formation rate อยู่ที่ 148bp ซึ่งยังคงสูงเมื่อเทียบกับ SCB ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
  • NPL ratio สูงขึ้นใน Segment Mortgage (3.9%) และ AutoX (2.9%)
  • SCB มีมุมมอง Conservative สำหรับแนวโน้มธุรกิจปี 2568 จากความกังวลเรื่อง Trade war
  • SCB ให้ความสำคัญกับการปกป้อง Asset quality มากกว่าการขยาย Loan growth
  • Economist ของ SCB คาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 2568 ซึ่งจะกดดัน NIM
  • SCB ตั้งเป้า ROE ที่ 10%+ ในระยะกลาง (2569-2571) และมีแผนลด Cost-to-income ratio ใน Gen1 ลงเหลือ 35%

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ถือ" (HOLD) สำหรับ SCB โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 130 บาท มองว่าความเสี่ยงขาลงหลักมาจากความกังวลเรื่อง Asset quality และผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงจากการลดอัตราดอกเบี้ย

โพสต์ล่าสุด