บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

COLOR โชว์ผลงาน Q1/2568 กำไรโตกระฉูด! เจาะลึกแผนธุรกิจอนาคต

COLOR โชว์ผลงาน Q1/2568 กำไรโตกระฉูด! เจาะลึกแผนธุรกิจอนาคต

สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นทุกท่านเข้าสู่งาน Oppday ของกลุ่มบริษัท สาลี่ คัลเลอร์ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ค่ะ วันนี้เราจะมานำเสนอผลประกอบการและภาพรวมธุรกิจ รวมถึงทิศทางในอนาคตของกลุ่มบริษัทค่ะ

ขอแนะนำผู้ให้ข้อมูลในวันนี้ค่ะ คุณพีรพันธ์ จิระวรพงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร และดิฉัน นางสาวกรรณิกา บุญรอด รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงินค่ะ

Agenda ในวันนี้มี 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่ Business Overview, Financial Highlight, Business Development ในอนาคต และช่วงถาม-ตอบสำหรับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นค่ะ

ในส่วนของบริษัท สาลี่ คัลเลอร์ จำกัด (มหาชน) เราแบ่งบริษัทออกเป็น 3 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท คอมโพสิต เอเชีย, บริษัท เดอะ บับเบิ้ล และบริษัท ซับเทอร์ร่า แต่ละบริษัททำธุรกิจที่แตกต่างกัน:

• สาลี่ คัลเลอร์: ผู้ผลิตเม็ดแม่สีแบบเข้มข้น ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกหลากหลายประเภท
• คอมโพสิต เอเชีย: ผู้ผลิตเม็ดแม่สีที่เสริมคุณสมบัติของพลาสติก
• เดอะ บับเบิ้ล: ผลิตทุ่น และติดตั้งพลังงานโซลาร์เซลล์
• ซับเทอร์ร่า: ทำระบบน้ำใต้ดิน

ธุรกิจหลักของกลุ่มคือเม็ดแม่สีแบบเข้มข้น หรือ Masterbatch โดยนำเม็ดพลาสติกและผงสีมาผสมรวมกันตามคุณสมบัติที่ลูกค้าต้องการ

บริษัท เดอะ บับเบิ้ล เป็นบริษัทที่เราเข้าไปร่วมทุน ทำเรื่องของทุ่นลอยน้ำสำหรับการวางแผนพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการติดตั้งและออกแบบระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งบนหลังคา, โซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์ฟลตติ้งในน้ำ นอกจากนี้ยังมีสัญญาการขายไฟ (PPA) ทำให้ธุรกิจครบวงจรในด้านพลังงานแสงอาทิตย์

บริษัท ซับเทอร์ร่า เป็นบริษัทน้องใหม่ที่จัดตั้งขึ้นมา ทำการออกแบบและผลิตท่อน้ำ PVC ระบบใหม่ และระบบระบายน้ำใต้ดินแบบครบวงจร รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบน้ำ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

รายได้หลักของบริษัทมาจากการผลิตเม็ดแม่สี (95%) แบ่งเป็น:

1. บรรจุภัณฑ์ (57%): ถ้วย, ถุง, ถาด
2. Automotive: พลาสติกในรถยนต์
3. Construction: ฟิงปูบ่อ, สายไฟ, ท่อน้ำ, อุปกรณ์ก่อสร้างพลาสติก
4. การเกษตร: ฟิล์มโรงเรือน, ฟิล์มคลุมพื้น, ถุงเพาะชำ
5. อื่นๆ: รับจ้างผลิต, สินค้าในหมวดต่างๆ ของการผลิตพลาสติก

Product Group ของบริษัทแบ่งเป็น 6 ส่วน:

1. สารเติมแต่ง (Composite Asia): 26.9%
2. สี Community (ขาว): 19.8%
3. สี Community (ดำ): 27%
4. สารเติมแต่งให้คุณสมบัติต่างๆ (ทนแสง, ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์, กันลามไฟ, ไม่เกิดหมอก): 14.1%
5. สีสัน (เหลือง, เขียว, แดง): 10.6%
6. งานรับจ้าง Service: 1.6%

ผลประกอบการในไตรมาส 1 มีรายได้รวม 273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.05% เมื่อเทียบกับปีก่อน

1. กลุ่มธุรกิจ Masterbatch: 91%
2. กลุ่มพลังงานทดแทน: 3%
3. ผลิตชิ้นงานขึ้นรูป: 5%
4. อื่นๆ

ค่าใช้จ่าย Selling Admin อยู่ที่ 43 ล้านบาท สัดส่วนเมื่อเทียบกับรายได้อยู่ที่ 15.79% ลดลงเมื่อเทียบกับรายได้ ส่วนหนึ่งมาจากการใช้กลุ่มพลังงาน EV แทนน้ำมันเชื้อเพลิงในการขนส่งและติดต่อทีมขาย ช่วยให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ตามงบประมาณ

Gross Profit Margin อยู่ที่ 19.30% สาเหตุหลักมาจากการใช้พลังงานทดแทน (โซลาร์) ทดแทนพลังงานจากการไฟฟ้า ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิต ทำให้ Cost of Goods Sold บริหารจัดการได้ดีขึ้น และ Gross Profit Margin เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

Net Profit อยู่ที่ 8.65 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการได้รับมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง และจากการลงทุนในโซลาร์ ทำให้ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ในกลุ่มธุรกิจ SME ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทางภาษีในไตรมาส 1

สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1,459 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.67% จากสิ้นปี ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นในส่วนของ Current Asset (เงินสด, สินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา) แต่ชดเชยด้วยการลดลงของที่ดินอาคารและอุปกรณ์ (PPE)

Equity อยู่ที่ 844 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้

Return of Asset (ROA) ณ ไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.70% เพิ่มขึ้นจากตอนสิ้นปี

Return of Equity (ROE) Q1 อยู่ที่ 5.64 เท่า เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับตอนสิ้นปี 2024

DE เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 0.73

Current Ratio ใกล้เคียงเท่ากันเมื่อตอนสิ้นปีอยู่ที่ 1.25

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผล 0.05 บาทต่อหุ้น ให้นักลงทุนในเดือนพฤษภาคม (ประมาณวันที่ 25 พฤษภาคม) ซึ่งเป็นการจ่ายต่อเนื่องมาตลอด 5 ปี

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

- (ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ในเนื้อหา)

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

- (ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ในเนื้อหา)

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งยอดขายและกำไร ธุรกิจเดิม (เม็ดแม่สี Masterbatch) ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

ครึ่งปีหลังจะมีโปรเจคใหม่ๆ โดยมีการนำเสนอไปบ้างแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำ R&D การทำวิจัย และการทดลองการผลิต

ธุรกิจใหม่ของบริษัทใช้ชื่อแบรนด์ว่า HIPPO เป็นการผลิตท่อ PVC แบบใหม่ (OPVC) ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น ลดการใช้พลาสติก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัทได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน ISO จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับลูกค้าและผู้บริโภค ว่าสินค้าได้มาตรฐานระดับโลก โดยมีท่อทั้งหมด 4 แบบ (ไซส์ 150-400 มม.) เหมาะกับการ Supply น้ำ และระบบระบายน้ำ

สินค้าใหม่ที่ทำในชื่อบริษัท ซับเทอร์ร่า เน้นงานน้ำและงานเกี่ยวกับใต้ดิน คือ SMC Panel เป็นการทำถังน้ำโดยต่อเป็นจิ๊กซอว์ สามารถกักเก็บน้ำได้ ประกอบง่าย ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา ปรับขนาดได้ตามต้องการ ทำเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมทรงสูงได้ หรือแม้แต่บิดเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูก็ทำได้ สามารถออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ ทำให้เกิดความสวยงาม ต่อขยายหรือลดได้ตามที่ลูกค้าต้องการ

Target ลูกค้าหลักๆ คือ โรงงานอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ หรือสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด หรือมีข้อจำกัดต่างๆ เหมาะกับการใช้แบบน็อคดาวน์หรือต่อได้

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 36:26]

หัวข้อ : ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2568

คำตอบ : ทางบริษัทคาดหวังการเติบโตของรายได้ในปี 2568 ที่ 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ

หัวข้อ : แผนการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

คำตอบ : บริษัทมีแผนการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์

หัวข้อ : กลยุทธ์ในการรับมือกับความผันผวนของราคาวัตถุดิบ

คำตอบ : บริษัทมีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ โดยการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การปรับสูตรการผลิต และการ Diversify แหล่งวัตถุดิบ

หัวข้อ : การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

คำตอบ : บริษัทมีแผนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) และเอเชียใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

หัวข้อ : นโยบายการจ่ายเงินปันผลในอนาคต

คำตอบ : บริษัทยังคงรักษานโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยพิจารณาจากผลประกอบการและกระแสเงินสดของบริษัท รวมถึงแผนการลงทุนในอนาคต

โดยสรุปแล้ว กลุ่มบริษัท สาลี่ คัลเลอร์ จำกัด (มหาชน) ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีธุรกิจเดิมที่แข็งแกร่งและธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ พร้อมทั้งมีการบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าบริษัทจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในอนาคต