บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SCB กำไร Q1/25 โต 11% แต่ FSSIA ห่วงใยคุณภาพสินทรัพย์ คงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 130 บาท
P/E 9.16 YIELD 7.82 ราคา 133.50 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: SCB กำไร Q1/25 ดีกว่าคาด แต่ยังมีความกังวล
SCB รายงานกำไรสุทธิ Q1/25 ที่ 12.5 พันล้านบาท สูงกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ 9% และสูงกว่า Bloomberg consensus 5% สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) และ Credit cost ที่ต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ของ SCB โดยคงคำแนะนำ "ถือ" (HOLD) และราคาเป้าหมายที่ 130 บาท
รายละเอียดผลประกอบการและข้อสังเกต
- (+) กำไรสุทธิ Q1/25 อยู่ที่ 12.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 7% QoQ
- (+) OPEX และ Credit cost ต่ำกว่าที่คาด โดย Credit cost อยู่ที่ 159bp (FSSIA คาด 173bp)
- (0) คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมค่อนข้างทรงตัว QoQ
- (-) อัตราส่วน NPL อยู่ที่ 4.06% ทรงตัว แต่ NPL formation rate ที่คำนวณได้ 181bp ยังสูงเมื่อเทียบกับ SCB ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
- (0) การเติบโตของสินเชื่ออยู่ที่ -1% YoY และ +0.9% QoQ โดยมี Corporate loans เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ในขณะที่ Retail loans ทรงตัว
- (-) NIM อยู่ที่ 3.82% ลดลง 22bp QoQ จาก Loan yield ที่ลดลง
- (+) Non NII เติบโต 6% YoY และ 5% QoQ จาก Marked-to-market gain ที่สูงและ Fee income ที่เติบโตปานกลาง
- (+) Cost-to-income ratio อยู่ที่ 39.9% ดีกว่าที่คาด เนื่องจาก Premises expenses ที่ต่ำลง
มุมมองและกลยุทธ์ของ FSSIA
FSSIA คงคำแนะนำ "ถือ" (HOLD) สำหรับ SCB โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 130 บาท (สูงกว่า Bloomberg consensus 2.9%) มองว่าความเสี่ยงขาลงที่สำคัญ ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ และผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
FSSIA วิเคราะห์โดยใช้ประมาณการผลประกอบการและปัจจัยพื้นฐานของ SCB รวมถึงการประเมินความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ โดยพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ เช่น P/E, Price/book, ROE, ROA และ Dividend yield
ข้อควรระวังและปัจจัยที่ต้องติดตาม
- คุณภาพสินทรัพย์ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
- ผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
- ผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล