บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TOP (ไทยออยล์): SBM2 กลับมาเปิดใช้, CFP เร่งจัดการผู้รับเหมาฯ - คงคำแนะนำ "ซื้อ"
P/E 5.52 YIELD 7.72 ราคา 24.60 (2.07%)
ไฮไลท์สำคัญ:
Krungsri Securities (KSS) คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับหุ้น TOP โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 33.0 บาท/หุ้น มองว่าแรงกดดันจากโครงการ CFP ลดลงหลังผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มวงเงินลงทุน และเป็นโอกาสทยอยซื้อรับการฟื้นตัวใน 1Q25-2026F รวมถึงมี upside จากการได้เงินชดเชยโครงการ CFP เพิ่มเติมในอนาคต และการกลับมาเปิดใช้ SBM2 เร็วกว่าแผน
รายละเอียดการวิเคราะห์:
KSS คาดว่า TOP จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผู้รับเหมาหลักโครงการ CFP ภายใน 3Q25 และยังคงเป้าหมายทยอย COD 2Q27-3Q28 บริษัทได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเพิ่มวงเงินลงทุนโครงการ CFP รวมราว 8.1 หมื่นล้านบาท (เงินลงทุนส่วนเพิ่มราว 1,776 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.3 หมื่นล้านบาท และดอกเบี้ยส่วนเพิ่มอีกราว 505 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.8 หมื่นล้านบาท) ซึ่งบริษัทจะเร่งเจรจากับผู้รับเหมาฯ ตามสิทธิ์ทางกฎหมายต่อไป KSS ประเมินว่าต้นทุนส่วนเพิ่มข้างต้นได้ประเมินแบบ conservative (เผื่อกรณีที่ต้องเปลี่ยนผู้รับเหมาฯ หลัก, การดูแลผู้รับเหมาฯ ช่วงเดิม/จ้างเพิ่ม และอื่นๆ) และปัจจุบันได้เงินเคลม performance bond ราว 1.2 หมื่นล้านบาท มาลดต้นทุนส่วนเพิ่มแล้ว
ข้อสังเกต:
KSS มองว่าการกลับมาเปิดทดลองใช้ทุ่นรับน้ำมันดิบ/SBM2 ตั้งแต่ 13 ก.พ. 25 (ค่า ship-to-ship 0.5 $/bbl ลดลงเลยตั้งแต่ช่วงทดลอง) และคาดว่าจะประกาศเปิดใช้อย่างเป็นทางการในช่วงปลาย 1H25 จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ship-to-ship ในปี 2025 นอกจากนี้ KSS คาดว่าค่าการกลั่นใน 1H25 จะยังไม่เด่นเมื่อเทียบกับ 2H24 (SG GRM ราว 4-5 $/bbl) แม้การฟื้นตัวของ demand Jet และ Gasoil ตามจำนวนเที่ยวบินทั่วโลก และอากาศหนาวกว่าปกติ จะช่วยชดเชยกับ crude premium ที่ผันผวนใน 1Q25 และ gasoline ที่ supply ใหม่ออกมาเพิ่มและเป็นช่วง low season ทั้งนี้ฝั่งอะโรเมติกส์คาด PX ที่ supply เข้ามาน้อยจะเด่นกว่า BZ
สรุปและคำแนะนำ:
KSS มีมุมมอง slightly positive ต่อข้อมูลในที่ประชุมนักวิเคราะห์ โดยเฉพาะประเด็นค่า ship-to-ship ที่ลดเร็วกว่าคาด ซึ่งประเมินเบื้องต้นเป็น upside ต่อกำไร 2025F ราว 575 ล้านบาท หรือราว 5% ของกำไรปกติ 2025F หนุนให้การเติบโต y-y เร่งขึ้น นอกจากนี้ยังอาจเห็น upside จากการได้เงินชดเชยจากผู้รับเหมาฯ หลักเพิ่มในอนาคต KSS คงมุมมอง 2025F ฟื้น 45% y-y โดยมองว่ากำลังการผลิตใหม่โรงกลั่นทั่วโลกเข้ามาน้อยกว่าการฟื้นตัวของ demand หนุนค่าการกลั่นกลับมาที่ระดับปกติ 5-6$/bbl ได้, ค่า ship-to-ship ลดลง และไม่มี stock loss มากเท่า 2024
ดังนั้น KSS จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 33.0 บาท/หุ้น โดยแนะนำให้ทยอยซื้อในช่วงที่ยังมี overhang โครงการ CFP เนื่องจากคาดว่าบริษัทจะสามารถจัดหาผู้รับเหมาฯ หลักมาดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ตามแผน และยังมี upside หากดำเนินการทางกฎหมายที่จำเป็นแล้วได้เงินค้าประกันเพิ่มเติม มีแนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่องใน 2025F ที่ stock loss ลดลงและเปิดใช้ SBM2 และ 2026F ที่การปิดซ่อมลดลงหนุน