COCOCO กำไร Q4/67 ส่อแววลด! หยวนต้ายังเชียร์ "ซื้อ" มองปี 68 โตต่อเนื่อง

P/E 25.16 YIELD 5.94 ราคา 5.05 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ:

หยวนต้าคาดการณ์กำไรปกติของ COCOCO ในไตรมาส 4/2567 จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้า แต่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรในปี 2568 พร้อมคงคำแนะนำ "ซื้อ" แม้ปรับราคาเหมาะสมลง

ผลกระทบจากราคามะพร้าว:

ล.หยวนต้า คาดการณ์กำไรปกติใน 4Q24 ที่ 73 ล้านบาท (-68.5% QoQ, -60.1% YoY) อ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า เนื่องจาก GPM คาดอยู่ที่ 19.8% ลดลงจากทั้ง 24.8% ใน 3Q24 และ 26.6% ใน 4Q23 จากการรับรู้ผลของราคามะพร้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นกดดันอัตรากำไรของสินค้ากลุ่มน้ำกะทิและน้ำมะพร้าว รวมถึง SG&A/sales ที่คาดสูงขึ้นทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากมีการจ่ายโบนัสพนักงานในช่วงท้ายปี ประกอบกับบริษัทมีการนำสินค้าไปจัดแสดงในต่างประเทศมากขึ้น ในขณะที่รายได้ยังสามารถเติบโตได้ YoY จากฐานลูกค้ารายใหม่ที่สูงขึ้น และลูกค้ารายเดิมที่ยังมีการขยายออเดอร์ต่อเนื่อง แต่อาจลดลงหากเทียบ QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low season ของธุรกิจที่เป็นช่วงฤดูหนาว

แนวโน้มปี 2568 และการลงทุนในฟิลิปปินส์:

หยวนต้ายังมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรปกติในปี 2568 ที่คาดยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง YoY จากการเริ่มรับรู้รายได้ที่มากขึ้นจากลูกค้ารายใหม่สำหรับการรับจ้างผลิตสินค้ากลุ่มน้ำกะทิในยุโรป รวมถึงลูกค้ารายใหญ่สำหรับการรับจ้างผลิตสินค้ากลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ นอกจากนี้ลูกค้ารายเดิมของบริษัทที่ยังมีแนวโน้มที่จะขยายยอดคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของอุปสงค์น้ำมะพร้าว, น้ำกะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ GPM อาจชะลอตัวลง YoY เนื่องจากการรับรู้ผลของราคามะพร้าวที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเรามองว่าราคามะพร้าวมีโอกาสปรับตัวลงในระยะถัดไป เนื่องจากการได้รับผลกระทบของลานีญาที่จะส่งผลให้อากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมะพร้าวมากขึ้นเป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการของเรา

นอกจากนี้ COCOCO ได้อนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยในฟิลิปปินส์ชื่อ “Novacoconut” สำหรับการจัดตั้งโรงงานในฟิลิปปินส์ด้วยเงินลงทุน 430 ล้านบาท คาดจะเริ่ม Commercial run ได้ตั้งแต่ใน 1Q26 เป็นต้นไป โดยโรงงานดังกล่าวจะเน้นการผลิตน้ำกะทิ

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย:

บล.หยวนต้า คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 11.60 บาท (จากเดิม 15.50 บาท) หากกำไรใน 4Q24 ออกมาตามคาด กำไรทั้งปีจะต่ำกว่าประมาณการกำไรปี 2024 ของเรา รวมถึงในปี 2025 ที่คาด GPM ยังถูกกดดันจากราคามะพร้าวที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2024 และ 2025 ลง 12.5% และ 16.5% เป็น 721 ล้านบาท (+26.2% YoY) และ 930 ล้านบาท (+29.1% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐาน GPM นอกจากนี้เรายังปรับ PE ในการประเมินมูลค่าลงเป็น 18.0 เท่า เพื่อสะท้อนสภาวะตลาดที่ผันผวน ทำให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้นปี 2025 ที่ 11.60 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER25 เพียง 13.2 เท่า คิดเป็น PEG เพียง 0.45 เท่า จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด