OSP กำไร Q4/67 ลดลง แต่โบรกเกอร์มองข้ามช็อต! ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ"

P/E 13.40 YIELD 3.80 ราคา 15.80 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: กำไรตามคาด แต่มีเซอร์ไพรส์

OSP รายงานกำไรหลักไตรมาส 4/67 ที่ 614 ล้านบาท ลดลง 16% YoY และ 9% QoQ แต่เป็นไปตามที่ BLS และตลาดคาดการณ์ไว้ แม้กำไรจะลดลง แต่ BLS มองว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมามากแล้ว จึงปรับคำแนะนำจาก "ขาย" เป็น "ถือ" คงราคาเป้าหมายเดิมที่ 16.00 บาท

รายละเอียดผลประกอบการ: รายได้ลด แต่กำไรขั้นต้นเพิ่ม

รายได้ไตรมาส 4/67 ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 6% QoQ โดยยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.5% เพิ่มขึ้นจาก 35.5% ในไตรมาส 4/66 และ 36.1% ในไตรมาส 3/67 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง รวมถึงสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นของเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่มีอัตรากำไรสูง

อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 27.4% เทียบกับ 22.6% ในไตรมาส 4/66 และ 25.0% ในไตรมาส 3/67 BLS คาดการณ์ว่ากำไรหลักไตรมาส 1/68 จะทรงตัว YoY แต่ปรับตัวดีขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล

คำแนะนำและเหตุผล: ราคาลงมาเยอะแล้ว

BLS ปรับลดคำแนะนำ OSP จาก "ถือ" เป็น "ขาย" เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2568 พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายจาก 24.0 บาท เหลือ 16.0 บาท ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 19% อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ BLS จึงเปลี่ยนคำแนะนำเป็น "ถือ" โดยยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 16.0 บาท พร้อมระบุว่าชอบ CBG มากกว่า OSP

เกวลี ทองสมอางค์ นักวิเคราะห์จาก BLS ให้เหตุผลว่า การปรับตัวลงของราคาหุ้น OSP ทำให้ความเสี่ยงด้านราคาลดลง และมองว่าราคาเป้าหมาย 16.00 บาท สะท้อนมูลค่าที่เหมาะสมแล้ว

สรุป: ถือรอได้ แต่ CBG น่าสนใจกว่า

OSP มีผลประกอบการ Q4/67 เป็นไปตามคาด แต่ BLS มองว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมามากแล้ว จึงปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" คงราคาเป้าหมายเดิมที่ 16.00 บาท อย่างไรก็ตาม BLS ยังคงชอบ CBG มากกว่า OSP ในแง่ของโอกาสในการเติบโต

โพสต์ล่าสุด