https://aio.panphol.com/assets/images/community/11567_5C1F5A.png

SCC กำไรปกติสูงกว่าคาด แต่ขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ INVX คงคำแนะนำ NEUTRAL

P/E 12.80 YIELD 2.72 ราคา 184.00 (0.00%)

text-primary ไฮไลท์สำคัญ

SCC รายงานผลประกอบการ 3Q68 ขาดทุนสุทธิ 669 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่ InnovestX (INVX) และตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 8% และ 48% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม กำไรปกติของ SCC ยังคงสูงกว่าที่คาดการณ์ จากธุรกิจซีเมนต์ที่ได้ประโยชน์จากราคาขายที่สูงขึ้น INVX ยังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SCC โดยมีราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 227 บาท อ้างอิงวิธี Sum-of-the-Parts (SOTP)

text-primary ผลประกอบการ 3Q68

SCC รายงานขาดทุนสุทธิ 669 ล้านบาทใน 3Q68 พลิกจากกำไรสุทธิ 1.73 หมื่นล้านบาทใน 2Q68 ที่มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน Chandra Asri Petrochemical (CAP) ใน 3Q68 มีรายการพิเศษคือขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ 1.35 พันล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างธุรกิจ 95 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติของ SCC อยู่ที่ 774 ล้านบาท สูงกว่าที่ INVX คาดการณ์ไว้จากธุรกิจซีเมนต์ที่ได้ประโยชน์จากราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น
ธุรกิจเคมิคอลส์กลับมาขาดทุน 4 พันล้านบาทใน 3Q68 (2Q68: กำไร 1.29 หมื่นล้านบาท, 3Q67: ขาดทุน 1.48 พันล้านบาท) จากการบันทึกขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ หากตัดรายการขาดทุนออก ธุรกิจเคมิคอลส์มีกำไรปกติอยู่ที่ 390 ล้านบาท ลดลงจาก 745 ล้านบาทใน 2Q68 เนื่องจากส่วนต่างราคา HDPE และ PP ลดลง

text-primary แนวโน้มและข้อสังเกต

ผู้บริหาร SCC มองว่าสถานการณ์ใน 4Q68 ยังคงท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน เศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอ และการเบิกจ่ายภาครัฐที่ต้องรอหลังการเลือกตั้ง ธุรกิจเคมิคอลส์ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตจากโรงแครกเกอร์ใหม่ในจีน
อย่างไรก็ตาม ราคาโพรเพนที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาแนฟทา ทำให้ LSP ที่สามารถใช้โพรเพนเป็นวัตถุดิบได้ถึง 70% สามารถเดินเครื่องต่อไปได้โดยที่ไม่มีผลขาดทุนเพิ่มขึ้น ธุรกิจซีเมนต์ยังเห็นภาพที่แข็งแกร่งจากโครงการภาครัฐและความต้องการใช้ซีเมนต์ที่ต่อเนื่อง รวมถึงผลจากการปรับขึ้นราคาขาย

text-primary กลยุทธ์การลงทุน

INVX ยังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ SCC เนื่องจากเชื่อว่าตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไปแล้ว และคาดว่าผลการดำเนินงานปกติใน 2H68 จะยังคงอ่อนแอจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำ ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 227 บาท ประเมินด้วยวิธี SOTP โดยให้อัตราส่วน EV/EBITDA ที่ 8 เท่าสำหรับธุรกิจเคมิคอลส์และบรรจุภัณฑ์, 9 เท่าสำหรับธุรกิจซีเมนต์ และ PBV 1.5 เท่าสำหรับบริษัทร่วม
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงสถานการณ์อุปทานล้นตลาดในธุรกิจซีเมนต์และธุรกิจเคมิคอลส์

โพสต์ล่าสุด