บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SCB กำไรปี 2569 ชะลอตัว แต่เงินปันผลยังสูง PI แนะนำ "ซื้อ"
P/E 9.16 YIELD 7.82 ราคา 133.50 (0.00%)
PI ประเมิน SCB ยังน่าสนใจ แม้กำไรปี 2569 จะชะลอตัว แต่ยังคงจ่ายเงินปันผลในระดับสูง คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 146 บาท อิงวิธี GGM (ROE 9.5%, TG 2%)
ภาพรวมผลประกอบการ
SCB รายงานกำไรสุทธิ Q3/2568 ที่ 12.1 พันล้านบาท (+10% YoY, -6% QoQ) สูงกว่าที่ PI คาดการณ์ไว้ 5% สาเหตุหลักมาจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน FVTPL ที่สูงกว่าคาด กำไรที่เติบโต YoY เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน FVTPL ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรลดลง QoQ เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น โดย Credit cost เพิ่มขึ้น 14 bps QoQ อยู่ที่ 182 bps ส่วนหนึ่งเกิดจากการตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษ (Management overlay) ราว 1.4 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
NIM ลดลงอยู่ที่ 3.6% (-51 bps YoY, -16 bps QoQ) เนื่องจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนสินเชื่อ สินเชื่อรวมลดลง 1.7% QoQ จากการลดลงของสินเชื่อทุกกลุ่ม ส่งผลให้สินเชื่อใน 9M25 ลดลง 2.2% YTD หนี้เสียทรงตัว NPL ratio อยู่ที่ 3.3% ขณะที่ Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 121% และ Stage 2 ratio ทรงตัวที่ 7.8%
แนวโน้มและประมาณการ
PI คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะเติบโต 10% แต่ในปี 2569 กำไรจะลดลง 2% จาก NIM ที่อ่อนตัวลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง SCB คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 จะเติบโต 1.8% และเติบโต 1.5% ในปี 2569 และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลง 1 ครั้งในปี 2568 และอีก 1 ครั้งในปี 2569 PI ปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 2% ในปี 2568-69 สะท้อนการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดี โดยคาดว่ากำไรใน 4Q25 จะเป็นระดับต่ำที่สุดของปีจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
จุดเด่นและความเสี่ยง
จุดเด่นของ SCB อยู่ที่คุณภาพสินเชื่อที่แข็งแกร่ง และการจ่ายเงินปันผลสูงในกลุ่มธนาคาร โดยคาดว่าจะให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่ 8.5%/8.3% ในปี 2568-69 อย่างไรก็ตาม ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่จำกัดการขยายตัวของสินเชื่อ และคุณภาพสินเชื่อที่อาจอ่อนแอลง เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม