บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

FSSIA ยังคงแนะนำ "ซื้อ" SFLEX แม้จะปรับลดประมาณการกำไรลงเล็กน้อย โดยมองว่าราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ

3Q25 กำไรฟื้นตัวจากช่วง Low Season

FSSIA คาดการณ์กำไรหลักของ SFLEX ใน 3Q25 จะอยู่ที่ 60.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น text-primary12.3% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่เป็นช่วง low season แต่ยังคงลดลง text-danger20.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) เนื่องจาก 3Q24–4Q24 เป็นช่วงที่บริษัทฯ ทำกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม FSSIA มองว่าความต้องการบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้า FMCG ยังคงมีอยู่ ทำให้คาดการณ์รายได้ใน 3Q25 จะค่อยๆ ฟื้นตัว เพิ่มขึ้น text-primary2.8% QoQ และ text-primary1.0% YoY เป็น 481.2 ล้านบาท

ประสิทธิภาพด้านต้นทุนที่ดีขึ้น หนุน Margin

ราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นผลดีต่อ SFLEX ในฐานะผู้ผลิตปลายน้ำ แม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญกับแรงกดดันด้านราคาจากลูกค้า แต่ก็สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยการกระจายความเสี่ยงไปยังซัพพลายเออร์หลายราย การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และการปรับปรุงเครื่องจักร FSSIA คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) จะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ text-primary24–25% ในปี 2025–26

ปรับประมาณการสะท้อนผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า

FSSIA ปรับลดประมาณการกำไรปี 2025–27 ลง text-danger10%/12%/17% ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากการtext-dangerลดลงของผลกำไรจาก Starprint Vietnam ซึ่งtext-dangerถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศที่ช้ากว่าที่คาด แม้ว่าอัตรากำไรที่ดีขึ้นจะช่วยชดเชยผลกระทบบางส่วน แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากเวียดนามได้ทั้งหมด

คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 3.50 บาท

FSSIA ได้ปรับไปใช้มูลค่าปี 2026 โดยตั้งราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.50 บาท อิงจาก P/E ปี 2026 ที่ 12 เท่า (-0.8 SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี เพื่อสะท้อนแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ช้าลง) ราคาเป้าหมายนี้คิดเป็น EV/EBITDA ปี 2026 เพียง 9.9 เท่า และ P/BV ปี 2026 เพียง 2.1 เท่า FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน นอกจากนี้ FSSIA ยังคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ประมาณ text-primary4-5% ต่อปี