TAN โชว์ผลงาน Q2/2568 ธุรกิจแฟชั่นมาแรง ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 15%

P/E 17.28 YIELD 8.85 ราคา 3.74 (0.00%)

TAN โชว์ผลงาน Q2/2568 ธุรกิจแฟชั่นมาแรง ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 15%

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • ผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเดือนเมษายนและฝนตกหนักในเดือนพฤษภาคม ทำให้ยอดขายเบาบางลง

  • รายได้เพิ่มขึ้น 8% year-on-year ในไตรมาส 2 และ 6% ในช่วง 6 เดือนแรก ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตในต่างประเทศ ในประเทศค่อนข้าง stable

  • Same Store Sales Growth (SSSG) ในประเทศติดลบ 8% ในไตรมาส 2 แต่ยืนได้เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 มาจากการชะลอการซื้อของกลุ่ม Lifestyle (Pandora) และผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่หายไป (HARNN)

  • กำไรลดลงเหลือ 27.8 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรก ไตรมาส 2 ติดลบเนื่องจากรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะสาขา HARNN Greater China ในหางโจว, การโฆษณาในเวียดนาม, และการขยายสาขาสะสมในต่างประเทศ

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • เพิ่มแบรนด์ใหม่ในกลุ่มแฟชั่น: MM6 จากฝรั่งเศส (ไตรมาส 2)

  • เปิดแบรนด์ "LIVE" (Activewear & Sport) ในเดือนกันยายนที่ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (ไตรมาส 3)

  • ขยายสาขา Basic Kitchen ของ Gordon Ramsay ที่ ICONSIAM

  • เปิด Official Flagship Store ของ HARNN ที่ Hangzhou Tower ในจีน

  • จัดงาน China Beauty Expo เพื่อ Roadshow ให้ B2B Partner รู้จัก HARNN มากขึ้น

  • เปิดตัวแบรนด์ "LIVE" จากบราซิล (สินค้าเกี่ยวกับการออกกำลังกาย)

  • ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของ HARNN ต่อเนื่อง (คอลเลคชั่น Orange Blossom & Calendula)

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • การชะลอตัวของการท่องเที่ยวส่งผลกระทบต่อยอดขาย HARNN

  • การแข่งขันในตลาดต่างประเทศที่รุนแรง

  • ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

  • ผลกระทบทางเศรษฐกิจและจิตวิทยาต่อการซื้อของลูกค้ากลุ่มต่างๆ

  • ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาในต่างประเทศ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • ปรับโครงสร้างงานเพื่อดึงดูดคนไทยให้สนใจแบรนด์ HARNN มากขึ้น

  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น

  • ควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

  • ปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร

  • ใช้ LINE CRM สร้างความเชื่อมโยงกับลูกค้า

  • ทำ Real-time Marketing และ Personalize ไปที่ลูกค้าแต่ละท่าน

  • เร่งสปีดการเติบโตในประเทศ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเป็น 15% ของรายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และ 25% ในปีหน้า

  • การเติบโตอย่างชัดเจนในต่างประเทศ (โดยเฉพาะจีน) จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

  • ใช้ LINE CRM สร้างความเชื่อมโยงกับลูกค้ากว่า 250,000 ราย เพื่อทำ Real-time Marketing และ Personalize

  • ใช้ AI ในระบบ Marketing Automation ในอนาคต

  • บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 และ 4 จะดีกว่าไตรมาส 2

  • คงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 15%

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 43:38]:

  1. กลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อพลิกกลับมาทำกำไร
    • เน้นพัฒนาสเกลรายได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยต่างประเทศจะเติบโตมาก ส่วนในประเทศจะเร่งลดการติดลบของ SSSG

    • ควบคุมค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขา

    • มั่นใจว่ารายได้จะสูงขึ้นกว่าไตรมาส 2

    • ไตรมาส 3 และ 4 จะดีกว่าไตรมาส 2

  2. Digital Transformation และ KPI ในการลดค่าใช้จ่าย
    • เริ่มแล้ว โดยมี LINE Official Account ชื่อ "ธนจิรา คลับ" ติดต่อฐานลูกค้าสมาชิกก่อน และขยายไปหน้าร้าน

    • ธนจิรา คลับ เป็น Portal ให้ผู้สนใจกิจกรรมและแบรนด์ในเครือธนจิราเห็นข้อมูลและ Benefit ที่ตัวเองพึงได้

    • ใช้ข้อมูลที่มี Personalize การสื่อสารกับลูกค้าแต่ละราย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการตลาดแบบหว่านแห

    • วัด KPI จากการใช้เงินกับค่าการตลาดในการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ โดยมีฐานสมาชิกรองรับ

  3. ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง
    • กระทบแบรนด์ HARNN เป็นหลัก เพราะสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวค่อนข้างสูง (60%)

    • ปรับเปลี่ยนโครงสร้างงานและผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น

    • การขยายงานไปต่างประเทศ (จีน) จะเป็นตัวตอบโจทย์ใหญ่ แต่ต้องสร้างแบรนด์ให้คนไทยด้วย

    • ระยะกลาง: Balance ไทยกับต่างประเทศสร้างกำไร ระยะสั้น: ปรับแผนภายใน

  4. ผลจากภาษีทรัมป์และค่าเงิน
    • ไม่มี Brand ที่เป็นคู่ค้าจากสหรัฐอเมริกาโดยตรง และสิ่งที่นำเข้าเองก็ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายของทรัมป์

    • ค่าเงินบาทค่อนข้างแข็งเมื่อเทียบกับสกุลต่างๆ (USD, AUD, RMB, SGD)

    • ควบคุม Realized Gain & Loss ของ FX ได้ดี ทำให้ไม่มี Loss จาก FX

    • สรุป: ยังไม่มีผลกระทบอะไรจากนโยบายของทรัมป์

  5. Same Store Sales Growth (SSSG) ในช่วงครึ่งปีหลัง
    • แบ่งตามกลุ่มธุรกิจ:

    • Fashion Group: เป็นบวกและต่อเนื่อง (ลูกค้า segment กลางบน)

    • Lifestyle Group: ยังติดลบ แต่มีทิศทางที่ดีขึ้น (ลดการติดลบของ Pandora)

    • Beauty & Wellness: ยังคงติดลบ (นักท่องเที่ยว)

    • F&B: ติดลบเฉพาะบางสาขา (ช่วงเปิดปีแรก)

    • ภาพรวม: การติดลบจะลดน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

  6. แผนเปิดตัว Brand ใหม่ในครึ่งปีหลัง
    • นอกจาก LIVE ยังไม่มี Brand อื่น

  7. แผนเปิดสาขาเพิ่มเติมในครึ่งปีหลัง
    • โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Pandora, Marimekko, LIVE) ในไตรมาส 3

    • Street Burger ที่สยามพารากอน ในไตรมาส 4

    • HARNN ที่ Hanoi Center

    • ที่เหลือเป็นการ Renovate และ Relocate

  8. ความสามารถในการทำกำไรในครึ่งปีหลัง
    • ธุรกิจมี Fix Cost สูง ถ้า รายได้ยกตัวสูงขึ้น (ตาม Cycle ไตรมาส 3 สูงกว่า 2, ไตรมาส 4 สูงสุด) จะช่วยให้ผลการดำเนินงานดีโดยธรรมชาติ

    • เร่งตัวเองให้มากขึ้นกว่า Cycle ปกติ

    • ควบคุมการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย Year-on-Year

    • สรุป: ยังคงมีศักยภาพที่ดีที่จะนำส่งผลงานในไตรมาสครึ่งหลังได้ดีกว่าครึ่งแรก

โดยสรุป, แม้ว่า TAN จะเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกและค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจ, แต่บริษัทก็ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในต่างประเทศ, การควบคุมค่าใช้จ่าย, และการพัฒนาแบรนด์ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เพื่อสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด