BLS มอง SCGP ไตรมาส 4/67 ต่ำกว่าคาด แต่คาดหวังการฟื้นตัวในไตรมาส 1/68

P/E 23.56 YIELD 3.57 ราคา 15.40 (0.00%)

บล.บัวหลวง แนะนำ "ซื้อ" SCGP ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท


ผลประกอบการต่ำกว่าคาด

บล.บัวหลวง (BLS) วิเคราะห์ว่า SCGP รายงานผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/67 ที่ 57 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 321 ล้านบาท ลดลง 76% YoY และ 53% QoQ เนื่องจากขาดทุนพิเศษที่มากกว่าคาดการณ์ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2567 ที่ 0.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 1.8%

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรหลักปรับตัวลดลง ได้แก่ กำไรที่ลดลงของธุรกิจเยื่อและกระดาษ (ราคาขายเส้นใยสั้นที่ลดลง, ปริมาณขายเยื่อกระดาษแบบละลายที่ลดลง), กำไรที่ลดลงของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (ราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ลดลง และการรับรู้ผลขาดทุนที่มากขึ้นจาก Fajar), และผลการดำเนินงานของธุรกิจรีไซเคิลที่อ่อนแอลง EBITDA margin ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจรอยู่ที่ 12% ลดลงจาก 15% ในไตรมาส 4/66 EBITDA margin ของธุรกิจเยื่อและกระดาษในไตรมาสนี้อยู่ที่ 9% ลดลงจาก 16% ในไตรมาส 4/66 และ 11% ในไตรมาส 3/67 ทั้งนี้ SCGP EBITDA margin รวมอยู่ที่ 9% ลดลงจาก 14% ทั้งในไตรมาส 4/66 และ 10% ในไตรมาส 3/67

แนวโน้มและการลงทุน

BLS คาดว่ากำไรหลักจะเติบโต QoQ ในไตรมาส 1/68 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทั้งธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (รวมถึง Fajar) และธุรกิจเยื่อและกระดาษ คาดว่าปริมาณขายและราคาขายกระดาษบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์จะเพิ่มขึ้น และปริมาณขายเยื่อกระดาษแบบละลายเพิ่มขึ้น ดังนั้นอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะสูงขึ้นสำหรับทั้งธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจรและธุรกิจเยื่อและกระดาษ BLS ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 4,386 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19% YoY) ตามเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

BLS แนะนำ "ซื้อ" SCGP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 22.00 บาท โดยให้เหตุผลว่าราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2568 ที่ 16.0 เท่า (ค่าเฉลี่ยภูมิภาคอยู่ที่ 17.2) และ PBV ณ สิ้นปี 2568 เพียง 0.6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 1.0 เท่าค่อนข้างมาก) บ่งชี้ว่าตลาดได้สะท้อนผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่อ่อนแอไปในราคาแล้ว ซึ่งถือเป็นโอกาสในการทยอยสะสม

โพสต์ล่าสุด