บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
PJW: สรุป Oppday Q2/2568 - มองบวกอนาคตสดใส ธุรกิจยานยนต์และHealthcare หนุนการเติบโต
P/E 7.03 YIELD 4.46 ราคา 2.08 (0.00%)
PJW: สรุป Oppday Q2/2568 - มองบวกอนาคตสดใส ธุรกิจยานยนต์และHealthcare หนุนการเติบโต
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
PJW มี 5 กลุ่มธุรกิจหลัก: บรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น, ผลิตภัณฑ์นม/นมเปรี้ยว, Consumer Goods/เคมีเกษตร, ชิ้นส่วนยานยนต์ และซักรีดอุตสาหกรรม
ลูกค้าหลักยังคงเป็นลูกค้าเดิม เช่น Honda, Mitsubishi, Isuzu, Nissan (ยานยนต์); OR, Chevron, Caltex, PT (น้ำมันเครื่อง); CP-Meiji, Dutch Mill, ไทยเดนมาร์ค (นม); CP, เอราวัณ (เคมีเกษตร); โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, ศิริราช, รถไฟแห่งประเทศไทย, บขส. (ซักรีดอุตสาหกรรม)
สัดส่วนรายได้จากบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นลดลง 4% (จาก 45.5% เหลือ 41.8%) แต่รายได้รวมยังเติบโตได้
สัดส่วนรายได้จากยานยนต์เพิ่มขึ้น 2.2% (จาก 20.1% เป็น 22.2%) และซักรีดเพิ่มขึ้นเกือบ 2% (จาก 16.8% เป็น 18.6%)
รายได้จากนมและ Consumer Product ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
รายได้จากจีนลดลง 5.4% แต่เติบโต 10.7% เมื่อเทียบกับปี 2566
ราคาวัตถุดิบ (HDPE) ถูกลง 10% โดยรวม
รายได้ Q2/2568 อยู่ที่ 918.6 ล้านบาท เติบโต 5.3% จาก 872.1 ล้านบาทใน Q2/2567
สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลดลง ทำให้ GP ดีขึ้น (จาก 16.3% เป็น 18.8%)
Net Profit Margin เพิ่มขึ้นจาก 1.8% เป็น 4.0% (จาก 16 ล้านบาท เป็น 37.1 ล้านบาท)
ลูกค้ากลุ่มยานยนต์มีการปรับฐาน/ย้ายโรงงาน ทำให้สั่งสต็อกปลายไตรมาส 2 ค่อนข้างมาก
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
การเติบโตในประเทศและภูมิภาค (ทั้ง Indirect/Direct Export) โดยเน้น Partnership กับลูกค้า (OEM, B2B)
การมุ่งเข้าสู่อุตสาหกรรม Healthcare และ Master Laundry
การอัพเกรดตัวเองในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ให้เทียบเท่าบริษัทระดับนานาชาติ
เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร (Profitable Growth)
การพัฒนาสินค้า Healthcare ที่เกี่ยวกับโรคไต โดยทำงานร่วมกับ Partner
การขยายตลาดซักรีดอุตสาหกรรมในภาคอีสาน
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ความล่าช้าในการออกผลิตภัณฑ์ Healthcare ใหม่
การแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
การสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะ Solution Provider ไม่ใช่แค่ผู้ผลิต
การคํานึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของ Stakeholders
การออกแบบบรรจุภัณฑ์/ชิ้นงานให้ทันสมัย ลดต้นทุน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การ Operate 24 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตสินค้าได้ตามมาตรฐานตลอดเวลา
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และแลกเปลี่ยนข้อมูล/นโยบาย/กลยุทธ์
การจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
PJW มุ่งเน้นการเติบโตทั้งในประเทศและภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (คาดเป็นพระเอกในปีหน้า), Healthcare, ซักรีด และชิ้นส่วนทางการแพทย์
คาดหวังกำไรและยอดขายเติบโตค่อนข้างเยอะในปีหน้า
DE Ratio ที่ 1.7 ไม่น่ากังวล และคาดว่าจะลดลงในปีหน้า
แนวโน้มดอกเบี้ยถูกลงจะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [00:25:54]
-
**สินค้าทางการแพทย์:**
- **คำถาม:** สินค้าทางการแพทย์ในครึ่งปีหลังจะมีรายได้เท่าไหร่ มีลูกค้าหรือยัง?
- **คำตอบ:** คาดว่ารายได้ครึ่งปีหลังไม่มาก ประมาณ 10-20 ล้านบาท เนื่องจากมาช้ากว่าแผน ลูกค้าคือ DKSH มีการเซ็นสัญญาแล้ว เตรียมออก PO ภายใน 1-2 สัปดาห์ โรงงานพร้อมผลิตและขายได้ มี Oxygen Humidifier และ Suction Bag ที่จะผลิตเพิ่มคือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโรคไต
-
**Product ใหม่:**
- **คำถาม:** สินค้าทางการแพทย์นอกจาก 3 SKU เดิม มีการเพิ่ม Product ไหม?
- **คำตอบ:** มี Oxygen Humidifier, Suction Bag และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโรคไตที่กำลังจะตามมา นอกจากนี้มี ACL Implant Part (เอ็นไขว้หน้า) และมีอีก 2 ตัวที่อยู่ใน Pipeline แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นการทำงานร่วมกับ ม.ขอนแก่น และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
**Distributor:**
- **คำถาม:** มีแผนที่จะให้ Distributor การแพทย์เป็น Partner เพื่อช่วยขยายตลาดไหม?
- **คำตอบ:** ที่เลือก DKSH เพราะมี Product นำเข้าเยอะ มองเห็นโอกาส และมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกัน มี Product หลายตัวที่ PJW ไม่ได้คิดถึง DKSH จะนำมาให้ทำและทดแทนการนำเข้า เริ่มทำงานร่วมกันแล้ว หากขายสินค้าไปสัก 1-2 เดือน DKSH มีความมั่นใจก็จะคุยกันต่อ ตอนนี้มีแค่เล่าให้ฟังและมีตัวอย่างให้ดู สรุปว่า PJW มี Distributor 2 ราย คือ 3P และ DKSH
-
**Outlook ครึ่งปีหลัง:**
- **คำถาม:** Outlook ในครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกหรือไม่?
- **คำตอบ:** ไม่ได้ดีกว่าครึ่งปีแรก แต่ก็ไม่ได้แย่กว่ามากนัก Automotive มาเร็วกว่าที่คาด แต่การแพทย์มาช้ากว่าที่คาด ปี 2568 จะพยายามผลักดันผลประกอบการให้อยู่ในระนาบเดียวกับปี 2566 ปีหน้า Automotive จะเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ (อาจถึง 50%) Healthcare จะขายเต็มปี และซักรีดมีการขยายกำลังการผลิต
-
**น้ำมันเครื่อง:**
- **คำถาม:** น้ำมันเครื่องจะตกลงไปเยอะแค่ไหน?
- **คำตอบ:** ในประเทศตกลง แต่ต่างประเทศดีขึ้น PJW จึงไม่ Impact มากนัก ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตน้ำมันเครื่องมาตั้งแต่ปี 1995 ไทยเป็น Detroit of Asia ทำให้ Major Oil ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต Small Pack ส่วน 200 ลิตรขึ้นไปอยู่ที่สิงคโปร์ แม้ไทยจะลดลง แต่เวียดนาม/ฟิลิปปินส์/มาเลเซียโตขึ้น PJW จึง Re-export ได้
- **คำถาม:** จะมีการย้ายฐานการผลิตน้ำมันเครื่องไปอินโดนีเซีย/เวียดนาม/มาเลเซียไหม?
- **คำตอบ:** อินโดนีเซียคงโตขึ้น แต่รองรับการเติบโตในประเทศเขาเอง เวียดนามยังไม่ไปเพราะยังอยู่ในช่วงดาวน์ว่าจะไป Hydrogen/EV การที่มันลังเล PJW จึงได้ประโยชน์ เพราะไทยยังคงเป็นฐานการผลิตและ Re-export
-
**ราคา Resin:**
- **คำถาม:** ราคา Resin ใน Q3 มีราคาลดลงเทียบกับ Q2 หรือไม่?
- **คำตอบ:** ควรจะลง แต่ลงไม่เยอะ ทรงๆ มากกว่า อาจขึ้นเล็กน้อยด้วยซ้ำ เนื่องจากมีภาษี Trump และ Re-shoring ทำให้ราคาน้ำมันดิบไม่ถูกลง ราคาวัตถุดิบก็ไม่น่าจะถูกลงตามไปด้วย คาดว่า Q3/Q4 จะทรงๆ แบบนี้
-
**Medical มีนัยยะเมื่อไหร่:**
- **คำถาม:** Medical จะเริ่มมีนัยยะในงบเมื่อไหร่?
- **คำตอบ:** ปีนี้ Q4 แค่มาเติมในงบ แต่ปี 2570 จะมี Product มา 3 ตัวเต็มปี และส่งออกในอาเซียนได้ Oxygen Humidifier สามารถส่งออกในอาเซียนได้ ตลาดในประเทศ 60 ล้านคน อาเซียน 600 ล้านคน
-
**CapEx:**
- **คำถาม:** งบ CapEx ปีนี้เป็นอย่างไร?
- **คำตอบ:** ปีนี้งบ CapEx ประมาณ 270 ล้าน ใช้ไปแล้ว 151 ล้าน ครึ่งปีแรกเพิ่มงบ CapEx เรื่องอาคารสำนักงาน (ชลบุรี, Master Laundry) ครึ่งปีหลังขยายกิจการ (กำลังการผลิต, เครื่องจักร) และอาจมีที่ดินบางส่วน
-
**Growth ซักรีด:**
- **คำถาม:** ปี 2569 ธุรกิจซักรีดจะมี ยอดขายเติบโต กี่ %?
- **คำตอบ:** คาดการเติบโตไว้ประมาณ 2 หลัก หรือ 12 - 15 %
-
**ความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา:**
- **คำถาม:** ความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา จะกระทบต่อ ธุรกิจนมเปรี้ยวหรือไม่?
- **คำตอบ:** กระทบบ้างเล็กน้อย
-
**แข่งขันกับบริษัทใหญ่:**
- **คำถาม:** บริษัทได้เปรียบเสียเปรียบ บริษัทระดับ Global อย่าง Shell / Exxon Mobil อย่างไร?
- **คำตอบ:** Technology เราไม่แพ้ มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง, Market Share อันดับ 1, First tier supplier ด้านยานยนต์
-
**Common vs Custom Mold:**
- **คำถาม:** สินค้า Common vs Custom ต่างกันอย่างไร?
-
**คำตอบ:**
- Common Mold: ราคาสูงกว่า Volumnไม่แน่นอนลูกค้าเยอะ เสี่ยงต่อการเก็บเงินได้ยาก แอดมินเยอะ
- Custom Made: ราคาสูง,Volume แน่นอน ลูกค้าเน้นเจ้าใหญ่เก็บเงินง่าย
โดยสรุป PJW ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยมีธุรกิจยานยนต์และ Healthcare เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ แม้จะมีปัจจัยท้าทายบ้าง แต่บริษัทก็มีแผนการรับมือและปรับตัวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้