สรุป OPPDAY หุ้น VIBHA
Oppday
สรุป OPPDAY
ถอดรหัส Oppday VIBHA: วิเคราะห์ผลประกอบการ Q3/2568 เจาะลึกกลยุทธ์ฝ่าวิกฤต สร้างการเติบโตยั่งยืน
สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 ของบริษัทโรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมพิเศษที่เกิดขึ้น, การนำเสนอศูนย์ทันตกรรม, Business Overview, Financial Performance Trends และโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview): มีการกล่าวถึงธุรกรรมพิเศษที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 คือการขายหุ้นโรงพยาบาลรามคำแหงออกไปให้บุคคลภายนอก, ธุรกรรมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 เกี่ยวกับการขจัดปัญหาการถือหุ้นไขว้กัน, และการขายหุ้น CMR ที่ถือ CMS อยู่เดิม
- โรงพยาบาลวิภาวดีถือหุ้น CMR 82.57%
- CMR ถือหุ้น CMS 56.37%
- CMS ถือหุ้นรามคำแหง 7.19%
- รามคำแหงถือหุ้น CMS 42.89%
รายได้รวมลดลง 224 ล้านบาท คิดเป็น 9.2% โดยมาจากค่ารักษาพยาบาลที่ลดลง 200 ล้านบาท (วิภาวดี 90 ล้านบาท, CMR 130 ล้านบาท) แต่มีรายได้จากคลินิก IVF Fertiva เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท
EBITDA ลดลง 228 ล้านบาท คิดเป็น 30% จากรายได้ที่ลดลงและต้นทุนรักษาพยาบาลที่ลดลง 20 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงตามสัดส่วน, และกำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนต่ำกว่าปีที่แล้ว 53 ล้านบาท
กำไรสุทธิลดลงจากปีที่แล้ว 280 ล้านบาท โดยมาจากภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาทจากการขายหุ้นรามคำแหง
จำนวนผู้ป่วย OPD ของวิภาวดีลดลง 5.4% (7,600 คน) และ IPD ลดลง 13% (900 คน) ในขณะที่ CMR OPD ค่อนข้างใกล้เคียงเดิม
สำหรับงบ 9 เดือน, Total Revenue ลดลง 255 ล้านบาท คิดเป็น 3.7% จากค่ารักษาพยาบาลที่ลดลง 300 ล้านบาท (วิภาวดี 100 ล้านบาท, CMR 100 ล้านบาท, Beauty Design 36 ล้านบาท) แต่ VP Precision มีรายได้เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท และ Fertiva 21 ล้านบาท
EBITDA ลดลง 500 ล้านบาท หลักๆ มาจากการวัดมูลค่าเงินลงทุน (ขาดทุนมากกว่าปีที่แล้ว 250 ล้านบาท) และต้นทุนรักษาที่เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาทจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำของ CMR
Net Income ลดลง 500 ล้านบาทจาก EBITDA ที่ลดลงและภาษีเงินได้พิเศษจากการขายหุ้นรามคำแหง
จำนวนผู้ป่วยวิภาวดี OPD เพิ่มขึ้นเล็กน้อย (800 คน) แต่ IPD ลดลง 1,700 คน ส่วน CMR OPD เพิ่มขึ้น 1.2% แต่ IPD ลดลง 9.6%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities): การนำเสนอศูนย์ทันตกรรมที่ Reorganize ใหม่ โดยมีการรักษาทุกสาขาที่เชี่ยวชาญของทันตกรรม
- มีแพ็คเกจทันตกรรมรากฟันเทียมเริ่มต้นที่ 55,000 บาท
- แพ็คเกจรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยทันตแพทย์เฉพาะทาง
การร่วมลงทุนกับเครือโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งวิภาราม (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) และ CMR (ภาคเหนือ) เพื่อขยายฐานลูกค้า
กลุ่มโรงพยาบาลครอบคลุมลูกค้าตั้งแต่ Middle Income ถึง High Income และ International รวมถึงผู้ใช้สวัสดิการภาครัฐ (ทุติยภูมิถึงตติยภูมิ)
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges): การลดลงของรายได้รวมและ EBITDA ในไตรมาส 3 เนื่องจากการลดลงของค่ารักษาพยาบาลและผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ภายนอก
การเพิ่มขึ้นของภาษีเงินได้จากการขายหุ้นรามคำแหง ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ
การลดลงของจำนวนผู้ป่วยในบางกลุ่มโรงพยาบาล
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation): การขจัดปัญหาการถือหุ้นไขว้กันเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและลดความซับซ้อนของโครงสร้างบริษัท
การปรับปรุงและนำเสนอศูนย์ทันตกรรมใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า
การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มต่างๆ และการให้บริการที่หลากหลาย
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends): แนวโน้มไตรมาส 4: Performance ของผู้ป่วยเริ่มกลับมา, คาดว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ภาพรวมเศรษฐกิจ: การเข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชนแบบเก็บเงินเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
เป้าหมายปี 2568: พยายามทำรายได้ให้เท่ากับปีที่แล้ว
การเปิดให้บริการวิภาวดีสาขาพระราม 2 (เฟสแรก 59 เตียง คาดว่ากลางปีหน้า, ตั้งเป้า 200 เตียงในอีก 3 ปี)
วิภาราม: อาคาร OPD และที่จอดรถ (95%), อาคาร IPD (ขอ EIA), อมตะนครใกล้ก่อสร้างเสร็จ
คาดหวังผลการดำเนินงานของวิภารามที่ดีขึ้นจากประกันสังคม, การันตี DRG 12,000 บาท
ปีหน้า: ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลอาจใกล้เคียงกับปีนี้, แต่ CMR อาจมีส่วนแบ่งกำไรจาก CMS ลดลง, ประกันสังคมวิภารามน่าจะดีขึ้น
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 59:13]
- แนวโน้มไตรมาส 4 เทียบ QonQ และ YoY เป็นอย่างไร
ตอบ: ตอนนี้เท่าที่ดู ไตรมาส 4 Performance ของคนไข้เริ่มที่จะกลับมา เทียบกับปีที่แล้วก็น่าจะใกล้เคียงกัน ไตรมาส 4 ถ้าดูจากจำนวนคนไข้อย่างเดียวคิดว่าน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
- ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงที่เหลือของปีมองอย่างไรบ้าง
ตอบ: ในแง่ของการเข้ามารักษาโรงพยาบาลเอกชนแบบเก็บเงิน ก็เริ่มกลับเข้ามา เริ่มกลับเข้ามาใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ในสามไตรมาสแรกไม่ค่อยดีสำหรับโรงพยาบาลเงินสด
- เป้าหมายปี 2568
ตอบ: ทางคุณแพทได้พูดไปแล้ว ในส่วนของเป้าหมายของปี 2568
- การฟื้นตัวของผู้ป่วยและรายได้หลัก สาเหตุที่ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในไตรมาส 3 คืออะไร แนวโน้มปริมาณผู้ป่วยได้ฟื้นตัวกลับมาหรือยังในไตรมาส 4
ตอบ: ไตรมาส 4 ถ้าเทียบกับปีที่แล้วก็เริ่มกลับมา พอๆ กับปีที่แล้ว ในส่วนของไตรมาส 3 ที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ คือ คิดว่าผู้ป่วย Admission น้อยลง และถ้า Admission ก็อาจจะไปใช้สิทธิมากขึ้น เพราะฉะนั้นก็เลยมองว่าโรงพยาบาลที่เป็นประกันสังคม ถ้าไปดูสถิติอาจจะมีเพิ่มขึ้น ถ้าเทียบกับโรงพยาบาลเงินสดที่ส่วนใหญ่จะลดลง ในเครือเราก็มีทั้งสองรูปแบบ เพราะฉะนั้นก็เลยมีตัวที่เปรียบเทียบกันอยู่
- ความคืบหน้าของโรงพยาบาลวิภาวดีพระราม 2 เปิดให้บริการและรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4 หรือไตรมาส 1 ปีหน้า
ตอบ: น่าจะเป็นช่วงไตรมาส 1 ปีหน้าที่จะเริ่มเปิด และอาจจะมีการรับรู้รายได้จริงๆ น่าจะช่วงปลายไตรมาส 1 หรือต้นไตรมาส 2
- ธุรกิจทำกำไรสูงเฉพาะทางใหม่ๆ เช่น Fertiva, Gamma Knife ที่เปิดบริการแล้ว จะเริ่มสร้างรายได้อย่างมีนัยยะสำคัญและช่วยหนุน Gross Profit Margin ให้ดีขึ้นไตรมาส 4 ในสัดส่วนเท่าใด
ตอบ: Fertiva คลินิกเพิ่งเปิดได้เมื่อประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นก็อยู่ในช่วงที่ Ramp Up ตัวรายได้อยู่ ตอนนี้ปัจจุบันรายได้ต่อเดือนก็น่าจะอยู่ประมาณสัก 3 ล้านบาทต่อเดือน ก็ถือว่ายังไม่ได้เป็นสัดส่วนที่มีนัยยะสำคัญ ถ้าเทียบกับงบการเงินรวม ซึ่งเป็นหลักพันล้าน ก็อยู่ในช่วงที่กำลังค่อยๆ Build ไปอยู่ ส่วน Gamma Knife เป็นรูปแบบของการลงทุนที่เป็น Share Profit Margin เพราะฉะนั้นก็อาจจะรับรู้ในแง่ของการส่วนแบ่งกำไรที่แบ่งมาจาก การทำอรรถการมากกว่า ก็เพิ่งเริ่มต้นเหมือนกัน ซึ่ง Gamma Knife เนี่ยเปิดหลังจาก Fertiva อีก ก็เลยคิดว่าน่าจะยังไม่มี ยังไม่มีนัยยะสำคัญกับงบเท่าไหร่ แต่ก็ต้องค่อยๆ พยายามที่จะ สร้างฐานคนไข้ไปเรื่อยๆ ปัจจุบันก็น่าจะยังอยู่หลักไม่ถึง 10 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งสองอันรวมกัน
- รายการพิเศษที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ผลขาดทุนจากการวัดมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินที่กระทบกำไรในไตรมาส 3 จะมีลักษณะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 หรือไม่ บริษัทมีนโยบายในการจัดการพอร์ตการลงทุนอย่างไร เพื่อลดความผันผวนของกำไร
ตอบ: ปัจจุบันผลการ จะมีลักษณะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ก็คือในแง่ของการบันทึกบัญชี ถ้าเราได้ตัดสินใจในการบันทึกตามมูลค่าหุ้นที่อยู่ในตลาดแล้ว มันก็จะถูกบันทึกตามมูลค่าตลาดที่เปลี่ยน ที่เปลี่ยนแปลงทุกไตรมาส ก็ต้องเอามาบันทึกในการที่จะ เอาราคาตลาดมาบันทึกต่อไปเรื่อยๆ นโยบายในการจัดการพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความผันผวน ก็คือปัจจุบันเรา เราชะลอการลงทุน ก็คือเราเริ่มที่จะไม่ ไม่มีการซื้อหุ้นที่จะบันทึกในลักษณะแบบนี้อีกแล้ว แต่ของเดิมที่เหลืออยู่ยังไงก็ยังจะต้องบันทึกตามมูลค่าที่เปลี่ยนไปตามตลาด
- พิจารณาจากผลประกอบการ Q3 ที่อ่อนแอและตลาดรับรู้รายได้ต่อจากนี้ คุณหมอเห็นภาพว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4 จะสามารถเติบโตเมื่อเทียบกับ Q3 และ Q4 YoY ได้หรือไม่
ตอบ: ไตรมาส 3 ติดลบ เพราะฉะนั้น ถ้าเทียบกับงบการเงินโดยที่เป็นงบการเงินที่เผยแพร่ที่รวมถึงเรื่องของมูลค่าหุ้น หรือการขายหุ้นต่างๆ ยังไงไตรมาส 4 ของปีนี้ก็คาดกันว่าน่าจะดีกว่าไตรมาส 3 ของปีนี้อยู่แล้ว เพราะไตรมาส 3 ของปีนี้มันติดลบจากการที่กำไรจากการขายหุ้น มันไม่ได้ถูกบันทึกเข้าไปในงบกำไรขาดทุน แต่ไปอยู่ในกำไรสะสม แต่ว่าภาษีเนี่ยมันถูกบันทึกเข้าไปในกำไรขาดทุน ก็เลย ถ้าเทียบไตรมาส 4 ปีนี้ที่กำลังจะออก กับไตรมาส 3 ปีนี้ที่มันติดลบ ยังไงมันต้องดีขึ้นอยู่แล้วคาดว่า และก็ไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ถ้า ถ้าตัดรายการพิเศษทั้งหมดออกด้วย Performance คิดว่ามันดีขึ้น แต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ ถ้านับรายการพิเศษ ถ้าทำเสร็จทันภายในไตรมาส 4 ก็คิดว่าจะดีขึ้นเช่นกัน เพราะว่ามันมี 2 ธุรกรรมที่ผมได้กล่าวไปตอนต้นของการนำเสนอ ถ้าการเรื่องของการจ่ายเงินอะไรทุกอย่างมันจบภายในไตรมาส 4 ก็คาดว่ามันก็จะมีส่วนที่เป็นบวกกับงบอยู่ ซึ่งถ้าไปเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้วก็ทำให้มันสูงกว่าอยู่แล้ว
- ยังคงยืนยันเป้าหมายการเติบโตรายได้รวมทั้งปี 2568 หรือไม่
ตอบ: ตอนนี้เท่าที่ดูเทรนด์ของ 2568 รายได้เร าลดลงไปค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นตอนนี้เป้าของทั้งปี 2568 ก็คิดว่าน่าจะพยายามทำให้มันเท่าๆ กับปีที่แล้ว ไม่ได้คิดว่าในส่วนของรายได้น่าจะไม่โตขึ้น แต่ก็ต้องพยายาม
- ถ้ากำไรพิเศษจากการขายหุ้นโรงพยาบาลเป็นเท่าไหร่ จะมีปันผลพิเศษไหม
ตอบ: หมายถึงการขายหุ้นโรงพยาบาลตรงส่วนไหน เพราะที่ผมได้พูดไปมันมีทั้งหมด 3 ธุรกรรม แต่ถ้า ถ้า ต้องเข้าใจว่าบางส่วนของการทำธุรกรรม มันไม่ได้ถูกบันทึกเป็นกำไรในงบกำไรขาดทุนด้วย อันนี้ท่านนักลงทุนหรือท่านนักวิเคราะห์อาจจะต้อง ไปศึกษาดูว่าในการขายหุ้นของโรงพยาบาลเนี่ย มันมีเม็ดเงินเข้ามาก็จริง แต่ว่าบางส่วนมันไม่ได้ถูกบันทึกเข้าไปเป็นงบกำไรขาดทุน เพราะฉะนั้นตรงนี้อาจจะตอบยากว่ามันจะถูกบันทึกไปเท่าไหร่ แต่ว่าจะมีปันผลพิเศษไหมอันนี้ ตอบได้แค่ว่า ในเรื่องของ กระแสเงินที่จะเข้ามาเนี่ย ยังไงมันเข้ามาที่บริษัทแน่นอน คาดว่าถ้าทั้งสามธุรกรรมจบเนี่ย ก็จะมี เม็ดเงิน ที่จะไหลเข้ามาที่บริษัทก็น่าจะเข้ามา หลักหลายร้อยล้านอยู่ ซึ่งตรงนี้จะมีปันผลพิเศษไหม ก็อยู่ที่ การ พิจารณาของบอร์ดบริษัท แล้วก็ขออนุมัติผู้ถือหุ้นอีกทีนึงว่าจะออกมามีหรือไม่มี
- Tax rate เพิ่มขึ้นไป 28.7% ใน 3 ไตรมาส เทียบกับปีก่อน
ตอบ: อันนี้ทางคุณหมอแพทได้แจ้งไปแล้วว่าเป็นเรื่องของการขาย ขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึง มันมีตัว Deferred Tax แล้วก็ปกติแล้วตัวภาษีเงินได้ที่อยู่ในงบการเงิน มันจะมีทั้ง Current Income Tax แล้วก็ Deferred Income Tax ซึ่งเขาเวลาเขาแสดง เขาจะแสดงรวมกัน ดังนั้นในส่วนของ Deferred Tax บางทีมันอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เวลา คุณเปอร์เซ็นต์ออกมาแล้ว มันอาจจะแตกต่างจาก โดยปกติ แต่ถ้าในโดยปกติแล้ว ตัว Current Income Tax เอง เรา เราจ่ายภาษีที่อัตรา 20% อยู่แล้ว ประมาณนี้ อาจจะต้องดูว่าไอ้ตัว Deferred Tax อันนี้มันอยู่ในหมายเหตุด้วยว่า Deferred Tax อย่าง ยกตัวอย่างนะคะ ในส่วนของ รายการพิเศษที่ขายหุ้นราม แล้วก็มีภาษีที่บันทึกในงบกำไรสุทธินะค่ะ ก็คือในงบของตัว CMR เอง เขาบันทึกภาษีที่ 191 ล้านบาท แต่ว่าตอนที่นำมาคอนโซลในงบวิภาวดี จะมีตัว Deferred Tax ที่เป็นยอดภาษีที่ติดลบอีก อีก 80 ล้านบาท ทำให้ในงบการเงินรวมของวิภาวดีอ่ะ มีภาษีที่เกิดจากตัวเนี้ย 110 ล้านบาท
- Net Profit Margin กลับมาเกิน 10% อีกครั้ง บริษัทคาดว่าตัวเลขนี้จะเป็นเทรนไปได้เรื่อยๆ หรือไม่ ด้วยสาเหตุใด จากงบดูเหมือน Net Profit Margin ของบริษัทจะ fluctuate ค่อนข้างมาก จาก 10 ไป 6 และกลับมาเป็น 10%
ตอบ: ถ้าเกิดดู Net Profit Margin จากงบมันจะดูค่อนข้างยาก เพราะว่า มันมีเรื่องของการวัดมูลค่ายุติธรรม มันมีเรื่องของการขายหุ้นพวกนี้มารวมอยู่ด้วย แต่โดยทั่วไป Net Profit Margin ของโรงพยาบาลก็จะอยู่ที่ประมาณ ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ Mature แล้วก็จะอยู่ประมาณ 8-10 กว่าเปอร์เซ็นต์ ขออธิบายเพิ่มเติมค่ะ ในส่วนของตัว Net Profit Margin อ่ะค่ะ ถ้าจะดูอาจจะต้องดูในหน้าหน้า ที่เป็น Financial Performance Trends ที่เรามีการแยกระหว่างตัวที่เป็น Operating Income กับ Investment Income เพราะว่าในส่วนของ Investment Income เองอ่ะ ตัวที่เป็น Temporary ตรงเนี้ยค่ะ ทางขวา มือสุดอ่ะก็จะเป็น ตัวการวัดมูลค่าเงินลงทุน ซึ่ง ตัวเนี้ย เอ่อเป็นกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นชั่วคราว อาจจะไม่ต้องนำมาใช้ในตอนที่เราประเมินว่าตัว Profit จริงๆ ของบริษัทเป็นเท่าไหร่ แล้วก็ในส่วน Temporary ตรงเนี้ย ก็จะเนื่องจากเป็นการวัดมูลค่าตามมาตรฐานการบัญชี ก็จะไม่ได้มีการนำไปคำนวณตอนที่เสียภาษีเช่นเดียวกัน
- ขออนุญาตถามถึงปัจจัยบวกของปี 2026 สำหรับกลุ่มโรงพยาบาล
ตอบ: อาจจะต้องดูสภาพเศรษฐกิจด้วย แต่ว่าผมมองว่ายังไง ตัวโรงพยาบาลประกันสังคมก็อาจจะต้องดูเรื่องของตัวนโยบายของของรัฐบาลด้วย นโยบายของสำนักงานประกันสังคมด้วย แต่ที่ผ่านมาปี ปีนี้นะครับ ก็มีการการันตีเรื่องของ DRG ก็มองว่าเป็นปัจจัยบวก ซึ่งถ้าเกิดว่าสามารถ Maintain ตัวการันตีตัวนี้ได้ ในปี 2026 ก็คิดว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับโรงพยาบาลประกันสังคม ซึ่งเราก็มีหลายโรงที่อยู่ในเครือที่รับประกันสังคมด้วย แล้วก็ในส่วนของ ประกันสุขภาพเองที่มีการ Co-payment ก็คิดว่าคนน่าจะมีการทำความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมา มองว่า การที่ คนไข้ปฏิเสธการ Admit ส่วนนึงก็น่าจะมาจากการออก Co-payment แล้วก็ขาดความเข้าใจตรงนี้ด้วย ซึ่งก็อาจจะต้องมาดู Feedback ใน ของปี 2026 ว่ามันจะเป็นยังไง
- รายได้ UCEP ของบริษัทอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ต่อไตรมาส Ticket Size ประมาณเท่าไหร่
ตอบ: รายได้ UCEP ค่อนข้างต่ำมาก เพราะว่า UCEP เป็นอะไรที่เป็นเฉพาะฉุกเฉิน ถ้าทั่วไปของโรงพยาบาลรายได้ UCEP ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ Mature แล้วอย่างที่บอกก็คือ ถ้ามันเปิดมานานแล้ว แล้วก็มีฐานคนไข้อยู่แล้วเนี่ย รายได้ UCEP อาจจะอยู่ที่ประมาณแค่ หลัก 1-2% เท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่อาจจะเปิดขึ้นใหม่ หรือว่า โรงพยาบาลเล็กๆ รายได้ UCEP ก็อาจจะสูงกว่านั้นนะ
- บริษัทประเมินการเข้าควบคุมของรัฐในการเปิดเผยราคายาและการเบิกจ่ายยาอย่างไรบ้าง
ตอบ: น่าจะต้องรอดูว่าระเบียบออกมาเป็นยังไงนะครับ แต่ว่าทางบริษัทเองก็มีการเตรียมตัวในเครือก็มีการประชุมกันเรื่องนี้แล้วก็ประเมินเรื่องของ นโยบาย คิดว่าถ้าออกมาแล้วเราจะมีการปรับตัวอย่างไรบ้าง ก็มีการประเมินอยู่ แต่ยังไงก็ต้องรอความชัดเจนในเรื่องนี้ว่าจะออกกฎระเบียบอะไรมา
- พอจะมีมีความเป็นไปได้ไหมที่โรงพยาบาลวิภาวดีและเชียงใหม่รามจะรับประกันสังคมสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ
ตอบ: ทุกอย่างมันเป็นไปได้อยู่แล้วนะครับ แต่ก็ต้องดูได้ว่า เราต้องประเมินในแง่ของ การบริหารด้วยว่าถ้าทำแล้ว อ่ามันจะเป็นยังไง มันจะกระทบอะไรยังไงบ้างนะครับ แต่ในอันใกล้ๆ นี้ก็คิดว่าคงยังไม่ได้เกิดขึ้น
- บริษัทประเมินผลกระทบ Co-payment ที่กี่เปอร์เซ็นต์ของ ทัพไลน์
ตอบ: ผมคิดว่ามันกระทบไปแล้วนะครับ Co-payment นี่คิดว่ามันกระทบตั้งแต่ตอนที่ประกาศข่าวออกมา ก็น่าจะตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่มีผลกระทบแล้วนะ คิดว่ามันไม่น่าจะมีผลกระทบในอนาคต เพราะว่าคนก็คือรู้เรื่อง เริ่มรู้เรื่องนี้ไปแล้ว
- ขออนุญาตสอบถามถึงสาเหตุบริษัทตัดสินใจขายหุ้นรามคำแหง
ตอบ: ตอบไปแล้ว เรื่องของการถือหุ้นไขว้กัน ก็คือต้องการที่ไม่ต้องการที่จะให้มีการถือหุ้นไขว้กันในบริษัท ส่วนที่ขายไปเท่ากับกี่เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดที่บริษัทถือ เอ่อ ผมได้อธิบายไปในตอนต้นแล้วว่าเราขายไปทั้งหมด คือแต่เดิมเนี่ย บริษัทถือผ่านทาง CMS เนี่ยถืออยู่ประมาณ 7% กว่า ทีนี้เราขายออกไปแล้ว ประมาณ 4% กว่าแล้วก็ขายส่วนที่เหลือไป 2% กว่า ทำ ให้ไม่ถือหุ้นในรามคำแหงแล้วนะครับ แต่รามคำแหงยังถืออยู่ใน CMS อยู่นะ ก็จะได้ไม่มีการถือหุ้นไขว้กันนะครับ
- เป้าการเติบโตของปี 2569 ว่าคิดว่า
ตอบ: อยากจะโตจากปีนี้ ซึ่งปีนี้เราตั้งเซต target ไว้ ถ้าจะปรับ target ใหม่ก็คือให้เท่ากับ แค่ขอแค่รายได้เท่ากับปีที่แล้วนะครับ ซึ่งถ้าเกิดว่า target ของปีหน้าก็คืออาจจะเท่ากับ ปี 2024 ไปอีกโตขึ้นอีกประมาณสัก 10% ประมาณ
โดยสรุป, ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2568 ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย, โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดลงของรายได้จากการรักษาพยาบาลและการเพิ่มขึ้นของภาษีจากการขายหุ้น อย่างไรก็ตาม, บริษัทกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาและปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต