สรุปงบล่าสุด TPIPP
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและสินค้า รวมถึงรายได้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า ในไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 2,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.43 จากไตรมาส 3 ปี 2566 เนื่องจากปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวดจำนวน 833 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 10.64 จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิสำหรับงวดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 2,390 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.23 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
บริษัทฯ มีแผนธุรกิจมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การพัฒนาที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) โดยมีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่สำคัญในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ดังนี้ บริษัทฯ นำขยะทุกประเภทมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า บริษัทฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) รวมจำนวน 1,559,229 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า บริษัทฯ ได้รับการรับรอง ติตาพล๒ร เต6อก๐อ:(ฏ56) ผ่านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัทฯ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงไฟฟ้าลงร้อยละ 17.35 จากปีก่อน บริษัทฯ นำน้ำทิ้งจากกระบวนการผลิตไฟฟ้ากลับมากรองใช้ใหม่ 4.60% ของปริมาณการใช้น้ำรวม บริษัทฯ นำกากอุตสาหกรรมที่เกิดจากกระบวนการผลิตมาใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงทดแทน วัสดุทดแทน และนำไปรีไซเคิล บริษัทฯ ได้สนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ ร่วมกับอำเภอมวกเหล็ก ในการทำกิจกรรมวันอนุรักษ์ลำน้ำมวกเหล็ก เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่า เพิ่มการดูดซับ CO2 และประโยชน์ใช้สอยในชุมชน เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าร่วมโครงการนคราฟ้าร่วมใจปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว กับมูลนิธิสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต บริษัทฯ สนับสนุนโครงการและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 รวมทั้งสิ้นจำนวน 29.47 ล้านบาท ให้แก่ชุมชน สถานศึกษา วัด โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการต่างๆ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการประกาศให้ติดอันดับ 556100:ประจําป จากสถาบันไทยพัฒน์ เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน (2564, 2565, 2566, 2567) จากการเป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) บริษัทฯ ยังได้รับรางวัลเกียรติคุณจากโครงการหนึ่งล้านก์ล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน ประจำปี 2567 โดยมูลนิธิเพื่อสังคมไทย แบ่งเป็นรางวัลเกียรติยศประเภทบุคคลจำนวน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2567 ให้แก่ นายประชัย เลียวไพรัตน์ ประธานกรรมการบริษัทฯ และ รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2567 ให้แก่ นายประชัย เลียวไพรัตน์ ประธานกรรมการบริษัทฯ และรางวัลเกียรติยศในนามองค์กรจำนวน 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน ประจำปี 2567 รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2567 รางวัลการบริการดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2567 รางวัลบริษัทดีเด่นแห่งปี ประจำปี 2567
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 บริษัทฯ ยังได้รับคะแนนระดับ “Aide” (Excellent) หรือ 5 ดาว ต่อเนื่อง 2 ปี ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CG) ประจำปี 2567 ซึ่งดำเนินการโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยด้วยการสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะกรรมการบริษัทและคณะผู้บริหาร รวมทั้งพนักงาน ในการพัฒนาและยกระดับการกำกับดูแลกิจการอย่างต่อเนื่อง
จากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง TPIPP มี P/E ล่าสุดอยู่ที่ 7.91 เท่า, P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.76 เท่า และ YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 7.89% โดยราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันอยู่ในช่วง 3.32 บาท - 7.96 บาท D/E ปัจจุบันอยู่ที่ 0.8 เท่า แสดงว่าบริษัทมีภาระหนี้สินค่อนข้างสูง แต่สามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ดี วงจรเงินสดเฉลี่ยอยู่ที่ 118.46 ล้านบาท ซึ่งเป็นบวก สะท้อนว่าบริษัทมีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอ แม้ว่าเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน "ติดลบ" ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา บ่งบอกว่าบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ TPIPP ถือเป็นโอกาสลงทุนสำหรับนักลงทุนที่เน้นรับเงินปันผล เนื่องจาก YIELD สูงกว่า 4% โดยบริษัทฯ มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ สำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาว อาจต้องติดตามการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างใกล้ชิด
## โอกาส
* บริษัทมีโอกาสเติบโตในอนาคตจากการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าและสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV)
* บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน
* บริษัทมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน
* บริษัทฯ ได้รับการยอมรับในระดับสากลด้าน ESG
## ความเสี่ยง
* ภาวะเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า
* ราคาเชื้อเพลิงอาจผันผวน
* นโยบายภาครัฐอาจมีการเปลี่ยนแปลง
* บริษัทมีภาระหนี้สินค่อนข้างสูง
(0.41%)
(10.48%)
(1.43%)
(0.67%)
(1.84%)
(8.87%)
(20.58%)
(34.46%)
(2.84%)
(0.64%)
(285.03%)
(55.78%)